[เปิด Netflix มารีวิว] Hypnotic สะกดจิต ปลิดชีพ

[เปิด Netflix มารีวิว] Hypnotic สะกดจิต ปลิดชีพ

[เปิด Netflix มารีวิว] Hypnotic สะกดจิต ปลิดชีพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

Hypnotic เปิดเรื่องมาที่หญิงสาวท่าทางหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ราวกับว่ามีบางสิ่งในเงามืดกำลังหายใจรดต้นคอของตัวเธออยู่ ท่ามกลางออฟฟิศที่เงียบสงัดไร้ผู้คน เมื่อเธอตัดสินใจกดลิฟต์เพื่อจะลงไปยังชั้นล็อบบี้ จู่ๆก็มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้าเครื่องของเธอและกล่าวประโยคว่า “จุดจบของโลกได้มาถึงแล้ว” ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกว่ากำแพงลิฟต์ทั้งสี่ด้านกำลังบีบตัวเข้ามา เธอกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง! และแน่นอนว่าเธอกลายเป็นศพรายแรกของหนังเรื่องนี้

หนังตัดภาพมาเล่าเรื่องราวที่เจนน์ (เคท ซีเกล) ที่กำลังเผชิญกับมรสุมชีวิตทั้งเรื่องงานและปัญหาครอบครัวหลังจากเธอพบว่าตัวเองแท้งลูกกับแฟนหนุ่ม จนไม่สามารถมูฟออนความสัมพันธ์ต่อไปได้ เพื่อนสนิทของเธออย่างจีน่า (ลูเซีย เกสต์) จึงแนะนำให้เจนน์ไปพบกับจิตแพทย์ ด.ร.คอลินส์ มีดส์ (เจสัน โอ’มารา) เพื่อเข้ารับการสะกดจิตบำบัด ทว่าเจนน์กลับพบว่าหลังจากนั้นเธอไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ใดๆระหว่างกระบวนการได้เลย

ไม่นานนักเหตุการณ์แปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้นกับตัวเอง ตั้งแต่ที่เธอได้แวะเข้าซูเปอร์มาร์เกตเพื่อจะเข้าครัว หลังจากนั้นเธอกลับพบว่าตัวเองกำลังนั่งแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะกินข้าว โดยมีแฟนเก่านอนอาการโคม่าอยู่ในห้องน้ำ! ทำให้เจนน์เริ่มสงสัยว่าตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับการถูกสะกดจิตในครั้งนั้น แล้วทำไมความทรงจำของเธอจึงชอบหายไปอยู่เรื่อยๆ

จะว่าไปแล้ว Hypnotic มีความน่าสนใจในเรื่องการนำประเด็นการสะกดจิตเพื่อเยียวยารักษาอาการป่วยของผู้คน ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าในปัจจุบันคนทั่วโลกต้องเผชิญกับสภาวะความกดดันทางสังคมมากมายจนนำมาซึ่งปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต อย่างไรก็ตามด้วยความตื้นเขินของตัวหนังที่ไม่มีการปิดบังอำพรางอะไรให้รู้สึกว่าผู้ชมจะจับทางได้ ไม่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด

สิ่งที่พอทำให้คนดูได้ลุ้นอยู่บ้างคือเจนน์จะต้องประสบพบเจอกับสถานการณ์อะไรเป็นลำดับต่อไป ระหว่างที่เธอกำลังรู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อของด.ร.คอลินส์ มีดส์ โดยไม่ว่าเธอจะต่อสู้หรือขัดขืนอย่างไร แค่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคอาจจะทำให้เธอกลายเป็นอัมพาตหรือสลบหลับกลางอากาศได้ในพริบตา

แม้ว่าพล็อตเรื่องจะแอบดูเหลือเชื่อ แต่การใช้ประโยชน์จากบรรดาฉากตื่นเต้นระทึกขวัญอันเป็นผลงานการกำกับของแมตต์ แองเจิ้ล ไม่ว่าจะเป็นฉากลิฟต์ตอนเปิดเรื่อง ฉากที่นางเอกโดนสะจิตในทุกครั้ง หรือแม้กระทั่งเหยื่อแต่ละคนที่โดนจู่โจมจากผลของการสะกดจิต ก็เรียกได้ว่ายังพอเป็นความบันเทิงอยู่บ้าง

น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่ตัวหนังเองสามารถเล่นกับประเด็น “ทางจิต” ได้สลับซับซ้อนมากกว่าแค่ฉากหักมุมตอนท้ายเรื่อง แต่พอหนังมาอีหรอบนี้ก็คงต้องสรุปว่า “เรียบไปหน่อย” จริงๆครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook