แนะนำศัตรู Spider-Man ในภาพยนตร์เกมการ์ตูนกับความเหมือนที่แตกต่าง

เรียกว่ากระแสร้อนแรงจนหยุดไม่อยู่จริง ๆ กับภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของซีรีส์เพื่อนบ้านที่แสนดีอย่าง ‘Spider-Man’ ที่คราวนี้เรื่องราวก็มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (Peter Parker) ที่ในตัวอย่างได้มีการเปิดเผยตัวร้ายจากภาพยนตร์ ‘Spider-Man’ ภาคต่าง ๆ ของภาพยนตร์ออกมาต่อสู้กันในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักพวกเขาเหล่านี้มาแล้วในฉบับภาพยนตร์ แต่ในฉบับของเกมและการ์ตูนนั้นบทบาทและที่มาของพวกเขาเหล่านั้นจะต่างกัน วันนี้เราเลยไปหาข้อมูลที่มาของศัตรู ‘Spider-Man’ ที่น่าสนใจมานำเสนอ เพื่อต้อนรับภาพยนตร์ ‘Spider-Man No Way Home’ จะมีใครบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

Doctor Octopus

เริ่มต้นตัวละครแรกที่เปิดมาในตัวอย่าง ‘Spider-Man No Way Home’ นั่นคือ ‘Doctor Octopus’ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ‘Otto Octavius’ ชายผู้มีมือกล 4 ข้างที่สามารถสั่งได้ดั่งใจ ซึ่งเรื่องราวในภาพยนตร์ ‘Spider-Man 2’ หลายคนคงจะได้เห็นแล้วว่าตัวของ ‘Doctor Octopus’ นั้นเกิดจากการอยากพิสูจน์ตัวเองว่าสิ่งที่ตนคิดนั้นถูกผ่านการทดลอง บวกกับการถูกชักจูงจากแขนกลที่มีไว้เพื่อควบคุมระยะไกลในการสร้างเครื่องผลิตพลังงานเทียม ส่วนในเกม ‘Spider-Man’ บน ‘Playstation 4’ ค่อนข้างจะลึกซึ้งกว่า ตรงที่ตัวของ ‘Doctor Octopus’ นั้นต้องการสร้างแขนเทียมเพื่อคนป่วยและสร้างแขนเทียมเพื่อใช้งานต่าง ๆ เรียกว่าสร้างมาเพื่อผู้คน แถมเขายังเป็นคนสร้างชุด ‘Spider-Man’ ให้ปีเตอร์ด้วย แต่โครงการต่าง ๆ กลับถูกยกเลิกการสนับสนุนจนทำให้เขาโกรธแค้นและใช้แขนเทียมในการสร้างความวุ่นวาย ส่วนในหนังสือนั้นชื่อจริงของ ‘Doctor Octopus’ นั้นชื่อ ออตโต กุนเธอร์ ออกเทเวียส (Otto Gunther Octavius) ซึ่งที่มาของเขาก็คล้ายกับอีกสองคน แต่ที่ทำให้ตัวละครตัวนี้สำคัญเพราะเขานั้นคือหนึ่งในตัวร้ายไม่กี่คนที่ทราบว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์คือ ‘Spider-Man’ และทั้งสามแบบนั้นก็ไม่มีใครเอาความลับนี้ไปเปิดเผยแม้จะเป็นศัตรูก็ตาม นับเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างมีคุณธรรมจริง ๆ

