Bad Buddy แค่เพื่อนครับเพื่อน ใกล้แค่ไหนก็คือไกลสำหรับสองเรา

Bad Buddy แค่เพื่อนครับเพื่อน ใกล้แค่ไหนก็คือไกลสำหรับสองเรา

Bad Buddy แค่เพื่อนครับเพื่อน ใกล้แค่ไหนก็คือไกลสำหรับสองเรา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

แค่เพื่อนครับเพื่อน เพิ่งจะอำลาจอแก้วไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แน่นอนว่าตลอดความยาวทั้ง 12 ตอนนั้นมาพร้อมกับฉากชวนจิ้นฟินจิกหมอนตามประสาซีรีส์วายตามสูตรสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นตลอดรายทางของเรื่องล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่น่าสนใจให้เราค้นหา ถอดความกันอยู่บ้าง

จากนวนิยาย หลังม่าน Behind the Scenes ผลงานการเขียนของ afterday,west ได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นทีวีซีรีส์ภายใต้ชายคา GMM TV ผลงานการกำกับของนพณัช ชัยวิมล โดยในเวอร์ชั่นซีรีส์ บอกเล่าเรื่องราวของปราณ (นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์) และภัทร (โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี) เด็กหนุ่มสองคนที่บ้านอยู่ติดกัน เคยเรียนโรงเรียนมัธยมเดียวกัน แต่ด้วยความที่พ่อของภัทร ไม่ถูกชะตากับแม่ของปราณ ส่งผลให้ทั้งสองบ้านเกิดอาการเกาเหลากันตั้งแต่ยังจำความได้

ด้วยการวางโทนเรื่องราวของซีรีส์ให้มีลักษณะเป็นละครแนวโรแมนติก-เบาสมอง ดังนั้นสิ่งที่ผู้ชมต้องวางตรรกะในแง่ของความสมจริงของตัวละครทิ้งไปบ้าง เพื่อ “ยอมรับ” ปมขัดแย้งของตัวละครซึ่งถือว่าเป็นปมหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้ ที่ว่าด้วยคนสองคนที่ไม่ถูกกันแต่ดันตกหลุมรักกันเอง

ยิ่งเกลียดก็ยิ่งรัก น่าจะเป็นการใช้เพื่อนิยามความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครปราณและภัทรได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ชมอาจจะได้รับรู้แค่เพียงว่าในห้วงเวลาสมัยที่ทั้งสองเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมที่เดียวกัน แต่หลังจากที่ทั้งสองร่วมวงดนตรีเดียวกัน และเรื่องไปเข้าหูแม่ของปราณทำให้เธอตัดสินใจย้ายโรงเรียนลูกชาย (อย่างที่บอกไปว่า ถ้าเรามัวมานั่งหาตรรกะให้กับซีรีส์ ก็คงถกกันไม่จบอย่างแน่นอน) เพียงเพราะไม่อยากให้เขาคบค้าสมาคมกับภัทร

เส้นเรื่องหลักของ “แค่เพื่อนครับเพื่อน” ยังมีฉากหลังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย อันเป็นพื้นที่คุ้นเคยของแฟนๆนักอ่านซีรีส์วาย โลกของคณะสถาปัตยกรรมกลายเป็นสนามรบกับโลกของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สองคณะอันเป็นภาพแทนความ “แมน” และดำรงสถานะความเป็นชายของจักรวาลวายไทย แต่ถึงอย่างนั้นดีกรีความไม่ถูกชะตาและยกพวกตีกัน ประหนึ่งจำลองสถานการณ์มาจากเด็กช่างกล (แบบในหนัง 4King) ก็ถูกเน้นย้ำประเด็น ความไม่ลงรอยกันระหว่างสองตัวละครเอกอยู่เรื่อยๆ

อย่างที่กล่าวไป ในเมื่อมันเป็นละครความน่าฉงนและชะตาฟ้าลิขิตแบบประหลาดๆ ทำให้ปราณและภัทรมาเช่าหอพักอยู่ห้องตรงกันข้ามกัน จนช่วงแรกทั้งสองต้องคอยระแวงว่าเพื่อนๆร่วมคณะของตัวเอง (ที่ไม่ถูกกัน) จะมาค้นพบความจริงนี้และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต

