ความหลอนที่พาเราย้อนกลับไปยังโซโห ใน Last Night In Soho
Thailand Web Stat

ความหลอนที่พาเราย้อนกลับไปยังโซโห ใน Last Night In Soho

ความหลอนที่พาเราย้อนกลับไปยังโซโห ใน Last Night In Soho
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

Last Night In Soho บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรกันนะ

เมื่ออีลอยส์ (โธมาซิน แม็คเคนซี่) ดีไซเนอร์สาวผู้มีความทะเยอทะยาน จู่ๆเธอก็พบว่าตัวเองสามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปยังยุคสมัยปี 1960s ได้อย่างปริศนา ณ ห้วงเวลานั้นเธอได้พบกับแซนดี้ (อันย่า เทย์เลอร์-จอย) นักร้องสาวมากความสามารถและมีความทะเยอทะยานไม่แพ้ตัวเธอเอง แต่ชีวิตอันแสนฟู่ฟ่าให้อดีตกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่อีลอยส์ได้เห็น เมื่อความเป็นจริงของห้วงเวลาในอดีตเริ่มเผยความลับอันมืดดำออกมาทีละเล็กทีละน้อย

อีลอยส์มักจะเห็นภาพนิมิตสุดแปลกประหลาดและพบว่าตัวเธอเองได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของแซนดี้ ดาวดังแห่งยุค 1960s ขณะที่เธอแสดงท่วงท่ากรีดกรายอยู่ในคาเฟ่ เดอ ปารีส แซนดี้คือนักร้อง, นักเต้น, นักแสดง และดาวดังที่ทะเยอทะยาน เธอพยายามสร้างความประทับใจ ความฝันทั้งหมดทั้งมวลของแซนดี้ ดูเหมือนจะกลายเป็นจริงเมื่อเธอได้พบกับ แจ็ค (แม็ตต์ สมิธ) ผู้จัดการที่มีเสน่ห์ และเป็นคนที่อาจจะสามารถแนะนำเธอให้รู้จักกับเหล่าคนที่สามารถช่วยแจ้งเกิดให้กับเธอได้ อีลอยส์ ได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับแซนดี้ ในการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความมัวเมาเพราะรักแรก แสงสี และความฝันอันยิ่งใหญ่

ความรู้สึกที่อีลอยส์มีต่อแซนดี้นั้น ราวกับว่าเธอเป็นดังบุคคลต้นแบบ ลามไปถึงการเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ จนเธอตัดสินใจไปย้อมผมตามแซนดี้ จนกระทั่งเมื่อเธอได้พบกับด้านมืดสุดสะพรึงของแซนดี้ ที่กลายเป็นตัวฉุดรั้งความก้าวหน้าของอีลอยส์ในเวลาต่อมา เธอจึงต้องพยายามหาหนทางในการเปลี่ยนแปลงอดีตและกอบกู้ชีวิตตัวเองก่อนจะตกไปอยู่ในอันตรายครั้งใหญ่

 

จดหมายรักถึงลอนดอนในปี 60

ถึง Last Night In Soho จะเป็นผลงานแนวระทึกขวัญเขย่าขวัญก็ตามทีแต่ตัวผู้กำกับอย่างเอ็ดการ์ พูดถึงหนังของตัวเองเรื่องนี้ว่ามันคือจดหมายรักที่เขาเขียนให้กับ “โซโห” ในลอนดอน ที่แม้ว่ายุคสมัยจะผ่านเลยมานานแล้วก็ตาม แต่ยุคนั้นเป็นช่วงเวลาที่วงดนตรีอย่างโรลลิ่งสโตนส์ เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต ยังคงมีความสุขและเป็นช่วงเวลาของพวกเขา แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังส่งสาสน์แนบท้ายว่า จงอย่าใช้ความรู้สึกโหยหาอดีตจนมากเกินไปด้วยเช่นกัน

