เปิดเส้นทางการแสดง "น้ำตาล พิจักขณา" สาวเหนือหน้าหวานคนงามสายลุย

น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ นักแสดงสาวมากฝีมือวัย 30 ปี ผู้ฝากผลงานการแสดงละครจอแก้วหลายเรื่อง ที่ทำให้คนดูได้เจอกันการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากฝีมือการแสดงของเธอ รวมถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ส้มป่อย ที่ได้เข้าโรงฉายไม่นานนี้ เรื่องราวของสาวเหนือที่ฉีกกฎสาวเอื้องเหนือ พุ่งชนหาความรักที่ต้องการ เราจะพาไปพูดคุยกับสาว น้ำตาล พิจักขณา ถึงผลงานล่าสุดและเส้นทางการแสดงที่ผ่านมา

 

Q: ส่วนใหญ่คนเห็นน้ำตาลรับบทหวานๆ แต่บทบาทในส้มป่อยคนยังไม่เคยเห็น พูดถึงการรับบทบาทนี้หน่อย

"ตอนแรกที่ทีมงานติดต่อมา เราอ่านเรื่องย่อแล้วเราก็ชอบ เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นภาคเหนือ เป็นเรื่องสาวภาคเหนือแต่ไม่ใช่สาวภาคเหนือในอุดมคติ ที่ต้องเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่ในเรื่องนี้ส้มป่อยเป็นตัวจี๊ดของบ้าน เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวบ้านจริงๆ เรารู้สึกดี ที่เป็นหนังภาคเหนือด้วย แล้วเราก็เป็นเด็กบ้านนอก แต่เราไม่แก่นเท่าส้มป่อย พอได้บทมามันดูสนุกดี พอได้ไปเจอผู้กำกับและพี่โขม เขาก็ให้เราลองขายมุก เราก็ขายไป"

Q: น้ำตาลต้องพูดเหนือในเรื่องเล่นเป็นคนลำพูน แต่จริงๆ น้ำตาลเป็นสาวแพร่ ต้องปรับสำเนียงเยอะไหม

"ในเรื่องเป็นลูกครึ่งจังหวัด เลยไม่ต้องปรับสำเนียงแม้เราจะเป็นคนแพร่ ซึ่งจริงๆ ในเรื่องเป็นคนลำพูน ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ระหว่างเชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ถ้าลำพูนทางเหนือขึ้นไปสำเนียง
พูดจะเป็นเชียงใหม่ แต่ถ้าลำพูนใต้ลงมาก็จะพูดเหมือนลำปางกับแพร่ ดังนั้นจึงมีความหลากหลายเรื่องสำเนียง จะมีที่บางทีตาลเผลอไปพูดสำเนียงเชียงใหม่ เพราะตาลเรียนเชียงใหม่เลยพูด
สำเนียงเชียงใหม่ได้ แต่ผู้กำกับอยากให้พูดสำเนียงแพร่ เช่นเวลาด่าก็ด่าห้วนๆ จะมีความดุ แต่เวลาถ่ายที่ตาลชอบเผลอคือ ไปพูดสำเนียงเชียงใหม่ตามไปกับคนอื่นด้วย"

Q: ผลงานก่อนหน้านี้ จินนี่ในแค้นรักสลับชะตา คาแรกเตอร์เป็นสาวมั่น สายลุย แต่เรื่องส้มป่อยเป็นสาวโสดสายอ่อย และฮาการตีโจทย์ตัวละครไหนยากกว่ากัน

"จินนี่ยากกว่า เพราะมีความซับซ้อน เนื่องจากจินนี่เป็นตัวละครที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ มาเยอะแล้วก็ดันมาเจอคนรักที่เป็น Toxic จึงพากันลงเหวไปเรื่อยๆ อีก แต่สุดท้ายชีวิตก็เปลี่ยนไปได้ด้วยความรัก จินนี่จึงมีความดราม่า ซ้บซ้อน ต้องทำการบ้านหนักมาก มีบางซีนที่เราต้องเล่น 5 อารมณ์ยากในการสลับอารมณ์ไปมา แต่เพราะมันเป็นละคร จึงมีความยาว และตัวละครมันพัฒนาได้เรื่อยๆ

สำหรับบทส้มป่อยนั้นเนื่องจากส่วนหนึ่งมันเป็นหนัง ที่ฉายเพียงแค่ 2 ชม. ใช้เวลาถ่ายทำประมาณ 10 วัน เราจะต้องรู้จักตัวละครให้ดีในเวลาจำกัด แต่บทส้มป่อยนั้นสามารถเทียบเคียงได้ง่าย เนื่องจากเราก็เป็นคนชนบทเหมือนกัน เพียงแต่เราต้องเพิ่มความก๋ากั่นขึ้นมาหน่อย อย่างเราไม่เคยกล้าจีบผู้ชายก่อนแต่ถ้าตามความคิดของหนู หนูชอบนะ บางทีเรารอให้คนมาจีบ แต่สำหรับส้มป่อยถ้าเขาชอบใคร เขาก็จะอยากลุยจีบคนๆ นั้นเลย เพราะเขาชอบ"

Q: คิดว่าตัวเองสร้างคาแรกเตอร์ส้มป่อยได้ตามที่ต้องการแล้วหรือยัง

"คิดว่าทำได้เต็มที่แล้ว ดูว่าตัวละครต้องการอะไร อย่างตอนแรกที่ได้บทมาแล้วตาลต้องไปทำการบ้านต่อ สร้างแบ็คกราวด์ตัวละครจะเรื่องจะได้แน่นๆ"

Q: แต่ละบทบาทที่เล่นมา ให้คะแนะนำส้มป่อยหน่อยว่าอยู่อันดับที่เท่าไรในความชอบของตัวเองเพราะอะไร

"จริงๆ ตาลเคยเล่น Comedy นะ และทำให้คนรู้จักจากละครเรื่องดาวเคียงเดือน ถ้าให้เทียบคะแนนส้มป่อยก็ต้องเทียบกับบท Comedy ซึ่งถ้าตอนนี้ตาลตอบก็คงให้ส้มป่อยอันดับ 1 เพราะ
เมื่อก่อนที่เราเล่น Comedy ตอนนั้นมันก็เทียบตอนนี้ไม่ได้ ตอนนี้มีความสดใหม่ แล้วเราก็สั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ จังหวะต่างๆ มันก็ลงตัวเรื่อยๆ และมันเป็นเรื่องใกล้ตัวเราด้วย"

Q: บทบาทไหนที่น้ำตาลอยากเล่นอีกในอนาคต

"จริงๆ ตาลชอบดูซีรีส์แนว Survival เป็นแฟนหนังแนวนี้ มันสนุก บีบคั้น เลย อยากลองเล่นอะไรแบบนี้ เมื่อไรมันจะมีซีรีส์ที่ไม่ต้องรอแต่พระเอก นางเอกออกมารักกัน อยากให้แต่เราก็เข้าใจละครบ้านเรา อยากเล่นแนว Sci-fi ก็ได้ แบบที่จินตนาการเยอะๆ"