Sing 2 เมื่อเหล่าสรรพสัตว์กลับมาครวญเพลงสุดไพเราะ
ความฝันที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ภายหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก ความฝันของบัสเตอร์ มูนยังไม่จบลงเพียงแค่การมีโรงละครเป็นของตัวเอง เขาได้เปลี่ยนมูนเธียเตอร์ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในละแวกบ้านของตัวเอง แต่ความตั้งใจครั้งใหม่ของเขาคือการจะไปเปิดตัวการแสดงบทใหม่ ณ คริสตัลทาวเวอร์ เธียเตอร์ในนครเรดชอว์ซิตี้ที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง
เดิมพันครั้งใหม่นี้ ใหญ่กว่าที่คิดเพราะการที่บัสเตอร์ไร้เส้นสายคนรู้จักที่คริสตัลทาวเวอร์ เขาและผองเพื่อนนักแสดงต้องแอบเข้าไปในสำนักงานคริสตัล เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่มีชื่อเสียงดังระดับโลก ที่บริหารโดยเจ้าพ่อจอมอำมหิตอย่าง จิมมี่ คริสตัล เพื่อเรียกร้องความสนใจ กุนเทอร์ได้พลั้งปากไปว่า การแสดงชุดใหม่ครั้งนี้จะได้นักแสดงระดับตำนานอย่างเคลย์ คาลโลเวย์มาร่วมเวที ติดอยู่ที่ปัญหาเดียวก็คือ บัสเตอร์ไม่เคยได้เจอกับเคลย์เลยสักครั้งในชีวิต
การหาเหาใส่หัวครั้งใหม่ได้เริ่มต้นตั้งแต่วินาทีนั้น เมื่อบัสเตอร์เองค้นพบความจริงว่าตำนานร็อคเกอร์อย่างเคลย์ ปิดกั้นตัวเองไม่ยอมออกสื่อฯ มานานนับกว่าทศวรรษภายหลังจากที่เขาสูญเสียภรรยาไป ความซวยขั้นกว่าคือมิสเตอร์คริสตัลนั้นเป็นเจ้าพ่อมาเฟียอีโก้จัดที่พร้อมจะสั่งลูกน้องของตัวเองให้โยนคนลงมาจาดาดฟ้าตึกทันที ถ้าเขาจับได้ว่าคนๆนั้นกล้าจะมาลองดีโกหกเขา!
หายนะยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อบัสเตอร์และกุนเทอร์พยายามคิดโชว์ครั้งใหม่ชนิดหัวแทบแตก แต่ก็ไม่วายเมื่อบทนำของโรสิตา ในโชว์ถูกพอร์ช่า ลูกสาวจอมสปอยล์ของมิสเตอร์คริสตัลขโมยไปดื้อๆ แต่เพื่อให้ทุกอย่างสามารถดำเนินได้ต่อไปอย่างไม่ล่ม บัสเตอร์เองจึงต้องพยายามออกเดินทางไปตามหาตัวของเคลย์ เกลี้ยกล่อมเขาให้หวนคืนสู่เวทีอีกครั้ง
องค์ประกอบความสำเร็จของ Sing
ในหนังภาคแรก Sing มาพร้อมบทเพลงอันแสนไพเราะ (แม้ว่าจะเป็นการคัฟเวอร์หลายเพลงฮิตในโลกดนตรีมาก็ตาม) แต่ด้วยความหมายดีว่าด้วยการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีความเชื่อมั่นและกล้าจะออกตามล่าความฝัน ซึ่งทำให้สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงผู้คนทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดเสมอมาของสตูดิโออิลลูมิเนชั่น คือการผลักดันตัวละครในหนังแต่ละเรื่องให้มีความโดดเด่นออกมา (ตัวอย่างเช่น เจ้ามินเนี่ยนจาก Despicable Me เป็นต้น) เพราะคนดูต่างหลงเสน่ห์ตัวละครในเรื่อง และนั่นคือความผูกพัน นอกจากนี้ตัวละครของอิลลูมิเนชั่นยังเป็นตัวละครที่ไม่สมบูรณ์แบบมีปัญหา มีความไม่มั่นใจ หวั่นวิตก เต็มไปด้วยข้อบกพร่อง และท้ายที่สุดพวกเขามีความทะเยอทะยานที่จะทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จ
อารมณ์ขันและวัฒนธรรมป๊อป
ถ้าสังเกตแอนิเมชั่นหลายๆเรื่องของอิลลูมิเนชั่น มักจะเรื่องตลกอยู่เสมอ การที่มันมาพร้อมกับเรื่องดนตรีทำให้เรื่องราวทั้งหมดย่อยง่ายและเข้าถึงคนดูได้ง่ายขึ้น อีกอย่างที่ดนตรีนั้นเป็นภาษาสากลที่เข้าถึงได้กับคนทุกชนชาติ
อย่างไรก็ตามที่มาของแฟรนไชส์ที่ชุดนี้ คือความต้องการจะนำพาผู้ชมย้อนกลับไปสู่ความบันเทิงในยุคแรกๆคือการพาตัวละครไปทำการแสดงบนเวทีและมีผู้ชมตัวเป็นๆอยู่ด้านล่าง เนื่องจากในทศวรรษ 2000s เป็นต้นมา การจะกลายเป็นนักร้องหรือป๊อปสตาร์ส่วนมากแล้วเหล่า Pop Idol มักจะมาจากรายการประกวดร้องเพลงอาทิ American Idol, X Factor หรือ The Voice หนังเรื่อง Sing จึงอยากจะนำพาผู้ชมกลับไปสู่วิถีแบบเดิมๆที่เราไม่ได้เห็นกันมานานแล้วนั่นเอง
ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง
เมื่อการเดินทางไปถึงความฝันครั้งแรกได้สำเร็จลุล่วงแล้ว บางครั้งเรามักจะมีคำถามกับตัวเองว่า เราสามารถไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า ตัวละครอย่างบัสเตอร์ประสบความสำเร็จในเมืองเล็กๆ แต่เขายังมีคำถามที่ยังคงค้างใจตัวเอง ว่าเราจะสามารถประสบความสำเร็จมากกว่านี้ได้หรือเปล่า การที่เขามีฝันแบบชาวเมืองเล็กและทีมงานจากเมืองเล็กๆ จนกระทั่งเขาถูกสบประมาทจากคนอื่นว่าโชว์ของเขามีดีไม่พอที่จะไปยังลีกใหญ่ๆในเมืองใหญ่ได้ สิ่งนี้เองที่ได้ไปจี้จุดให้เขาเกิดความทะเยอทะยานมากขึ้น
ตัวละครในหนังเรื่อง Sing จะได้เติบโตมากยิ่งขึ้นในหนังภาคนี้ เมื่อพวกเขาต่างต้องเผชิญหน้ากับปัญหาของตัวเองและถึงแม้ว่าความสำเร็จของพวกเขาจะขึ้นกับว่าโชว์มีความน่าตื่นเต้นแค่ไหน แต่โดยหัวใจแล้ว โชว์ของพวกเขาได้กลายมาเป็นการเอาชนะปีศาจร้ายในตัวของแต่ละคนด้วยนั่นเอง
สำหรับ Sing 2 นี้ได้การ์ธ เจนนิ่งส์ กลับมารับหน้าที่ในการกำกับและควบตำแหน่งมือเขียนบทอีกครั้ง นอกเหนือไปจากนี้เหล่านักแสดงชื่อดังที่เคยให้เสียงพากย์ตัวละครล้วนแล้วแต่กลับมาให้เสียงบรรยายเป็นตัวละครอีกครั้งไม่ว่าจะเป็น แมทธิว แม็คคอนาเฮย์, รีส วิเธอร์สปูน, สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน, ทารอน เอเจอร์ตัน, บ็อบบี้ แคนนาเวล, โทรี่ เคลลี่, นิค โครลล์, ฟาร์เรลล์ วิลเลี่ยมส์, ฮาลซีย์, เชลซี เพอเร็ตติ รวมไปถึงโบโน่ จากวงร็อค U2