[เปิด Netflix มารีวิว] Red Notice อย่าปล่อยให้เธอลอยนวล

[เปิด Netflix มารีวิว] Red Notice อย่าปล่อยให้เธอลอยนวล

[เปิด Netflix มารีวิว] Red Notice อย่าปล่อยให้เธอลอยนวล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

Red Notice แปลความหมายได้ว่า “หมายแดง” ซึ่งเอาไว้คาดโทษเหล่าอาชญากรที่ทางการต้องการตัวมากที่สุด เมื่อไข่ทองคำที่ว่ากันว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของพระนางคลีโอพัตรากำลังจะกลายเป็นเป้าหมายในการโจรกรรมครั้งใหม่ของ โนแลน บูธ (ไรอัน เรย์โนลส์) ทำให้จอห์น ฮาร์ทลีย์ (ดเวย์น จอห์นสัน) เจ้าหน้าที่เอฟบีไอระดับสูง เข้าร่วมการตามล่ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) ในการตามล่า

ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงโรมระหว่างงานจัดแสดงไข่ใบแรกของคลีโอพัตรา แต่เมื่อบูธถูกจอห์นจับตัวได้ในที่สุด แม้ว่าตอนแรกทุกคนคาดว่านี่คือการปิดคดี แต่เมื่อไข่ถูกสับเปลี่ยนโดยบิชอป (กัล กาด็อต) จอมโจรสาวฝีมือดีจัดฉาก ทำให้จอห์นถูกส่งเข้าคุกไกลปืนเที่ยงร่วมกับบูธ ส่งผลให้ทั้งสองหนุ่มต้องร่วมมือกันแหกคุก ตามหาไข่ใบที่ 2 และ 3 เพื่อล้างมลทินให้กับจอห์น รวมไปถึงกู้ศักดิ์ศรีของบูธคืนมา

จะว่าไป Red Notice ออกแบบมาให้เป็นหนังที่ดูเอาบันเทิงล้วนๆชนิดต้องยกตรรกะทุกอย่างทิ้งเพื่อความสนุก ตัวละครทุกตัวเรียกได้ว่ามีความแบนเป็นตัวการ์ตูน เป็นสไตล์หนังที่ยุคปลาย 90 ถึงต้นปี 2000 นิยมสร้างกัน ข้อดีคือบรรดานักแสดงนำทั้งสามคน บริหารเสน่ห์ของตัวเองได้ตามมาตรฐานทำให้ตัวละครของพวกเขาเฉิดฉายไม่ข่มกันเองตายคาจอ รวมไปถึงยิงมุกตลกกันเป็นว่าเล่น ซึ่งมีทั้งขำบ้างและแป้กกระจาย

ฉากแอ็คชั่นในเรื่องยังคงเน้นความโครมครามเล่นใหญ่ ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่มีการต่อสู้แบบดวลหมัดตัวต่อตัว พังฉากจนพินาศ ไปจนถึงฉากขับรถไล่ล่าในตอนท้าย แต่น่าเสียดายเมื่อพูดว่านี่เป็นหนัง “โจรกรรม” ก็จริง แต่บรรดาฉากที่ตัวละครต้องเข้าไปขโมยไข่คลีโอพัตราแต่ละใบนั้น แทบไม่ได้เน้นเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยที่ดูให้คุณค่ากับสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้สักเท่าไหร่ ไข่ใบแรกก็เหมือนจะโดนสับเปลี่ยนอย่างง่ายดาย ไข่ใบที่สองซึ่งเป็นของโวเช่ (คริส ดิอามานโทพูลัส) ถูกเก็บไว้ในห้องนิรภัย แต่กลับถูกเจาะเข้าไปแบบง่ายๆ ชนิดที่คนดูก็ได้แต่งงๆ ว่าถ้าจะเข้ากันมาง่ายขนาดนี้ ต่อไปอยากจะทำอะไรก็ตามสบายเลย

เมื่อลองย้อนกลับไปดูผลงานเรื่องก่อนๆของผู้กำกับ รอว์สัน มาร์แชลล์ เธอร์เบอร์ อาทิ Central Intelligence และ Skyscraper (ดเวย์น จอห์นสันแสดงนำทั้งสองเรื่อง) จะเห็นได้ว่าสไตล์การเล่าเรื่อง เน้นขายฉากตื่นเต้นลุ้นระทึกเป็นหลัก ตัวละครจะมีความแบนๆเป็นการ์ตูนคล้ายๆกันหมด เช่นเดียวกันกับใน Red Notice

อย่างที่เกริ่นไปว่าถ้าโยนตรรกะทั้งหลายทั้งปวงทิ้งไป Red Notice ถือเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ดูในสเกลสตรีมมิ่งที่บ้านได้บันเทิงอยู่เหมือนกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook