ถอดบทเรียนกับซิดนีย์จาก Scream ถ้าไม่อยากตายในหนังไล่เชือดต้องทำยังไง?

ถอดบทเรียนกับซิดนีย์จาก Scream ถ้าไม่อยากตายในหนังไล่เชือดต้องทำยังไง?

ถอดบทเรียนกับซิดนีย์จาก Scream ถ้าไม่อยากตายในหนังไล่เชือดต้องทำยังไง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อพูดถึงหนังสยองขวัญแนวไล่เชือดแล้ว มักจะมีสูตรสำเร็จหรือพฤติกรรมที่ทำให้ตัวละครในเรื่องถึงแก่ความตายหรือกลายเป็นเหยื่อของฆาตกร เราลองมาดูวิธีเอาตัวรอดของตัวละครเอกอย่าง “ซิดนีย์” จากหนังเรื่อง Scream กันดีกว่า

บทความนี้มีสปอยล์ เรื่องราวในแฟรนไชส์ Scream ทุกภาค รวมถึงภาคล่าสุดด้วย

ตั้งแต่ Scream ภาคแรกที่สร้างขึ้นในปี 1996 ตัวละครอย่างซิดนีย์ เพรสกอต (นีฟ แคมป์เบล) กลายเป็นตัวละครเอกประเภทไฟนอลเกิร์ล (Final Girl) หรือผู้หญิงคนสุดท้ายที่เอาชีวิตรอดมาจากการตามล่าของฆาตกรได้สำเร็จ มากไปกว่านั้นคือ เธอยังมีวิธีการเอาชีวิตรอดที่ชาญฉลาดและน่าสนใจอยู่เสมอ ตั้งแต่หนังภาคแรก จวบจนเรื่องราวในหนังภาคล่าสุด Scream (2022) ตัวละครนี้ได้โลดแล่นอยู่ในจักรวาลของตัวเองเป็นเวลาร่วม 26 ปีเต็มแล้ว

สำหรับหนังภาคล่าสุดนักวิจารณ์จากสื่อต่างประเทศ ล้วนลงความเห็นว่าตัวละครซิดนีย์ เติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และเฉลียวฉลาดขั้นตามกาลเวลา เธอได้กลายเป็นภรรยาและคุณแม่ มีความกล้าแสดงออก มีการตัดสินใจในชีวิตที่เด็ดขาด อดทนและประนีประนอมกับศัตรูน้อยลง เหล่านี้คือพัฒนาการของตัวละครที่ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ เหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดอย่างวู้ดส์โบโร่ จนเราสามารถเอามาถอดเป็นบทเรียนชีวิตได้ดังนี้

 

จงระแวงภัยจากคนที่คุณไว้ใจ

ย้อนกลับไปในหนังภาคแรก ชนวนความวุ่นวายและเหตุการณ์ฆาตกรรมทั้งหมด ล้วนโยงใยกับการตายของมัวรีน เพรสก็อต แม่ของซิดนีย์ ทำให้ตัวซิดนีย์เองเกิดความสงสัยในตัวของค็อตตอน (ลีฟ ชไรเบอร์) ชู้รักของแม่เธอ ว่าเขาคือฆาตกรที่กำลังลอยนวลอยู่ แต่เรื่องราวทั้งหมดได้ขมวดปมที่ว่า ฆาตกรตัวจริงนั้นคือแฟนหนุ่มของซิดนีย์อย่างบิลลี่ ลูมิส (สกีต อูลริช) ผู้สมรู้ร่วมคิดกับสตู (แมทธิว ลิลลาร์ด) จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญในครั้งนั้นทำให้ซิดนีย์เองปิดกั้นความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ

ทว่าวลี “จงอย่าเชื่อใครก็ตาม” อาจจะเกิดขึ้นได้จริงในโลกยูโทเปีย แต่ไม่ใช่สำหรับโลกใบนี้ ดังนั้นเมื่อกาลเวลาผ่านเลยมา ซิดนีย์จึงเริ่มเปิดรับผู้คนกลับเช้ามาในชีวิต แน่นอนตัวละครสองตัวอย่างดิวอี้ (เดวิด อาร์เคว็ทท์) และเกล (คอร์ทนีย์ ค็อกซ์) คือสองคนในชีวิตของซิดนีย์ที่เราอาจจะกล่าวได้ว่าพวกเขาคือเพื่อนแท้ของเธอ

 

เมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิต เราก็ต้องปล่อยอดีตทิ้งไป เพื่อก้าวต่อ

ตัวละครหญิงที่โลกจดจำในฐานะหญิงแกร่ง ถ้าหากเราจะกล่าวก็คงหนีไม่พ้น ลอรี่ สโตรค (เจมี่ ลีเคอร์ติส) แห่ง Halloween ริปลีย์ (ซิกอร์นีย์ วีเวอร์) จาก Alien และซาร่าห์ คอนเนอร์ (ลินดา ฮามิลตัน) จาก Terminator ตัวละครเหล่านี้ล้วนค้นพบตัวเองมากขึ้นหลังจากที่พวกเธอต้องผ่านเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดผ่านความตาย เช่นเดียวกันกับซิดนีย์ที่หลายครั้ง เธอล้วนแล้วแต่ต้องเจอกับเรื่องราวหนักๆมาเสมอ แต่ในหนังภาคล่าสุดคนดูจะได้พบว่าซิดนีย์ได้กลายเป็นคุณแม่ โดยเธอได้แต่งงานกับมาร์ค คินเคด (แพทริก เดมซีย์) ตำรวจหนุ่มสุดหล่อจากหนังภาค 3 แต่ชีวิตอันแสนสุขนอกเมืองวู้ดส์โบโร่ ก็ต้องสะดุดอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่เธอต้องสะสางให้จบมาพร้อมกับประโยคที่ว่า “ฉันจะไม่มีวันหลับสนิท ถ้าฆาตกรยังไม่ไปนอนเป็นศพอยู่ในหลุม”

 

อย่ายอมจำนนกับการถูกบูลลี่

ตลอดเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของซิดนีย์ เธอถูกบูลลี่ (ในยุคที่หนังสร้างขึ้นคำนี้ยังไม่ถูกใช้ด้วยซ้ำไป) ว่าเป็นลูกสาวของผู้หญิงร่าน สำส่อนไปทั่ว นังลูกกะหรี่ ท่ามกลางเสียงก่นด่าที่เข้าหูเธอมาตลอดชีวิต ซิดนีย์ไม่เคยท้อและใช้สิ่งเหล่านี้มาพยายามทำชีวิตของตัวเองให้หลุดพ้นจากวังวนเดิมๆเสมอ

 

ไหวพริบคือทางรอด!

สิ่งนี้คือปัจจัยสำคัญที่ตัวละครผู้หญิงคนสุดท้ายในหนังสยองขวัญทุกคนพึงมี เราจะได้เห็นซิดนีย์ เคยต่อสู้กับบิลลี่ ลูมิสด้วยการคว้าร่มมาต่อสู้กันแล้ว หรือกระทั่งการตัดสินใจใช้เครื่องปั้มหัวใจเป็นไม้ตายพิฆาตในหนังภาคที่ 4 แต่ที่เด็ดดวงที่สุดคือฉากที่ซิดนีย์ปะทะกับฆาตกรในภาคที่ 2 อย่างมิกกี้ (ทิโมธี โอลิแฟนท์) ด้วยการเอาจี้รูปกุญแจปาดหน้าและถีบเขาอย่างเต็มแรง!

 

จงมั่นใจว่าฆาตกรตายจริง!

การเผชิญหน้ากับฆาตกร ไม่เคยง่าย ในหนังภาคแรกซิดนีย์พบว่าแฟนหนุ่มของตัวเองมีคนสมรู้ร่วมคิด และแม้ว่าเธอจะจัดการเขาแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า บิลลี่จะตายสนิทจนกระทั่งซิดนีย์ยิงกระสุนเข้าไปในศีรษะของเขา เช่นกันในหนังภาคที่สอง ซิดนีย์ตัดสินใจยิงหัวของคุณนายลูมิส (ลัวรี่ แมทคาฟ) ไปสองนัดพร้อมกับกล่าวว่า “ยิงเผื่อไว้” ส่วนในหนังภาคสาม ซิดนีย์ได้บอกกับดิวอี้ว่าให้ยิงโรมัน (สก็อต โฟเลย์) เข้าที่หัว หลังจากดูเหมือนเขาจะไม่ตายสักทีเพราะยิงเข้าไปที่อก (เนื่องจากเขาใส่เสื้อกันกระสุน) รวมไปถึงภาคที่ 4 ที่ซิดนีย์ลั่นกระสุนปิดท้ายใส่หัวของจิล (เอ็มม่า โรเบิร์ต) ว่าเธอตายจริงๆซะที

 

อย่ายอมแพ้

ซิดนีย์ เพรสก็อต ถือเป็นตัวละครสำคัญในประวัติศาสตร์หนังไล่เชือด และตัวละคร “ผู้หญิงคนสุดท้าย” นั้นเป็นตัวละครที่พร้อมจะมอบความหวังและทำให้ผู้ชมลุ้นตัวโก่งอยู่เสมอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาซิดนีย์ได้ทำให้คนดูรู้ว่าต่อให้เธอจะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวหนักหนาสาหัสแค่ไหน เธอก็ไม่เคยท้อถอย แม้ว่าหนังจะมีโมเมนต์ที่เธอกำลังหวาดกลัวหรือสงสัยในตัวเอง แต่นั่นยิ่งกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ตัวละครนี้ดูเป็นคน “จริงๆ” แบบที่ผู้ชมสัมผัสได้เสมอมา

ซิดนีย์คือหนึ่งในตัวละครสำคัญในแฟรนไชส์ Scream ที่เราก็ยังนึกภาพตามไม่ออกเช่นกันว่าถ้าแฟรนไชส์ชุดนี้ถ้าไม่มีเธอแล้วจะเป็นยังไง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook