การกลับมาของแฟรนไชส์นองเลือดในตำนาน Spiral: From the Book of Saw

 

ฆาตกรเลียนแบบ

ท่ามกลางหน่วยงานตำรวจที่เต็มไปด้วยการแข็งขันกันในการปิดคดีความต่างๆ นักสืบจอมห้าวอย่างเอเซเกล ซีค แบงก์ส(คริส ร็อก) กลายเป็นลูกไม้หล่นไกลต้น ที่มักจะโดนหยิบเอาไปเปรียบเทียบกับพ่อของเขา มาร์คัส (ซามูเอล แอล. แจ็กสัน) อยู่ตลอดเวลา มิหนำซ้ำการต้องประกบคู่กับเด็กใหม่อย่างนักสืบวิลเลียม (แม็กซ์ มินเจลลา) เพื่อไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ซึ่งบรรดาเหยื่อนั้นล้วนแล้วแต่เป็นตำรวจทั้งสิ้น ยิ่งสืบลึกลงไปเท่าไหร่ พวกเขายิ่งพบว่าบางทีเรื่องราวเหล่านี้อาจจะเกี่ยวโยงกับคดีสะเทือนขวัญในอดีต และกรมตำรวจแห่งนี้กำลังกลายเป็นเหยื่อสำคัญของฆาตกรโรคจิตที่อ้างอิงกับดักอันแสนโหดร้ายจาก “จิ๊กซอว์” มาใช้งาน!

 

เมื่อดาวตลกขึ้นแท่นโปรดิวเซอร์หนังสยองขวัญ

ใครจะไปเชื่อว่านักแสดงผิวสีอย่างคริส ร็อกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทั้งดาวตลกแห่งวงการฮอลลีวูดและนักเดี่ยวไมโครโฟนในระดับตำนาน ลีลาฝีปากอันแสนจัดจ้านและมุกตลกเฉียบคมในการหยิบประเด็นอันหลากหลายมาพูดถึง เขาคนนี้ยังชื่นชอบในหนังสยองขวัญเป็นที่หนึ่ง และแฟรนไชส์ที่เขาปลื้มเป็นพิเศษคือ Saw เพราะเขาหลงใหลในความสยอง โหด แต่ยังซุกซ่อนปริศนาที่น่าติดตาม ดังนั้นไหนๆแล้วเขาเลยขอนั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างให้กับ Spiral ตำนานบทใหม่ของ Saw ซะเลย

ในฐานะแฟนพันธุ์แท้ Spiral จึงเป็นทั้งผลงานที่อยากคารวะแฟรนไชส์ต้นตำรับและพาเรื่องราวเข้าสู่มิติใหม่ไปพร้อมๆกัน องค์ประกอบที่สำคัญมาโดยตลอดของ Saw คือการเล่าเรื่องราวเขย่าขวัญเชิงจิตวิทยา ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ความโหดเลือดสาด กับดักสุดวิปริต อวัยวะที่ฉีกขาดจนเห็นกล้ามเนื้อไปจนถึงโครงกระดูก และที่ขาดไม่ได้เลยคือเนื้อเรื่องอันแสนน่าติดตามพร้อมกับตัวละครที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

โดยไอเดียเริ่มต้นของคริส ร็อกนั้น มาจากการที่เขาลองจินตนาการว่าถ้าหากตัวเองกลายเป็นตำรวจและค้นพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองถูกใส่กุญแจมือล่ามติดกับท่อเหล็ก ส่วนมืออีกข้างกำลังถือเลื่อยอยู่ในมือจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับตัวละครนี้ ทำให้มันถูกพัฒนาบทให้ตัวละครที่เขาแสดง เป็นนักสืบที่ต้องเข้ามาพัวพันกับตำนานฆาตกรต่อเนื่องอย่างจิ๊กซอว์นั่นเอง

 

การกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับดาร์เรน ลินน์ เบาส์แมน

