รวมโมเมนต์สุดช็อคจาก Scream ภาคล่าสุด [มีสปอยล์]
ถึงแม้ว่ากระแสของ Scream ภาคล่าสุดในประเทศไทย อาจจะดูไม่ได้คึกคักเท่าฝั่งอเมริกานัก แต่หลายเรื่องราวที่ชวน “ช็อค” ในหนังภาคนี้คือปรากฏการณ์ที่เราจะควรจะหยิบยกมาเล่าถึงอยู่ไม่น้อย และแน่นอนว่าบทความนี้มีสปอยล์อย่างแน่นอน
ย้ำอีกครั้งบทความนี้มีการเปิดเผยเรื่องราวและความลับสำคัญในหนัง
Scream ภาคล่าสุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ลำดับที่ 5 ในแฟรนไชส์จักรวาลหวีด เหตุการณ์ฆาตกรรมยังคงเกิดขึ้นและวนเวียนอยู่ในเมืองวู้ดส์โบโร่ อันเป็นตำนานของฆาตกรสวมหน้ากากภายใต้ฉายา “โกสต์เฟซ” แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในหนังภาคนี้ และยังมีสิ่งที่ “เซอร์ไพรส์” คนดู จนไปถึงขั้นชวนช็อคกันเลยทีเดียว
บทสรุปของฉากเปิดเรื่องที่ไม่เหมือนเดิม
หลายครั้งหลายครา ถ้าแฟนหนัง Scream ยังพอจดจำกันได้ คือบรรดาฉากเปิดเรื่องของหนังที่จะมาพร้อมการออกล่าเหยื่อของ “โกสต์เฟซ” ในการโทรศัพท์มาหยอกล้อกับผู้เคราะห์ร้าย พร้อมด้วยประโยคทักทายสุดกวน “หนังสยองขวัญเรื่องโปรดของคุณคือเรื่องอะไร” โดยผู้เคราะห์ร้ายในหนังภาคนี้ตกเป็นของ “ทาร่า” (เจนน่า ออร์เทก้า) หลังจากที่เธอเล่นเกมสงครามประสาทอยู่นมนาน ฆาตกรก็ปรากฏตัวขึ้นและออกไล่ล่าเธอภายในบ้านอย่างบ้าคลั่ง และลงเอยด้วยการที่เธอถูกจ้วงแทงก่อนที่ภาพทุกอย่างจะตัดไปและปรากฏชื่อไตเติ้ลของหนัง
โดยปกติแล้ว ตัวละครในฉากแรกทั้งหมดของแฟรนไชส์ “หวีด” มักจะลงเอยด้วยการ “เป็นศพ” ทั้งหมด แต่ทาร่า กลายเป็นตัวละครแรกที่ หนังได้เฉลยว่าเธอยังรอดชีวิตและอยู่ในสภาพอาการสาหัสและกำลังพักฟื้นตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนจะเป็นชนวนที่ทำให้พี่สาวของเธออย่างแซม (เมลิสซา บาร์เรรา) เดินทางกลับมายังวูดส์โบโร่
ภาพหลอนของแซมกับตัวละครที่คาดไม่ถึง
ใครจะไปคาดคิดว่าตัวละครอย่างแซมจะเห็นภาพหลอนไปถึงฆาตกรจากหนังภาคแรกอย่างบิลลี่ ลูมิส (สกีต อูลริช) โดยเธอดำรงฐานะเป็น “ลูกสาว” แท้ๆของเขา ซึ่งหนังยังใช้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวได้อย่างชาญฉลาด ว่าทำไมตัวละครนี้ถึงต้องเดินทางออกไปจากวู้ดส์โบโร่ และการเผชิญหน้ากับความจริงนั้นเป็นเรื่องยากแค่ไหนสำหรับตัวละครนี้
การจำกัดความของ “รีเควล”
นี่คือการบัญญัติศัพท์ใหม่สำหรับแฟนหนังยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เมื่อตัวละครอย่างมินดี้ (จัสมิน ซาวอย บราวน์) ได้พยายามอธิบายทฤษฏีของภาพยนตร์ภาคต่อที่ปัจจุบันมีทั้งการรีเมคและรีบูต แต่สำหรับรีเควลนั้นเป็นการผสมทั้งรีเมคและรีบูตเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น แฟรนไชส์ Star Wars และ Jurassic Park ที่มีการนำตัวละครจากหนังภาคออริจินัลและเล่าเรื่องราวของกลุ่มตัวละครใหม่ๆ ที่ไม่ทำลายความคาดหวังของแฟนหนังกลุ่มเดิม และในขณะเดียวกันยังทำให้ผู้ชมกลุ่มนี้ (รวมถึงผู้ชมกลุ่มใหม่เจนเนอเรชั่นใหม่) เปิดใจยอมรับหนังไปพร้อมๆกัน
มีตัวละครที่ผูกพันกับคนดูตาย!
หนึ่งฉากที่จัดได้ว่าเป็นการช็อคคนดูอย่างรุนแรง คือฉากการต่อสู้ที่โรงพยาบาล ทำให้ตัวละครอย่างดิวอี้ (เดวิด อาร์เคว็ทท์) ตาย! ส่งผลให้เกล (คอร์ทนีย์ ค็อกซ์) อดีตคนรักใจสลาย และการตายครั้งนี้ยังส่งผลให้ตัวละครอย่างซิดนีย์ (นีฟ แคมป์เบล) ต้องเดินทางกลับมายังเมืองวูดส์โบโร่อีกครั้งด้วย
การตายของครอบครัวฮิคส์
ฉากลุ้นระทึกอีกฉากในหนังภาคนี้คือการตายแบบปุบปับของนายอำเภอฮิคส์ (มาร์ลีย์ เชลตัน) ที่พยายามรีบกลับมาที่บ้านหลังจากที่เขาได้รับสายจากโกสต์เฟซว่าลูกชายของเธออย่างเวส (ดีแลน มินเน็ตต์) กำลังตกอยู่ในอันตราย แน่นอนว่าการตายของเธอเป็นอีกหนึ่งฉากที่เล่นเอาคนดูตั้งตัวไม่ทัน เช่นเดียวกันฉากที่เวสกำลังจะถูกเล่นงาน หนังก็เล่นกับมุมกล้อง บานประตู ช่องว่างของเฟรมภาพที่เล่นเอาคนดูลุ้นจนหัวใจแทบวายว่า สุดท้ายแล้วเขาจะถูกจู่โจมตอนไหน
ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
ถึงตัวละครอย่างมินดี้ดูจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหนัง จนอาจจะกล่าวได้ว่าเธอเป็นแฟนหนังเดนตายของบรรดาหนังสยองขวัญ แต่หนึ่งฉากที่จัดได้ว่าดูตลกร้ายไปพร้อมๆกัน คือฉากที่เธอกำลังนอนดูหนัง Stab ภาคแรก (ซึ่งจำลองฉากมาจาก Scream ภาคแรกมาอีกที) ระหว่างที่ตัวละครอย่างแรนดี้ (เจมี่ เคนเนดี้) กำลังนอนดูหนังสยองขวัญและด่าตัวละครว่าทำไมไม่ระแวงภัยว่าฆาตกรกำลังจะบุกเข้ามาทางประตู แต่มินดี้ก็มีพฤติกรรมในแบบเดียวกันเป๊ะ ซึ่งฉากนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตัวละครทุกตัวนั้นมีโอกาสจะกลายเป็นเหยื่อของฆาตกรได้ตลอดเวลา ถ้าหากชะล่าใจ
ฉากไคลแมกซ์เกิดขึ้นในสถานที่เดียวกับหนังภาคแรก
ใครจะไปคิดว่าฉากไคลแมกซ์สุดคลั่งของหนังภาคนี้จะย้อนกลับไปเกิดขึ้นที่บ้านของสตู (เจมี่ เคนเนดี้) อีกหนึ่งตัวละครที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับฆาตกรอย่างบิลลี่ ลูมิส แม้ว่าตอนแรกคนดูจะยังไม่ทันทราบเลยด้วยซ้ำว่าบ้านปัจจุบันของแอมเบอร์ (ไมกี้ เมดิสัน) นั้นเป็นบ้านหลังเดียวกันหรือเปล่า จนกระทั่งเมื่อซิดนีย์ได้โทรศัพท์มาหาแซม หลังจากที่เธอแอบติดเครื่องติดตามเอาไว้ และบอกว่าแซมกับทาร่ากำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะบ้านหลังที่เธออยู่นั้นคือบ้านหลังเก่าที่เคยเกิดเหตุการณ์นองเลือดในหนังภาคแรก จากนั้นเอง มุมกล้องก็ได้ซูมภาพตัวบ้านให้คนดูได้เห็น และพาคนดูไปยังซอกมุมต่างๆของตัวบ้าน เพื่อให้คนดูได้เข้าใจว่า มันคือบ้านหลังเดียวกันจริงๆ ดังนั้นเหตุการณ์ในฉากนี้จึงเป็นเหมือนการคาราวะหนังต้นฉบับและกำลังจะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่ไปพร้อมๆกัน
แล้วสำหรับคุณผู้อ่าน มีอะไรที่เซอร์ไพรส์ใน Scream ภาคนี้บ้างอย่างลืมแวะมาบอกเรานะ