รีวิว ร่างทรง ความกลัวที่ห่อหุ้มตัวเรา
“ร่างทรง” เป็นหนังสยองขวัญที่ลักษณะเป็น Found Footage ผสมผสานกับ Mockumentary (สารคดีปลอม) มีการใช้กล้องตามติดตัวบุคคลเพื่อบอกเล่าสิ่งที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งพบเจอ คล้ายกับการถ่ายทำสารคดีเพียงแต่มีการเขียนบทและตระเตรียมสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเรื่องราวเอาไว้แล้ว
สิ่งที่ปรากฏอยู่ในตัวหนังคือการตามติดครอบครัวชาวอีสานที่มีความเชื่อเรื่องราวทางไสยศาสตร์เทพเจ้าที่ตนเองเคารพบูชา โดยมีนิ่ม (สวนีย์ อุทุมมา) ทำหน้าที่ในการเป็นร่างทรงของย่าบาหยัน แต่แล้วดูเหมือนว่าภายหลังจากงานศพของคนในครอบครัว มิ้ง (นริลญา กุลมงพลเพชร) เริ่มเหมือนจะมีอาการผิดปกติบางอย่างคล้ายกับถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง จนนำไปสู่คำสยองขวัญที่นิ่มพยายามค้นหาคำตอบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีความเกี่ยวข้องกับย่าบาหยันหรือแท้ที่จริงแล้วเป็นพลังงานชั่วร้ายกันแน่
การสร้างบรรยากาศที่ห่อหุ้มหนังเรื่องนี้ด้วยความผิดปกติของตัวละครที่แสดงท่าทางแปลกประหลาด แม้ว่าในช่วงแรกหนังจะใช้การจับภาพระยะไกลราวกับกำลังแอบมองสอดส่องว่าตกลงแล้วคนในครอบครัวนี้เป็นอะไรกันแน่ หลังจากนั้นหนังก็เริ่มพาเราเข้าใกล้ประชิดตัวละครมากขึ้นราวกับตัวละครกำลังพูดและสื่อสารกับผู้ชม (ตากล้อง) ไปในเวลาเดียวกัน
คงต้องกล่าวว่าเมื่อหนังเลือกจะใช้กระบวนการเหล่านี้เพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกเริ่มผูกพันกับคนในครอบครัวนี้ราวกับพวกเขาคล้ายกับเป็นใครสักคนที่เราเพิ่งจะรู้จักได้ไม่นานนัก และมีเรื่องราวบางอย่างที่ค่อยๆแย้มพรายความลึกลับออกมาทีละนิด แน่นอนว่ามันตอบสนองกับ “ความอยากรู้อยากเห็น” ของผู้ชมได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าเมื่อหนังสามารถทำสำเร็จในการทำให้ผู้ชมสนิทใจและคอยเอาใจช่วย “นิ่ม” ให้ค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นกับ “มิ้งค์” ให้ทันเวลา หนังก็เล่นสนุกกับความคาดหวังของผู้ชม ก่อนที่จะระเบิดความวินาศสันตะโรในตอนท้ายเรื่องอย่างบ้าคลั่ง ที่ถ้าใครไม่กลัวไปเลยก็คงจะรู้สึกไปอีกทางไปเลยว่าหนังเลอะเทอะเกินเบอร์
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชมที่อยู่ในฝั่งที่ชอบหรือไม่ชอบ สิ่งหนึ่งที่คงต้องชื่นชมคือ การแสดงของสวนีย์ อุทุมมาและนริลญา กุลมงพลเพชร ซึ่งคนแรกถ่ายทอดความเป็นคนอีสานได้กำลังพอดีและน่าเชื่อว่าเธอเป็น “ร่างทรง” จริงๆ ในขณะที่คนหลังก็ค่อยๆกะเทาะความใสซื่อบริสุทธิ์ไปทีละเล็กทีละน้อยจนนำไปสู่ความเฮี้ยนขั้นสุด และเป็นไปได้มากทีเดียวที่ทั้งสองคนอาจจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลด้านการแสดงในช่วงต้นปีหน้า
ทั้งหมดทั้งมวล เราคงจะต้องกล่าวว่าอยากให้ผู้ชมได้มีโอกาสเข้าไปซึมซับบรรยากาศความน่าสะพรึงกลัวของหนังเรื่องนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!