ตัวเอ็ดการ์ ไรท์หลงรักเมืองอย่างลอนดอนและปี 1960 เป็นอย่างมาก แต่เมืองนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะเรื่องสถาปัตยกรรม ที่เป็นตัวการในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของเมือง จนทำให้การหวนระลึกถึงช่วงเวลาในอดีตกลายเป็นแนวคิดแสนโรแมนติก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับยุคสมัยนั้นอย่างแท้จริงอาจจะเกิดคำถามที่ว่า “มันเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ”

Advertisement

หากเรามีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่เติบโตมากับช่วงยุคสมัยปี 60s จริงๆเขาจะไม่ลืมที่จะเล่าเรื่องราวเฮี้ยนๆในยุคสมัยนั้น รวมไปถึงช่วงเวลาแห่งความทุกข์ตรมของคนในช่วงเวลานั้นเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่า “ผู้เล่า” จะเอ่ยถึงสิ่งที่ไม่อยากจะเอ่ยอ้างถึงมันหรือเปล่านั่นเอง

ด้วยลักษณะพื้นที่ของโซโหเองที่มีเนื้อที่อยู่ประมาณ 1 ตารางไมล์ และเป็นที่ตั้งศูนย์รวมความบันเทิงไม่ว่าจะเป็น บาร์ ไนต์คลับ โรงภาพยนตร์และโรงละคร ทำให้ชาวลอนดอนในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมามักจะมาท้องราตรีกันในย่านนี้ จึงอาจจะกล่าวได้ว่าโซโหเองนั้นเป็นพื้นที่กิจกรรมที่มีความเสื่อมโทรม มีโชว์อะโกโก้ ซ่อง การขายบริการทางเพศ ร่วมไปถึงผู้คนแปลกๆที่แอบซ่อนอยู่ตามเงามืดของมุมถนนด้วยเช่นกัน ความน่าตื่นเต้นของย่านนี้จึงมีทั้งแสงสีและความเลวร้ายรวมกันอยู่ในพื้นที่เดียวนั่นเอง

 

อุดมคติที่ฝันไว้ กับความจริงอันดำมืด

แก่นหลังของ Last Night in Soho จึงว่าด้วยตัวละครที่มีความอุดมคติจ๋าและตามความฝันของตัวเองไปยังโซโหและได้ค้นพบกับความลับอันดำมืดที่ซ่อนตัวอยู่ที่นั่น และทำให้ตัวเอกของเรื่องต้องเป็นหญิงสาวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรทั้งนั้น แถมยังเดินทางมายังลอนดอนเป็นครั้งแรก และมีการพูดถึงยุค 60 ที่เป็นเหมือนเงาลางๆที่ปกคลุมตัวเมืองลอนดอนมาเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะพื้นที่อย่างโซโห ซึ่งมีการจัดระดับความหรู และวงการบันเทิงที่สูงกว่า แต่ในขณะเดียวกันมันยังซุกซ่อนความไร้ศีลธรรมในห้วงเวลาเดียวกัน แถมยังถูกฝังตัวอยู่ประวัติศาสตร์ของวงการดนตรี รวมไปถึงภาพยนตร์ และประวัติศาสตร์ด้านอาชญากรรมไปพร้อมๆกัน

ดังนั้นเป้าประสงค์ของหนังเรื่องนี้ในมุมมองของตัวผู้กำกับคือการ ภาพยนตร์ทริลเลอร์ยุค ‘60s เป็นงานลึกลับที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบของความเขย่าขวัญ และสไตล์ของช่วงเวลานั้น เขายังต้องการจะเล่าเรื่องผ่านเลนกล้องร่วมสมัย เขาไม่ได้อยากแค่จะทำให้อดีตดูเลิศหรู หรือเปิดม่านความเป็นจริงที่น่าขนลุกของยุค ‘60s ด้วยตัวละครเอกที่เป็นคนยุคใหม่ ใส่ลงไปในเรื่องราวยุค ‘60s เขาสามารถนำการเฝ้าดูใส่ไปในสิ่งแวดล้อมนั้น และอาจจะเลี่ยงอารมณ์คิดถึงอดีตที่เต็มไปด้วยความหอมหวาน นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้