[เปิด Netflix มารีวิว] There's Someone Inside Your House ไล่เชือดที่นองเลือดน้อยกว่าที่คิด

[เปิด Netflix มารีวิว] There's Someone Inside Your House ไล่เชือดที่นองเลือดน้อยกว่าที่คิด

[เปิด Netflix มารีวิว] There's Someone Inside Your House ไล่เชือดที่นองเลือดน้อยกว่าที่คิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

There's Someone Inside Your House เล่าเรื่องราวของไฮสคูลย่านชานเมืองแห่งหนึ่งที่เกิดเหตุฆาตกรรมนองเลือด เมื่อนักฟุตบอลหน้าหล่อสุดป๊อปประจำโรงเรียนถูกฆ่าตายอย่างอุกอาจในบ้านพักของตัวเอง การเสียชีวิตของเขาในครั้งนี้นำมาสู่เรื่องซุบซิบในหมู่นักเรียนด้วยกันว่ามูลเหตุที่ผู้ตายถูกฆ่า อาจจะเป็นเพราะ “ความลับ” ที่เขาเคยทำเอาไว้

แน่นอนว่าสูตรของหนังแนวไล่เชือด ฆาตกรต่อเนื่องมักจะเปิดฉากการฆ่าสุดสยอง ที่สามารถนำเสนอภาพรวมของหนังทั้งเรื่องภายในเวลาสิบนาทีแรก ว่าฆาตกรมีบุคลิกอย่างไร มีการคุกคามเหยื่ออย่างไร และทำไมฆาตกรจึงมีแรงจูงใจในการก่อเหตุ เพื่อให้คนดูพอทำความเข้าใจได้ว่า เหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นต่อไปพวกเขาจะต้องใส่ใจรายละเอียดอะไรบ้างเพื่อนำไปสู่การคลี่คลายในตอนท้าย

สิ่งที่น่าสนใจประการแรกคือหนังเลือกจะเปิดฉากการฆ่า ด้วยเหยื่อคนแรกให้กลายเป็นหนุ่มนักกีฬาประจำโรงเรียน ซึ่งในยุคก่อนหนัง Scream หรือสูตรสำเร็จของหนังตระกูลนี้ ส่วนมากแล้วคนที่ตาคาจอเป็นคนแรกมักจะเป็นเพศหญิงที่ดูไม่มีอำนาจในการต่อกรกับฆาตกร แต่ไม่ใช่สำหรับ There's Someone Inside Your House ที่ทำให้เราเห็นว่า ใครก็ตามที่พลาดพลั้งล้วนแล้วแต่สามารถเป็นเหยื่อได้ในทันที

ตัวผู้กำกับอย่างแพทริก แค็ค-ไบรซ์ ที่เคยมีผลงานแจ้งเกิดอย่าง Creep มีความเข้าใจใน “รูปแบบ” ของหนังแนวไล่เชือดเป็นอย่างดี ทำให้วิธีการออกแบบฉากไล่ฆ่าของเขา ที่เหยื่อแต่ละคนจำเป็นต้องหนีตายอย่างหัวซุกหัวซุนออกมาได้น่าสนใจ ยังไม่รวมไปถึงการออกแบบฉาก มุมกล้องที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีความไม่ปลอดภัยตลอดการไล่ล่าที่เกิดขึ้น แต่น่าเสียดายที่บรรดาฉากเหล่านี้มีอยู่ในปริมาณ “น้อยเกินไป” เมื่อเทียบกับจำนวนตัวละครที่เหมาะจะกลายมาเป็นเหยื่อ ประกอบกับความพยายามที่จะใส่น้ำหนักเรื่อง “ความลับของนางเอก” อย่างมาคานี่ ยัง (ซิดนีย์ พาร์ค) ที่ไม่ได้ยากเย็นต่อการคาดเดาในตอนท้าย ทำให้หลายครั้งหลายตอน จุดนี้จึงกลายเป็นส่วนที่ให้ความรู้สึกเยิ่นเย้อและถูกพูดซ้ำไปซ้ำมา

มิหนำซ้ำเมื่อตัวฆาตกรตัวจริงที่หนังเฉลยในตอนท้าย ยิ่งกลายเป็นส่วนน่าผิดหวัง เมื่อคนดูได้ทราบถึงแรงจูงใจของเขาที่พยายาม “เล่นใหญ่” เพื่อแก้แค้นใครบางคน ซึ่งไม่ค่อยสัมพันธ์กับสิ่งที่หนังพยายามปูเรื่องราวมาตลอดกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม จนคนดูอาจจะเกิดอาการบ่นอุบกับตัวเองได้ว่า “ฮ๊ะ แค่เนี้ยเองเหรอ” ไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตามถ้าคุณกำลังมองหาหนังระทึกขวัญแก้เบื่อในช่วงสุดสัปดาห์นี้ There's Someone Inside Your House ถือเป็นตัวเลือกที่ดูได้ เหมือนจะดีแต่ก็ไปไม่สุด จะแย่ก็ไม่ได้ซ้ำซากจนเกร่อ สรุปคือมันเป็นความครึ่งๆกลางๆไปหมดอย่างน่าเสียดาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook