ดูกันจะจะ! Transformers 3 รีไซเคิลฉากหนังเก่า
เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ เมื่อมีตาดีสังเกตเห็นว่า ผู้กำกับดัง ไมเคิล เบย์ ตัดฉากแอ็คชั่นสุดมันส์บนถนนจากหนังเก่าของเขาเองอย่าง The Island มาใส่ในผลงานฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุด Transformers: Dark of the Moon ด้วย โดยฉากดังกล่าว เป็นฉากแอ็คชั่นบนท้องถนนที่มีรถชนกันด้วยความเร็วสูง สังเกตจากหนังทั้งสองเรื่องจะพบว่ามีองค์ประกอบต่างๆ ใกล้เคียงกันมาก ทั้ง มุมกล้อง, ฉากหลัง, สภาพแวดล้อม, รถยนต์ที่เข้าฉาก และที่คล้ายที่สุดคงเป็นภาพขณะที่รถกำลังพังพินาศ มีเพียงหุ่นยนต์ที่เป็น CG เท่านั้นที่ถูกเพิ่มเข้ามา
The Island หนังที่เข้าฉายเมื่อ 6 ปีก่อน มี ยวน แม็คเกรเกอร์ และ สการ์เล็ต โจแฮนสัน แสดงนำนั้นไม่ได้เป็นหนังที่ฉายในระบบสามมิติ ซึ่งหมายความว่าฉากรีไซเคิลดังกล่าวใน Transformers 3 ถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นภาพสามมิติภายหลัง โดยไม่ได้ถ่ายทำด้วยระบบ 3D ตั้งแต่แรก โดยที่ผ่านมา ไมเคิล เบย์ ก็ได้เปิดเผยแล้วว่า หนังของเขาไม่ได้ถ่ายทำด้วยกล้องชนิดพิเศษสำหรับภาพ 3 มิติ ทั้งหมด แต่มีบางส่วนที่ถ่ายทำแบบธรรมดา แล้วไปผ่านกระบวนการดัดแปลงให้เป็น 3 มิติ ภายหลังตามข้อจำกัดเรื่องการถ่ายทำ
ล่าสุด IGN ได้รับคำอธิบายจากทีมงานจากหนังทรานส์ 3 ว่า การรีไซเคิลฉากเก่าเกิดขึ้เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในกองถ่าย ซึ่งเป็นข่าวดังเมื่อปีก่อน ที่เป็นผลให้นักแสดงตัวประกอบ เกเบรียลล่า เซ็ดดิโล ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เกิดปัญหาในการถ่ายทำฉากดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การที่จะนำฉากในหนังเก่ามาใช้อีกครั้ง ผู้กำกับต้องได้รับการยินยอมจากสตูดิโอผู้สร้างเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับหนังทรานส์ 3 แต่อย่างใด
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ไมเคิล เบย์ นำฉากเก่ามาเล่าใหม่ โดยก่อนหน้านี้หนัง Transformers ภาคแรก เคยถูกกล่าวหาว่า นำฉากเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่ไปคล้ายกับฉากหนึ่งของ Pearl Harbor อย่างมาก ซึ่งแตกต่างเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น ต่อมามีคำอธิบายถึงกรณีเรือบรรทุกเครื่องบินว่า ฉากที่เห็นใน Transformers ภาคแรกนั้น คือภาพของจริง ส่วนที่ฉากใน Pearl Harbor เป็นการนำภาพจากฟุตเทจ มาทำ CG แก้ไขรายละเอียดต่างๆ ทั้งลบเครื่องบินเจ็ท และเสาอากาศที่ทันสมัยออก เพื่อเปลี่ยนเรือบรรทุกเครื่องบินในยุคปัจจุบันให้กลายเป็น USS Hornet ที่ประจำการอยู่ในช่วงปี 1939 - 1943 นั่นเอง
หนัง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 3ใช้ทุนสร้างมหาศาลสูงถึง 195 ล้านเหรียญสหรัฐ หากมองในแง่ดีแล้ว ก็ถือว่า ไมเคิล เบย์ ได้พยายามช่วยประหยัดงบประมาณในการสร้างหนังให้กับสตูดิโอผู้ผลิตได้มากโขทีเดียว