ดาร์เรน ลินน์ เบาส์แมน ผู้กำกับที่เคยฝากฝีมือไว้ใน Saw II (2005), Saw III (2006) และ Saw IV (2007)  หนังสามภาคที่ประสบความสำเร็จที่สุดในแฟรนไชส์ ทำให้เขาเป็นผู้กำกับสายสยองขวัญคนแรกที่มีผลงานเปิดตัวอันดับหนึ่งบ็อกซ์ออฟฟิศถึงสามเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนทางฝั่งนักวิจารณ์ก็จะให้คะแนนเฉลี่ยของหนังทั้งสามภาคนี้อยู่ที่ประมาณ B จนถึง B+ ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุดที่แฟรนไชส์ชุดนี้ได้รับเลยก็ว่าได้

เบาส์แมนบอกว่า Spiral มีความใกล้เคียงกับ Saw II ผลงานชิ้นแรกของเขาในแฟรนไชส์นี้ ที่เขาฝากไว้เมื่อสิบห้าปีก่อน “ตอนที่ผมตกลงทำ Saw II ผมบอกโปรดิวเซอร์ว่าผมอยากทำให้มันต่างออกไปจากภาคแรก ผมไม่อยากก็อปงานของ เจมส์ วาน ผมอยากให้มันมีกลิ่นอายแบบนั้น แต่ก็อยากใส่ลายเซ็นของตัวเองลงไปเหมือนกันก่อนจะทำ Spiral ผมก็บอกพวกเขาแบบนั้น แฟรนไชส์นี้ถึงเวลาต้องยกเครื่องใหม่เสียที”

 

ดาราเบอร์ใหญ่กับหนังสยองขวัญ

ตัวผู้กำกับเบาส์แมนตื่นเต้นเสมอในทุกครั้งที่เขาได้กลับมาสานต่อตำนาน Saw การได้กลับมากำกับ Spiral จึงเหมือนได้กลับมาทำในสิ่งที่เขารักอีกครั้ง แต่การได้ร่วมงานกับคริส ร็อกเป็นอีกหนึ่งในไฮไลท์การทำงาน เพราะเขาเป็นถึงดาราเบอร์ใหญ่ แต่ไม่มีอีโก้ในการทำงานเลยสักนิดเดียว มิหนำซ้ำเขายังเป็นแฟนตัวยงของจักรวาลนี้ยิ่งทำให้ทุกอย่างทวีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

ที่น่าสนใจคือการได้เห็นมุมมองที่คริส ร็อกอยากจะใส่ความตลกแบบร้ายๆเข้าไปใน Spiral เพื่อลดความตึงเครียดของหนังและ ก่อนที่จะกลับไปสู่โหมดของความโหดอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นตัวคริสเองยังมองว่าความสยองและอารมณ์ขันในภาพยนตร์มีวิธีการทำงานที่คล้ายกัน “พวกมันต้องอาศัยจังหวะในการทำงานเหมือนกัน เพราะมันเกี่ยวกับการเซอร์ไพรส์ผู้ชม”

อีกหนึ่งดาราเบอร์ใหญ่ไม่แพ้กันคือตัวละคร ตำรวจมือเก๋า สารวัตร มาร์คัส แบงก์ส คือ ซามูเอล แอล. แจ็คสัน ซึ่งหลังจากที่ได้รับการทาบทามเขาก็รู้สึกอยากร่วมงานกับคริส ร็อกมาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดยแจ็กสันพูดถึงตัวละครของเขา สารวัตร มาร์คัส แบงก์ส อดีตตำรวจ ที่ตอนนี้ใช้ชีวิตเกษียณ แจ็กสันเผยว่าตัวละครนี้มีความซับซ้อน ส่วนหนึ่งคือปมที่ยังไม่ได้รับการสะสางกับ ซีค ลูกชาย “ความสัมพันธ์กับเขาและลูกชายมันซับซ้อน แน่นอนเขารักซีค แต่ในฐานะอดีตสารวัตรมันยากที่จะยอมรับสิ่งที่ซีคเคยทำกับเพื่อนร่วมงาน  ผมไม่คิดว่ามาร์คัสจะใช้วิธีเดียวกับซีค นี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ไม่ลงรอยกัน”

 

Spiral: From the Book of Saw เข้าฉายในโรงภาพยนตร์พร้อมกับดักสุดสยองแล้ววันนี้!