Green Goblin

อีกหนึ่งตัวร้ายที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของไอ้แมงมุม ที่แม้แต่คนที่ไม่เคยอ่านการ์ตูนก็ต้องรู้จักเป็นอย่างดี กับปีศาจสีเขียว ‘Green Goblin’ ที่มาจนถึงตอนนี้เฉพาะในโลกภาพยนตร์เราก็เจอ ‘Green Goblin’ มาแล้ว 3 คน ซึ่งถ้านับเฉพาะ ‘Green Goblin’ ที่มาจาก นอร์แมน ออสบอร์ (Norman Osborn) ที่เป็นต้นตำหรับความชั่วร้ายแล้วก็จะเหลือ 2 คน นั่นคือฉบับภาพยนตร์ ‘Spider-Man’ ภาคแรกกับฉบับหนังสือการ์ตูน ซึ่งที่มาของเจ้าวายร้ายตัวนี้ก็มาจากการรวมกันของเทศกาล Halloween ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากผี ค้างคาว ระเบิดฟักทอง เสียงหัวเราะที่ล้วนแล้วแต่มาจากวันนี้ โดยตัว ‘Green Goblin’ เปิดตัวครั้งแรกในหนังสือ ‘The Amazing Spider-Man #14’ ซึ่งทั้งสองแบบนั้นจะมีที่มาคล้าย ๆ กัน นั่นคือเกิดจากการทดลองสร้างเซรุ่มเพิ่มพลังให้กับผู้ใช้ แต่เมื่อโครงการกำลังเข้าสู่ทางตันเขาจึงเริ่มเอาน้ำยานั้นมาทดลองกับตนเอง จนทำให้เกิดอีกบุคลิกขึ้นมาในชื่อ ‘Green Goblin’ และเขาก็คือตัวร้ายคนสำคัญที่ปลิดชีวิต เกวน สเตซี่ (Gwen Stacy ) ในจักรวาลหลักอีกด้วย ซึ่งในตัวอย่าง ‘Spider-Man No Way Home’ เราก็เห็นเขากลับมาอีกครั้ง คงต้องรอดูว่าเขาจะมีบทบาทขนาดไหนในภาคนี้

Rhino

ถ้าพูดถึง ‘Rhino’ หลายคนที่ไม่เคยเล่นเกมหรืออ่านการ์ตูนมาก่อน คงจะงงว่าตัวละครตัวนี้ออกมาในภาพยนตร์ตอนไหน เพราะถ้านับช่วงเวลาที่ ‘Rhino’ ออกมาในภาพยนตร์ ‘The Amazing Spider-Man 2’ นั้นแค่เพียงไม่กี่วินาทีในช่วงท้าย ที่ตัวของเขานั้นจะสวมชุดเกราะแรดออกมาท้า ‘Spider-Man’ สู้ หลังจากที่ไอ้แมงมุมของเราหายตัวไปรักษาแผลใจ  ส่วนในเกมนั้น ‘Rhino’ จะเป็นชายร่างใหญ่ที่สวมชุดเกราะแรดที่มารุมกระทืบปีเตอร์หลังจากที่ถูกปล่อยออกมาจากคุกด้วยฝีมือ ‘Doctor Octopus’ ส่วนในฉบับหนังสือนั้นจะต่างกับในภาพยนตร์ โดยชื่อจริงของ ‘Rhino’ นั้นมีชื่อว่า อเล็กเซ ซิตเซวิช (Aleksei Sytsevich) ชาวรัสเซีย ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือ ‘The Amazing Spider-Man #41’ ซึ่งตัวของ อเล็กเซนั้นจริง ๆ เป็นเพียงอันธพาลชาวรัสเซียที่ได้รับการผ่าตัดผิวหนังเทียม เพื่อความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์แก่เขา ซึ่งผิวหนังที่ทำการปลูกถ่ายนั้นก็มาจากแรดเราจึงได้เห็นร่างของ ‘Rhino’ เหมือนสวมชุดแรด ที่แม้แต่ ‘Spider-Man’ ก็ยากที่จะต่อกรด้วยตรง ๆ แต่ด้วยไหวพริบที่มีน้อยและเป็นคนซื่อ ๆ ของอเล็กเซจึงทำให้ ‘Spider-Man’ ปราบเขาได้ทุกครั้ง (แต่ถ้าโดนจัง ๆ ก็เจ็บหนัก) ซึ่งหลายคงอยากเห็นบทบาทของพี่แรดในภาพยนตร์อีกครั้งแต่ไม่รู้ว่าจะได้เห็นรึเปล่า

Electro

ยังอยู่กับเหล่าตัวร้ายที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ ‘Spider-Man No Way Home’ กับชายผู้มีพลังไฟฟ้าอยู่ในร่าง ที่สร้างความความวุ่นวายให้ไอ้แมงมุมทุกครั้งที่ได้สู้กัน กับ ‘Electro’ ตัวละครที่ไปปรากฏในภาพยนตร์ ‘The Amazing Spider-Man 2’ ในฐานะตัวร้ายหลักที่เกิดจากความผิดพลาดในการทดลองกระแสฟ้า จนทำให้เขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถดูดซับกระแสไฟฟ้าอยู่ในตัว ที่สมัยก่อนจะมีพลังตัวของ แมกซ์เวล ดิลลอน (Maxwell Dillon) มักจะถูกเมินจากคนรอบตัวจนกลายเป็นความเก็บกดโทษทุกอย่างรอบตัว และเมื่อมีพลังก็ใช้ในทางที่ผิด ขณะที่ในวิดีโอเกม ‘Electro’ คือตัวร้ายที่ออกมาสร้างความวุ่นวายด้วยชุดเก็บกระแสไฟฟ้า และถุงมือแบบพิเศษที่สามารถรวบรวมกระแสไฟและปล่อยออกมาใส่ศัตรูได้ ก่อนที่จะถูกไอ้แมงมุมจับและแหกคุกออกมาภายหลัง ซึ่งคราวนี้เขาได้พัฒนาชุดใหม่ให้ดูคล่องตัวและมีพลังในการปล่อยไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งในเกมเราจะต้องสู้กับ ‘Electro’ ไปพร้อมกับ ‘Vulture’ ในศึกกลางอากาศที่สนุกสะใจ ใครที่เคยเล่นมาแล้วน่าจะทราบดี ส่วนในหนังสือการ์ตูนนั้น ‘Electro’ อดีตพนักงานการไฟฟ้าที่ดวงซวยถูกฟ้าผ่าขณะทำงานบนสายไฟ จนทำให้เขากลายเป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้าที่มีชีวิต และใช้พลังนี้ก่ออาชญากรรม มารอดูว่าในภาพยนตร์ ‘Electro’ จะมีบทบาทอย่างไร

Mac Gargan

ถ้าพูดถึงชื่อ ‘Mac Gargan’ หลายคนคงจะสงสัยว่าเขาคือใคร แต่ถ้าพูดอีกฉายาอย่าง ‘Scorpion’ หลายคนคงจะคุ้นเคยกว่า เพราะตัวของเขานั้นคือตัวร้ายที่มีความสามารถที่ทำให้ไอ้แมงมุมของเราปวดหัวและเสียท่าได้ตลอดตอนสู้ อย่างในเกม ‘Scorpion’ ก็ใช้ยาสูตรพิเศษทำร้ายจน ‘Spider-Man’ เห็นภาพหลอน ที่กว่าจะแก้พิษได้ก็เล่นเอาเกือบตาย  แถมในเกมเราต้องสู้ไปพร้อมกับ ‘Rhino’ ในศึกสองต่อหนึ่งที่ต้องหลบแรงชนของเจ้าแรด ไปพร้อมกับการลอบโจมตีของเจ้าแมงป่องไปพร้อม ๆ เรียกว่าหินแต่สนุกมาก ๆ เลยทีเดียว ส่วนในฉบับภาพยนตร์เจ้าแมงป่องก็เคยออกมาแล้ว ในฐานะตัวร้ายที่ถูกเพื่อนบ้านที่แสนดีจับเข้าคุกใน ‘Spider-Man Homecoming’ ที่เขาจะออกมาในช่วงท้ายเรื่องและแนะนำตัวเองว่าเขาคือ ‘Scorpion’ ผู้ที่ต้องการแก้แค้น ‘Spider-Man’ ส่วนในหนังสือนั้น ‘Scorpion’ ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือ ‘The Amazing Spider-Man #19’ โดยชื่อจริงของเขาคือ แมคโดนัลด์ การ์แกน (MacDonald Gargan) ที่เป็นนักสืบเอกชนที่ได้รับการว่าจ้างจาก เจ โจนาห์ เจมส์สัน (J. Jonah Jameson) เพื่อตามติดชีวิตปีเตอร์เพราะเขาสงสัยว่าปีเตอร์ถ่ายรูปถ่ายภาพ ‘Spider-Man’ มาได้อย่างไร แต่เขาไม่สามารถตามปีเตอร์ทัน ด้วยความโกรธเขาจึงไปรับการทดลองเพื่อสวมชุดแมงป่อง ก่อนที่เขาจะบ้าในพลังที่มีและใช้มันก่ออาชญากรรม ซึ่งเราก็ต้องรอดูต่อไปว่าเจ้าแมงป่องจะออกมาต่อสู้กับปีเตอร์ในอนาคตรึเปล่ามารอดูกัน

The Lizard

ในอดีต สแตน ลี (Stan Lee) ผู้ให้กำเนิดไอ้แมงมุมเคยบอกไว้ว่า “ศัตรูของ ‘Spider-Man’ ต้องมาจากคนรู้จัก คนใกล้ตัว เพื่อนร่วมงาน หรือคนที่ได้รับผลกระทบจากปีเตอร์และ ‘Spider-Man’ ทั้งทางตรงทางอ้อม” ซึ่งตัวของ ‘The Lizard’ ก็คือหนึ่งในนั้น เพราะตัวของเขานั้นเกิดจากความต้องการงอกแขนที่เคยเสียไปให้กลับคืนมา ด้วยการทดลองที่มีปีเตอร์ไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาสูตรยา ที่สกัดมาจากกิ้งก่าที่สามารถงอกหางตัวเองได้ แต่สูตรยาเมื่อใช้กับมนุษย์กลับส่งผลตรงข้าม ให้คน ๆ นั้นกลายเป็นกิ้งก่าที่กระหายเลือด ซึ่งเป็นเรื่องราวในภาพยนตร์ ‘The Amazing Spider-Man’ ส่วนในหนังสือกับภาพยนตร์นั้นจะใช้ชื่อเดียวกันคือ ดร. เคอร์ติ คอนเนอร์ (Dr. Curtis Connors) ที่เป็นนักพันธุศาสตร์ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับความสามารถของสัตว์เลื้อยคลาน ที่สามารถงอกหางที่ขาดขึ้นมาได้  ก่อนที่เขาจะพัฒนายาจาก ‘DNA’ ของจิ้งจกขึ้นมา แต่ผลที่ตามมาคือการกลายร่างและต่อกรกับ ‘Spider-Man’ ซึ่งตัวของดร. เคอร์ติจะเป็นทั้งมิตรที่ช่วยเหลือปีเตอร์ในหลาย ๆ เรื่อง และเป็นศัตรูเมื่อเขาเกิดควบคุมร่างไม่ได้ในบางเวลา และเขาก็ไปปรากฏตัวในภาพยนตร์ ‘Spider-Man No Way Home’ ด้วย คงต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร

Vulture

อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่มีบทบาทในภาพยนตร์ที่หลายคนคุ้นเคย กับกลุ่ม ‘Vulture’ ตัวร้ายที่ทำอาวุธจากซากชิ้นส่วนเอเลี่ยนที่มาบุกนครนิวยอร์กในภาพยนตร์ ‘Avengers’  ก่อนที่จะถูก ‘Spider-Man’ เปิดโปงในภาพยนตร์ ‘Spider-Man Homecoming’ ส่วนในเกมนั้น ‘Vulture’ คือชายสวมชุดอีแร้งออกก่ออาชญากรรมและถูกไอ้แมงมุมจับเข้าคุก ซึ่งเมื่อออกมาเขาก็เอาชุดแร้งที่มีมาสวมและแก้แค้น ‘Spider-Man’ พร้อมกับ ‘Electro’ ที่บอกเลยว่าหินสุด ๆ ส่วนในฉบับหนังสือ ‘Vulture’ มีชื่อจริงคือ เอเดรียน ทูมส์ (Adrian Toomes) อดีตวิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ จนทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นและสร้างชุดบินขึ้นมาเพื่อแก้แค้น และใช้มันเพื่อสร้างความวุ่นวาย ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือ ‘The Amazing Spider-Man # 2’ นับจากนั้นเขาก็มีบทบาทเรื่อยมา ซึ่งในฉบับภาพยนตร์เราได้เห็นเอเดรียน ทูมส์มาปรากฏตัวอีกครั้งในเรื่อง ‘Morbius’ ที่จะฉายในอนาคต เรามารอดูกันว่าลุงอีแร้งของเราจะมีบทบาทอย่างไรต่อไปในอนาคต

 Mysterio

เรียกว่าตัวละครสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยในบทความนี้ เพราะ ‘Mysterio’ คือคนที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในฉบับภาพยนตร์ ‘Spider-Man Far From Home’ ไปจนถึงภาคล่าสุดอย่าง ‘Spider-Man No Way Home’ ที่ตัวของ เควนติน เบ็ค (Quentin Beck) ได้เปิดเผยตัวจริงของ ‘Spider-Man’ ว่าคือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ จนทำให้เกิดความวุ่นวายในการลบความจำผู้คนให้ลืมว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์คือใคร ซึ่งตัวของเควนตินคืออดีตพนักงานของ ‘Stark Industries’ ที่ถูกเอาผลงานไปใช้อย่างไม่เป็นธรรม เขาจึงรวบรวมคนที่มีความแค้นกับ ‘Stark Industries’ สร้างเรื่องราวมิติคู่ขนานมาหลอกปีเตอร์เพื่อเอาแว่นตาของเขา ที่สามารถสั่งการทุกอย่างของ ‘Stark Industries’ ได้ ส่วนในฉบับหนังสือการ์ตูนนั้นเควนตินคือช่างทำ Special Effects ให้กับโรงถ่ายภาพยนตร์ ก่อนที่เขาจะใช้ความสามารถที่มีในการหลอกผู้คนและใช้มันก่ออาชญากรรม ซึ่งเขาคือคนเดียวในกลุ่ม  ‘Sinister Six’ (รวมดาวร้ายที่มีความแค้นกับไอ้แมงมุม) ที่ไม่มีพลังพิเศษเหมือนคนอื่น แต่เขาก็สร้างความปวดหัวให้ ‘Spider-Man’ ไม่น้อยเลยทีเดียว

Sandman

หนึ่งในตัวละครสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตของปีเตอร์ ที่ถ้าไม่มีการเสียชีวิตของลุงเบ็นเราก็คงจะไม่ได้เห็นเพื่อนบ้านที่แสนดีคนนี้ออกมาปราบเหล่าร้าย ซึ่งเราก็พอจะทราบในภาพยนตร์ ‘Spider-Man 3’ ว่าตัวของ ‘Sandman’ หรือชื่อจริงคือ ฟลินต์ มาร์โก (Flint Marko) คือโจรที่ยิงลุงเบ็นจนเสียชีวิต และระหว่างการหลบหนีเขาได้ถูกเครื่องเร่งอนุภาคที่ทดลองเกี่ยวกับโมเลกุลจับตัว จนทำให้เขากลายร่างเป็นเม็ดทรายและออกหาเงิน (ปล้น) เพื่อเอาเงินไปรักษาลูก ซึ่งในภาพยนตร์ฟลินต์ มาร์โกยังมีชีวิตอยู่และได้ไปเป็นศัตรูในภาพยนตร์ ‘Spider-Man No Way Home’ อีกด้วย ส่วนในฉบับหนังสือการ์ตูนจะเป็นอีกคนในชื่อ วิลเลียม เบเกอร์ (William Baker) เขาปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือ ‘The Amazing Spider-Man # 18-19’ โดยตัวของเขานั้นคืออดีตนักฟุตบอลของโรงเรียนที่มักใช้กำลังระหว่างเล่น แต่ด้วยฝีมือที่ดีจึงทำให้เขาได้เป็นฟุตบอลอาชีพ และด้วยการติดพนันจึงทำให้เขาล้มบอลจนถูกไล่ออกจากทีม แถมทำเรื่องผิดมากมายจนถูกขังคุกโดยไอ้แมงมุม และในระหว่างหลบหนีวิลเลี่ยมดันหลบหนีไปยังพื้นที่ทดสอบนิวเคลียร์บนชายหาด จนทำให้เขารวมร่างกับเม็ดทรายและใช้พลังนี้ในการก่อความวุ่นวายมานับตั้งแต่นั้น

Venom

ปิดท้ายกับตัวละครสำคัญที่จะไปมีบทบาทใน ‘Spider-Man No Way Home’ เพราะตอนจบของภาพยนตร์ ‘Venom 2 Let There Be Carnage’ ได้ทิ้งท้ายเอาไว้เกี่ยวกับการเดินทางข้ามมิติมาเจอกัน ซึ่งคนที่ได้ดูภาพยนตร์ ‘Spider-Man No Way Home’ มาแล้วคงจะทราบแล้วว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร แต่ก่อนหน้านี้ตัวของ ‘Venom’ เคยมีบทบาทมาแล้วในฐานะศัตรูในเรื่อง ‘Spider-Man 3’ เมื่อปีเตอร์ไปสัมผัสกับ ‘Symbiote’ สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ตกลงมาบนโลก จึงทำให้ ‘Symbiote’ ยึดพลังและรูปแบบของ ‘Spider-Man’ มาเป็นพื้นฐานเมื่อมันย้ายร่างมาสิงกับ เอ็ดดี้ บร็อก (Eddie Brock) นักข่าวคู่แข่งปีเตอร์ ซึ่งคนที่ถูก ‘Symbiote’ เขาสิงจะมีนิสัยก้าวร้าวใช้ความรุนแรง แต่เมื่อ ‘Venom’ มามีภาพยนตร์เป็นของตัวเองเรื่องราวก็ถูกเปลี่ยนใหม่ ให้เหล่า ‘Symbiote’ เป็นสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ถูกเอามาจากดาวบ้านเกิด และมันได้แอบสิงร่างเอ็ดดี้ก่อนจะร่วมมือกันช่วยโลก ขณะที่ภาพยนตร์จะมีที่มาต่างกับในหนังสือการ์ตูน เพราะการเจอกับ ‘Symbiote’ นั้น ปีเตอร์ได้มาจากการต่อสู้ต่างมิติในหนังสือ ‘Amazing Spider-Man # 252’ ในสงคราม ‘Secret Wars’ ที่ชุดของ ‘Spider-Man’ ขาดจากการต่อสู้ เขาจึงได้ไปเจอกับ ‘Symbiote’ และได้ชุดสีดำมา ก่อนที่ปีเตอร์จะรู้ว่าชุดดำนั้นสร้างความวุ่นวายให้ชีวิตเขาจึงทิ้งชุดนั้นไป และ ‘Symbiote’ ก็แค้นปีเตอร์จึงไปสิงร่างเอ็ดดี้ที่เป็นคู่แข่งปีเตอร์จนกลายเป็น ‘Venom’ ที่เป็นทั้งมิตรและศัตรูของ ‘Spider-Man’ มานับแต่นั้น ส่วนวิดีโอเกมเราคงต้องรอดู ‘Spider-Man’ ภาค 2 ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเกมได้ทิ้งเชื้อเอาไว้แล้ว (รูปประกอบด้านล่าง)

ก็จบกันไปแล้วกับ 10 ตัวละครฝ่ายร้ายของ ‘Spider-Man’ ทั้งสามแบบที่เราหยิบยกมานำเสนอหวังว่าจะถูกใจกัน โดยเป้าหมายของบทความนี้ก็เพื่อให้คนที่กำลังจะไปดู ‘Spider-Man No Way Home’ ได้รู้เรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครต่าง ๆ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร จะได้ดูภาพยนตร์สนุกยิ่งขึ้น ส่วนใครที่ดูมาแล้วก็สามารถอ่านย้อนหลัง เพื่อย้อนความทรงจำในภาคเก่าจะได้เข้าใจเรื่องราวมากขึ้น หรือถ้าใครที่ยังไม่ได้ไปดูหรือรอให้ภาพยนตร์ฉายทางดิสนีย์พลัส ก็สามารถอ่านเพื่อย้อนความทรงจำก่อนดูในอนาคตก็ได้ ส่วนใครที่ดูแล้วก็สามารถเอาเรื่องราวในภาพยนตร์มาคุยกันได้เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกัน