ย้อนวันเวลากับ "เบญจา คีตา ความรัก" โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

เปิดปีใหม่มา ผ่านวันเด็กมา แต่กะเทยก็พาให้นึกถึงละครเก่า ที่ทำให้เรานึกถึงวัยเด็กอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งล่าสุดนางมีโอกาสมาฉายใหม่ แล้วกะเทยก็รู้สึกตื่นเต้น ไม่พูดถึงไม่ได้เลยค่ะกะเทย เพราะนี่คือละครที่กลายเป็นกระแส และความดังทะลุฟ้ามากมาย ไปค่ะ

เบญจา คีตา ความรัก

 

ละครโทรทัศน์เรื่องเก่าที่ไม่เคยเก่าเรื่องนี้ นางออกอากาศไว้ทางช่อง 7 เวลา 20.20 น.ทุกวันจันทร์-วันอังคาร ระหว่างวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2546-12 มกราคม พ.ศ. 2547 ค่ะ นมนานกาเลมากแม่ แต่ด้วยความที่เนื้อหาของละครที่ต้องเรียกได้ว่าแปลกใหม่ ทันสมัยมากในยุคนั้น แม้จะออกอากาศวันจันทร์-อังคาร แต่ก็กลายเป็นครองใจวัยรุ่นวัยเรียนในยุคนั้นได้เฉยเลย

เบญจา คีตา ความรัก (Melody of Love) บอกเล่าเรื่องราวความสวยงามของความรัก มิตรภาพ และการต่อสู้ทางชนชั้น โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อกลาง โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “เจ้าจอม” เด็กสาวสายดาร์ค ลูกสาวของกล้า เจ้าของร้านโลงศพ ในตรอกเล็กๆที่บ้านกำลังจะถูกห้างใหญ่โดยรอบกลืนกินไป แม้ที่บ้านจะลุ่มๆดอนๆเรื่องจะอยู่หรือจะไป เจ้าจอมก็ยังถูกปลูกฝังให้เรียนดนตรีไทยมาแต่เด็ก พ่อที่เป็นสัปเหร่อเก่า ก็ยังอยากให้เธอได้สืบสานมรดกไทยในจุดนี้

แต่ความวัยรุ่นสายดาร์ค เจ้าจอมก็แอบมีความหลงใหลในดนตรีสากล ความกีตาร์ไฟฟ้าคือจิตใจ เธอจึงต้องการจะเข้าชมรมดนตรีสากลในมหาวิทยาลัยที่เธอได้รับเลือกเข้าเรียนไป โดยที่นั่นมีรุ่นพี่วง “Pop Girls” ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดเพลงป๊อปอยู่ในคณะนั้นเรียนอยู่ด้วย รวมถึงแกงค์เทพบุตรทั้ง 5 ที่เป็นรุ่นพี่ขวัญใจสาวๆ “วายุ สายฟ้า สามภพ ภูผา และสิชล” ซึ่ง 3 ใน 5 เป็นแฟนกับสาวๆ Pop Girls เสียด้วย

เจ้าจอม ได้รู้จักกับ “บัวบุษบา” และ “โยทะกา” ซึ่งทั้งสามพยายามจะเข้าชมรมดนตรีสากลให้ได้ และพยายามจะเป็นเหมือนสามสาว Pop Girls ให้ได้เช่นกัน แต่ทั้งสามสาวก็ค้นพบว่า Pop Girls นั้นไม่ได้สวยใจดีอย่างที่ภาพเห็นในสื่อ ทั้งสามไม่ชอบให้ใครมาเทียบรัศมี แถมชมรมดนตรีสากลก็มีหอพักนักศึกษาที่ไม่พร้อมที่จะรับ “พวกนอกคอก” สามเพื่อนรักจึงต้องกระเซ็นมายังชมรมที่พ่อของเจ้าจอมลงทะเบียนไว้ให้แต่แรก “ชมรมดนตรีไทย” 

ซึ่งที่นั่น สามเพื่อนรักยังได้พบกับ “ลำดวน” สาวน้อยที่ตั้งใจจะเข้าชมรมดนตรีไทยแต่แรก และรุ่นพี่อย่าง “ช้องนาง” ที่ตามหาทั้งสี่ไปจนทั่วมหาลัย เพราะทั้งสี่คือนักเรียนรุ่นใหม่ความหวังสุดท้าย ที่จะมาสานต่อมรดกชมรมดนตรีไทยต่อไป

แม้จะกล้ำกลืนความชอบ แต่เมื่อรวมตัวกันได้แล้ว เพื่อนรักทั้ง 5 ก็ร่วมกันฝึกดนตรีไทยอยู่ในชมรมที่อยู่ซอกหลืบของมหาวิทยาลัย เสียงของดนตรีไทยนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของ “อาจารย์ขลุ่ยผิว” ที่มีอดีตอันลึกลับ และเหมือนกับว่าอดีตของอาจารย์ จะเกี่ยวข้องกับการเติบโตของมหาลัยที่มีการคอร์รัปชั่น ทำให้ธุรกิจบางอย่างเติบโตอย่างไม่ใสสะอาด โดยมีสาวๆ PopGirls เกี่ยวข้องด้วย 

และการเดินทางเพื่อค้นหาความจริงโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อกลาง ก็ทำให้เพื่อนรักทั้ง 5 คน เริ่มมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งงอกงามไปหาหนุ่มๆ ทั้ง 5 ที่อยู่อีกฟากฝั่งของดนตรี กลายเป็นท่วงทำนองแห่งความรักระหว่างของสไตล์ ที่จะคลี่คลายความวุ่นวายที่แฝงตัวอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ได้ในที่สุด

ความน่าสนใจของ เบญจา คีตา ความรัก นั้น มีอยู่หลายประเด็นมากเหลือเกินมาก เริ่มต้นด้วยการที่เนื้อเรื่องของละคร บอกเล่าเรื่องราวที่เป็นวัยรุ่นอย่างเต็มรูปแบบ วัยรุ่นแบบที่วัยรุ่นเป็นและขับเคลื่อนไปด้วยเรื่องของดนตรี ความรักในวัยเรียน ซึ่งไม่ค่อยปรากฎในกลุ่มละครของช่อง 7 ในสมัยนั้นเท่าไหร่ ที่มักจะดาษดื่นไปด้วยละครแนวดราม่าครอบครัว ของคนรากหญ้ากับคนรวย ซึ่งเรื่องนี้ก็พูดประเด็นเดิมที่ช่อง 7 คุ้นเคยดี แต่เป็นครั้งแรกที่ใช้ตัวละครวัยรุ่นเป็นตัวเดินเรื่องหลัก ไม่ปรากฎตัวละครผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้องเลย

ทั้งยังใช้นักแสดงวัยรุ่น (ในสมัยนั้น) เป็นตัวหลักเยอะถึง 13 คน ซึ่งต้องนับว่าเยอะมากๆเลยนะคะเธอ อาจจะนับว่าเป็น “ฮอร์โมน” แห่งปลาย 90’s เลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่านักแสดงเกินครึ่งจากละครเรื่องนี้ ล้วนเติบโตมาเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการในตอนนี้แล้วแทบทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละตัวละครที่แต่ละนักแสดงได้รับ ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มีทางที่เราจะจำใครไม่ได้ จนกลายเป็นว่ากะเทยเอง ก็ต่างจับจองตัวละครเพื่อนรักทั้ง 5 ว่าใครเป็นตัวไหนกันดี เพราะ “เบญจา” แปลว่า 5 ก็ประหนึ่งว่ามันคือขบวนการเรนเจอร์ 5 สี ที่เราและแกงค์เพื่อน ต้องหาตัวจับจองเล่นบทบาทสมมติกันเลยล่ะ

ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นตำนาน ก็คือเพลงประกอบที่เพราะติดหู และกลายเป็นอัลบั้มเพลงประกอบละครที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาลของช่อง 7 เลยก็ว่าได้ กับอัลบั้ม “เบญจา คีตา ความรัก” ที่ถึงแม้ตัดความเป็นละครออกไป เพลง Pop ฟังสบายจากเหล่านักแสดง ก็กลายเป็นเพลงดังได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น “ดนตรีในหัวใจ” ที่เป็นเพลงไตเติ้ลเปิด ที่มีตัว MV แตกต่างจากไตเติ้ลละครทั่วไป กับการใช้นักแสดงมาร้องเพลงเป็นวง Band ร่วมกัน หรือแม้แต่เพลง “ฉันไม่ใช่เจ้าชาย” ที่บ่งบอกความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่งแบบหวานหยดย้อยไม่ไหว หรือกะเทยอย่างเราๆ จะแวะเวียนไปจิกๆกับเพลง “ไม่ว่าง” ตามสไตล์สามสาว Pop Girls ที่เพลงของตัวร้าย ดันเป็นเพลงที่ฮิตติดลมบนไม่แพ้กัน 

ซึ่งประเด็นหลักของเรื่องที่เกี่ยวกับดนตรีนี้เอง ละครเรื่องนี้ก็สอดแทรกความเป็นไทย ในแบบที่ละครยุคนั้นต้องการเอาไว้ แบบไม่รู้สึกว่ายัดเยียด กับการแบ่งขั้วฝ่ายชัดเจนระหว่าง ความเป็นทุนนิยมกลืนกิน กับความเป็นไทย ที่กลายเป็นของชายขอบ ไม่ทันสมัย ต้องมาต่อสู้กับความสากลที่ติดตลาดมากกว่า และเนื้อเรื่องก็พาเราไปสำรวจเรื่องราวในโลกของดนตรีให้เห็นกันว่า ฝ่ายไหนจะชนะ ที่แม้จะไม่ลงลึกถึงรายละเอียดมาก แต่ก็ทำให้เห็นว่า ในยุคหนึ่ง เรามองดนตรีไทยและดนตรีสากลอย่างไร ในแว่นของละครช่อง

จากหลายๆองค์ประกอบนี้เอง ที่ทำให้ เบญจา คีตา ความรัก เป็นละครที่ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงเป็นข้าวอยู่บ่อยครั้ง เพราะหลังจากนั้น เราก็ไม่เห็นละครที่เกี่ยวกับดนตรี Pop ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้อีก ผ่านแว่นของช่อง 7 เพราะหลังจากนั้นก็พาไปสำรวจความชายทุ่ง ความดอกหญ้าในป่าปูนเสียมาก แม้จะมีกระแสของการรีเมคละครเรื่องนี้กลับมา แต่ก็มีหลายคอมเมนต์ที่บอก “อย่าหาทำค่ะ” เพราะต้นฉบับ แม้จะโก๊ะกังอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มีอะไรมาแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นเหล่านักแสดงที่ภาพจำชัดเจนแล้ว รวมถึงเพลงประกอบที่เพราะเหนือกาลเวลาอยู่แบบนั้นไปแล้ว

ก็ต้องนับว่า เบญจา คีตา ความรัก เป็นละครที่ทำให้เรายอนรำลึกถึงช่วงเวลาหนึ่งของเราได้เป็นอย่างดี แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้ว ท่วงทำนองแห่งรักของพวกเขา จะยังอยู่กับเราต่อไปค่ะกะเทย

 

แน่นอนว่าตอนนี้ สามารถย้อนดู “เบญจา คีตา ความรัก : Melody of Love” ได้ที่ Bugoboo Inter ด้วยนะเธอ

เหยี่ยวเทย รายงาน