รีวิว Resident Evil: Welcome to Raccoon City แฟนเซอร์วิส หรือ ดับฝันแฟนเกม?

รีวิว Resident Evil: Welcome to Raccoon City แฟนเซอร์วิส หรือ ดับฝันแฟนเกม?

รีวิว Resident Evil: Welcome to Raccoon City แฟนเซอร์วิส หรือ ดับฝันแฟนเกม?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ Resident Evil มีการประกาศสร้างหนังเวอร์ชั่นใหม่เพื่อรีบูตจักรวาล และเลือกที่จะกลับไปบอกเล่าเรื่องราวในเกมมากขึ้น Welcome to Raccoon City จึงกลายเป็นภาคปฐมฤกษ์สำหรับความสยองบทใหม่ (ที่ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมีภาคต่อตามมาอีกหรือไม่)

Resident Evil: Welcome to Raccoon City เป็นหนังที่ตั้งใจจะหยิบเอาเรื่องราวจากเกมภาคที่ 1-3 เอามาบอกเล่าภายในหนังเรื่องเดียวจบ แต่ด้วยความยาว 107 นาทีกับการยัดเอาเรื่องราวจากเกมทั้ง 2 ภาค (ตัวเกมในภาคที่ 3 นั้นเส้นเวลาเกิดซ้อนทับอยู่กับเกมในภาคที่ 2 จึงควรจะนับอยู่ในไทม์ไลน์เดียวกัน) ภายในเวลาอันแสนจำกัดจำเขี่ยนั้น ไม่เป็นผลดีกับวิธีการเล่าเรื่องราวเลยสักนิด

สิ่งที่น่าสนใจคือหนังตั้งใจที่จะชูเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแคลร์และคริส เรดฟิลด์ ด้วยการเปิดเรื่องราวมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แถมยังให้แอร์ไทม์กับตัวละครสุดสะพรึงจากในเวอร์ชั่นเกมกับลิซ่า เทรเวอร์อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ตัวละครตัวอื่นๆ อาทิ ลีออน เอส. เคนเนดี้ ที่ในเวอร์ชั่นเกมถึงเขาจะตื่นสายและไปเข้างานไม่ทัน แต่เขาก็ยังสมาร์ท หล่อ เท่และดูไม่เป็นไอ้เห่ยแบบในเวอร์ชั่นนี้ ยังไม่รวมไปถึงตัวละครอย่างจิล วาเลนไทน์ ที่ถูกตีความใหม่เป็นสาวจอมห้าวสุดกวนโอ้ย ห่างไกลจากเวอร์ชั่นเกมไปหลายขุม (จิล ใน Resident Evil: Apocalypse ซึ่งแสดงโดยเซียนน่า กิลลอรี่ ยังมีความใกล้เคียงกว่ามากๆ)

การตีความตัวละครใหม่ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า วิธีการดีไซน์ตัวละครเหล่านี้ให้ออกมาดูไม่ทำร้ายจิตใจแฟนเกมน่าจะเป็นความสำคัญในลำดับต้นๆ ยิ่งไปกว่านั้นการที่หนังแทบจะไม่ได้ให้เวลาผู้ชมได้ทำความรู้จักกับตัวละครเหล่านี้อย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งทำให้บรรดาฉากแอ็คชั่นปนสยองขวัญที่ควรจะเต็มไปด้วยความลุ้นระทึก ยิ่งกลายเป็นว่าตัวละครเอกเหล่านี้ ดูแทบจะไม่เหลืออะไรที่สมควรจะได้รับการเอาอกเอาใจช่วยเลย

แฟนเกมอาจจะฟินน้ำแตกที่ได้เห็นด้านนอกของสถานีตำรวจ R.P.D และโถงของคฤหาสน์สเปนเซอร์ตามโมเมนต์แรกที่ผู้เล่นเกมภาคแรกได้เห็นฉากนี้ แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงสิ่งที่ทำให้ผู้ชมได้แต่ยิ้มหวานเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อเอาเข้าจริงแล้วเมื่อตัวละครออกสำรวจตัวคฤหาสน์หรือสถานีตำรวจในซอกมุมอื่นๆ ก็คงต้องบอกว่า มันไม่มีอะไรที่เหมือนกับเกมทั้ง 2 ภาคแรกเลยสักนิดเดียว

เราอาจจะได้เห็นอุปกรณ์ประกอบฉากที่ทำให้ผู้ชมนึกถึงเกม ไม่ว่าจะเป็นลูกกุญแจ ไอเท็มอาทิ สมุนไพรสามสี กระทั่งฉากซอมบี้หันหน้าอันแสนตราตรึง แต่ด้วยทุนสร้างอันจำกัดจำเขี่ยและความพยายามที่ยำรวมเกมทั้งสองภาคเอาไว้ในหนังเรื่องเดียว จึงกลายเป็นแนวคิดที่ดูละโมบเกินไปและไม่อาจจะทำให้เส้นเรื่องของหนังดูออกมาเป็นเหตุเป็นผลกันได้สักเท่าไหร่

กล่าวโดยรวมคือ Resident Evil: Welcome to Raccoon City เป็นความพยายามครั้งใหม่ที่น่าผิดหวัง แถมหนังยังออกมาไม่ค่อยสนุกอย่างที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook