Fast & Furious 9 ครอบครัวขยาย ไม่มีที่สิ้นสุด

 

เกิดอะไรขึ้นในหนังภาคนี้

ดอม (วิน ดีเซล) ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและปลีกวิเวกในพื้นที่ห่างไกลผู้คน กับเล็ตตี้และไบรอันน้อย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา แต่ทั้งสองคนรู้ตัวดีว่าความสงบไม่เคยมีอยู่จริงในชีวิตของพวกเขา ดังนั้นทั้งสองจึงต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอถึงอันตรายที่อาจจะหวนกลับมาเล่นงานได้ทุกเมื่อ ใครจะไปคาดคิดว่าอดีตของดอมจะหวนกลับมาเป็นฝันร้ายเล่นงานเขาอีกครั้ง

อันตรายที่ว่านั้นคือการกลับมาของจาค็อบ (จอห์น ซีน่า) น้องชายที่ถูกดอมทอดทิ้งไปเมื่อในอดีต หลังจากเหตุการณ์ที่พ่อของทั้งสองเสียชีวิตในสนามแข่งรถสมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นวัยรุ่น สองพี่น้องต้องกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งในการช่วงชิงอุปกรณ์สุดไฮเทค จะเกิดอะไรขึ้นต้องติดตาม

 

การกลับมาอีกครั้งของจัสติน ลิน

หลังจากที่จัสติน ลินวางมือไปภายหลังจากนั่งแท่นเป็นผู้กำกับ Furious 6 ในปี 2013 และส่งไม้ต่อให้ผู้กำกับคนอื่น แม้ว่าตัวเขาเองไม่ได้คาดหวังว่าจะได้กลับมาดูแลแฟรนไชน์รถซิ่งอีก แต่เมื่อเขาคิดว่ายังมีประเด็นอะไรให้สำรวจเพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะการสำรวจถึงเรื่อง “ความเป็นพ่อ” รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องและการทรยศหักหลัง และเพื่อร้อยเรียงทุกอย่างเข้าด้วยกันเพื่อให้ตัวละครสามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้ คือการยอมรับอดีตของตัวเองและมีความหวังในอนาคต

ดังนั้นตัวละครใหม่ที่ถูกใส่เข้ามาคือตัวละครน้องชายอย่างจาค็อบ ที่ให้ตายเถอะว่าตลอดทั้ง 8 ภาคก่อนหน้านี้เราไม่เคยจะล่วงรู้เลยด้วยซ้ำว่าดอมนั้นมีเครือญาติอยู่ด้วย แต่เมื่อมันไม่เคยถูกเอ่ยถึง ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวละครเหล่านี้อยู่ ดังนั้นการพาคนดูย้อนกลับไปสำรวจความสัมพันธ์ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องราวใหม่สำหรับผู้ชม เมื่อความจริงแล้วเหตุผลที่เขาไม่เคยกล่าวถึงน้องชายนั่นก็เพราะเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้สายใยพี่น้องต้องขาดสะบั้นลง

 

การสำรวจความเปราะบางทางอารมณ์

อันที่จริงจุดเริ่มต้นของ Fast & Furious 9 ได้เผยให้เห็นการเติบโตขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของตัวละครดอมที่ได้กลายเป็นพ่อคน ความรับผิดชอบต่อครอบครัว การเลี้ยงดูลูก จนกระทั่งการเดินทางมาถึงของแรมซีย์ (นาตาลี เอ็มมานูเอล), โรมัน (ไทริส กิ๊บสัน) และเทจ (คริส “ลูดาคริส” บริดเจส) ผู้ซึ่งเล่าให้ดอมและเล็ตตี้ฟังว่า เครื่องบินของมิสเตอร์โนบอดี้ (เคิร์ท รัสเซล) ได้ตกลงในป่าในเขตอเมริกากลาง โดยมีตัวไซเฟอร์ (ชาร์ลิซ เธอรอน) บงการอยู่เบื้องหลัง แม้ว่าตอนแรกดอมเองเลือกจะไม่เข้าร่วมภารกิจนี้ เพราะเขารู้สึกว่าการเสี่ยงตายนั้นเป็นเรื่องที่เขาจะต้องคิดให้หนักและถี่ถ้วน ดังนั้นเมื่อในเวลาต่อมาเขาตัดสินใจที่จะทำภารกิจในครั้งนี้เป็นเพราะเขามองว่ามันคือการเสียสละครั้งใหญ่

แนวคิดที่ว่าถ้าหากวันหนึ่งเขาอาจจะถูกฆ่าตายระหว่างที่ตัวเองทำภารกิจและไม่สามารถอยู่ดูแลลูกชายที่ตัวเองเติบโตขึ้น ซ้อนทับกับภาพเหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้งที่ตัวเองยังเป็นวัยรุ่น และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับน้องชายด้วยเช่นกัน

 

ทำความรู้จักตัวละครหลักคนใหม่

จาค็อบ โทเร็ตโต้ รับบทนี้โดยจอห์น ซีน่า นอกจากจะเป็นน้องชายของดอมแล้ว เขายังเป็นตัวร้ายประจำภาคนี้ ซึ่งมีความแตกต่างจากตัวร้ายที่เคยมีมาในแฟรนไชน์ เมื่อจาค็อบตัดสินใจที่จะร่วมมือกับออตโต้ (ธู เอสเท็ด รัสมุสเซน) ผู้คาดหวังที่จะครอบครองสิ่งประดิษฐ์ล้ำสมัยอย่างโปรเจ็กต์อาริเอส อุปกรณ์สามารถใช้สะกดรอยสุดล้ำสมัย ตัวจาค็อบนั้นเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯมากฝีมือ เขามีสายสัมพันธ์ลึกลับกับมิสเตอร์โนบอดี้และถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้นที่ต้องชำระด้วยเลือด

แม้ว่าในขั้นตอนก่อนงานสร้าง Fast & Furious 9 วิน ดีเซลจะทาบทามและพูดคุยกับจอห์น ซีน่าเพื่อชักชวนเขามาเป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชน์เรื่องนี้ แม้ว่าจะยังไม่ได้เห็นบทแต่ความฝันของเขาในการเป็นส่วนหนึ่งในมหากาพย์รถซิ่งทำให้เขาแทบจะตอบตกลงร่วมแสดงในทันที

 

ฉากแอ็คชั่นสุดโอเว่อร์

หลังจากหนังภาคที่ 4 เป็นต้นมา เราคงต้องกล่าวว่าแฟรนไชน์ Fast นั้นฉีกทุกกฎฟิสิกส์วิทยาศาสตร์จนหมดสิ้น และมาพร้อมกับฉากแอ็คชั่นที่คนดูต้องอ้าปากค้างหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นในการดีไซน์ภาคต่อออกมาทีมงานจึงต้องระดมความคิดสร้างสรรค์แบบไม่มีกั๊ก ฉากแอ็คชั่นที่เปิดเรื่องในอเมริกากลางแต่จริงๆแล้วการถ่ายทำนั้นทีมงานยกกองถ่ายมาปักหลักกันที่ประเทศไทย

นอกเหนือไปจากนี้ในฉากแอ็คชั่นเปิดเรื่องที่มีการพุ่งทะยานลงจากหน้าผาและใช้สลิงขนาดใหญ่เพื่อเหวี่ยงตัวรถให้ลอยไปอีกด้านนั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าในความเป็นจริงนั้นรถน่าจะตกเหวไปอย่างแน่นอน แต่เพื่อความบันเทิงผู้ชมก็คงจะละทิ้งตรรกะแบบนั้นไป และความบ้าคลั่งในหนังภาคนี้จะมีให้เห็นตั้งแต่ฉากรถถูกดูดราวกับมีแม่เหล็ก และรวมไปถึงสิ่งที่คนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ถ้าจะหลุดโลกขนาดนี้ ทำไมไม่เอารถออกไปวิ่งในอวกาศเลยล่ะ

สิ่งที่คุณอยากดูเป็นความจริงแล้วใน Fast & Furious 9

 

ดังนั้นนี่จึงเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญที่ต้องดูในโรงภาพยนตร์เท่านั้น Fast & Furious 9 เข้าฉายแล้ววันนี้