ศาลารวมใจวิศวะสถาปัตย์จึงกลายเป็นจุดเชื่อมโยงและทำให้ตัวละครทั้งสองคณะ ต้องพยายามมาร่วมงานกัน หลังจาการทะเลาะเบาะแว้งของพวกเขา ทำให้ศาลาพังพินาศแต่แน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการคลี่คลายอย่างรวดเร็ว สวนทางกับความสัมพันธ์และความรู้สึกดีๆของตัวเอกทั้งสองฝ่ายจะเริ่มก่อตัวและนำไปสู่คำถามที่ว่า ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดนั้น ตกลงแล้วพวกเขาจะเอายังไงกับมันดี จน “ฉากจูบบนดาดฟ้า” กลายเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าทั้งสองฝ่ายจริงๆแล้วรู้สึกอย่างไรกันแน่

หลังจากรับบทพ่อแง่แม่งอนกันอยู่พักใหญ่ เพราะฝั่งปราณเองก็ยังกลัวว่า ท่ามกลางความขัดแย้ง ที่ล้วนแล้วแต่เกิดจากสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวและผองเพื่อนตัวเองนั้นอาจจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ จนกระทั่งภัทรอยากจะตามตื้อปราณด้วยการไปออดิชั่นเป็นละครสถาปัตย์เรื่องขวัญเรียม ความน่าสนใจอยู่ตรงนี้ที่ตัวเรื่องราววรรณกรรมขวัญเรียมเอง ก็บอกเล่าเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างคนรุ่นพ่อของตัวเอก จนทำให้ตัวละครทั้งสองตัดพลัดพรากจากกัน และท้ายที่สุดทั้งคู่ได้กลับมาเจอกัน และจบลงด้วยการตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยเพื่อหนีปัญหาทั้งหมด จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมแห่งทุ่งบางกะปิ ที่อยู่ในความทรงจำของขาวไทยมาเนิ่นนาน

ทว่าเมื่อขวัญเรียมหรือแผลเก่า ไม่ใช่ แค่เพื่อนครับเพื่อน ทำให้ประเด็น ดูหนังดูละครแล้วย้อนกลับมามองตัวเอง ไม่ได้รับการเน้นย้ำหรือเทียบเคียงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอกทั้งสอง แต่กลายเป็นว่า “ฉากโป๊ะแตก” ที่ทั้งคู่ประกาศกร้าวหลังม่านการแสดง ว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน จะถูกเปิดเผยชนิดที่เรียกได้ว่าแกรนด์โอเพนนิ่งต่อหน้าทีมละคร และกลายเป็นคำถามครั้งใหม่ว่า พวกเขาจะสามารถรักกันได้จริงหรือ แต่แน่นอนว่าความยากลำบากของตัวละครในจักรวาลวายไม่ใช่การถูกจับได้ว่าพวกเขา “ชอบเพศเดียวกัน” แต่เป็นการที่ทั้งสองฝ่ายกำลังสวมเขาควายให้คนรอบตัวว่าพวกเขาไม่กินเส้นกันต่างหากเป็นปัญหาที่แท้จริง

แน่นอนว่าเมื่อไม่มีอะไรมากมายไปกว่าความเข้าใจผิด และกลัวคนรอบข้างจะรู้สึกไม่ดี ความลับของปราณและภัทรจึงดำเนินต่อไปในสถานะแอบคบกันลับๆ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจสัจธรรมชีวิตที่ว่า “เราอาจจะเปลี่ยนโลกภายนอกไม่ได้ แต่เราเลือกได้ที่จะเปลี่ยนตัวเองให้มีความสุขได้” แต่นั่นก็เป็นห้วงเวลาที่ทั้งคู่ก้าวออกไปสู่โลกของผู้ใหญ่ที่ต้องทำงานทำการ ฝ่ายหนึ่งไปทำงานไกลถึงต่างประเทศอย่างสิงคโปร์ แต่ก็ยังรักกันดีมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นและยังดูไม่ต่างอะไรจากตอนที่ทั้งคู่คบกันใหม่ๆเลยทีเดียว

อย่างที่เราบอกไปว่าเมื่อเราเข้าใจบริบทที่เกิดขึ้นในจักรวาลวายไทยแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดในการฟันฝ่าความรัก คือการเชื่อมั่นในความรักของตัวเองที่มีต่อคู่รัก หาใช่บริบทรอบตัว เพราะในโลกของความเป็นจริงนั้นทุกอย่างดูจะกลับตาลปัตรและตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง

จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่ Bad Buddy หรือ แค่เพื่อนครับเพื่อน จะเป็นผลงานเบาสมอง พาฝันและพาคนดูไปอยู่ในจักรวาลที่ผู้ชายสองคนรักกันได้เสมอและทุกอย่างก็พร้อมจะเป็นใจให้ทั้งคู่ได้รักกันตลอดไป แค่นี้สาวกก็ได้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์มีปราณและภัทรกลายเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่แล้วนั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook