Moonfall จันทร์หล่นฟ้า ถล่มโลก

Moonfall จันทร์หล่นฟ้า ถล่มโลก

Moonfall จันทร์หล่นฟ้า ถล่มโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ดวงจันทร์หล่น

หลังจากภารกิจบนยานอวกาศนอกโลกเกิดผิดพลาดและทำให้ลูกเรือหนึ่งคนสูญหายไป เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ไบรอัน ฮาร์เปอร์ (แพทริก วิลสัน) และโจ ฟาวเลอร์ (ฮัลลี เบอร์รี) มองหน้ากันไม่ติด เพราะต่างฝ่ายคิดว่าเป็นความเลินเล่อ ทั้งที่โจ ฟาวเลอร์รู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับความผิดปกติของดวงจันทร์ จนกระทั่งวันเวลาผ่านเลยไปกว่า 10 ปี เมื่อเค.ซี. เฮาส์แมน (จอห์น แบรดลีย์) นักทฤษฎีสมคบคิด สติเฟื่องได้ค้นพบว่า วิถีวงโคจรของดวงจันทร์ เกิดการเปลี่ยนแปลงและกำลังจะพุ่งชนโลกในเวลาอีกไม่นาน ดวงจันทร์ที่เคยลอยอยู่บนฟ้ากำลังจะบดขยี้โลกของเราให้กลายเป็นธุลี!

 

ความลับของดวงจันทร์

ใครจะไปคาดคิดว่าดวงจันทร์ที่เราเงยหน้ามองอยู่ทุกวันนั้น จริงๆแล้วมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราเคยเรียนรู้มาจากตำราเรียนเลยก็เป็นได้ หนังเรื่อง Moonfall ล้มล้างทุกทฤษฎีที่ผู้ชมเคยรับรู้และเข้าใจมา ซึ่งตัวผู้กำกับอย่างโรแลนด์ เอ็มเมอริช ได้ค้นคว้าและอ่านงานเขียนที่ว่า “จริงๆแล้วดวงจันทร์อาจไม่ได้เป็นดาวเคราะห์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ” ดังนั้นนี่จึงเป็นไอเดียวัตถุดิบสำหรับการเอามาทำเป็นหนัง และการต่อยอดแนวคิดที่ว่าถ้าเกิดว่าดวงจันทร์เกิดตกลงมาใส่โลก แน่นอนว่าเหล่ามวลมนุษย์จะต้องพยายามหยุดปรากฏการณ์นี้ นอกจากนี้การสร้างกลุ่มตัวละครผู้กล้าที่จะต้องเดินทางไปยังดวงจันทร์เพื่อปกป้องโลกบนอวกาศ ในขณะที่เหล่าสมาชิกของครอบครัวก็ต้องเอาตัวรอดจากภัยพิบัติอันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดวงจันทร์โคจรมาจะชนโลกไปพร้อมๆกัน

ทฤษฎีที่ว่าด้วยภายในดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ที่ถูกสร้างขึ้นและจริงๆแล้วแกนข้างในนั้นเป็นโครงสร้างขนาดยักษ์มีความน่าสนใจ ประกอบกับก่อนหน้านี้หลายๆคนพยายามขุดค้นไปถึงความจริงที่ว่า การเดินทางไปยังดวงจันทร์ของยานอพอลโล 11 นั้น เป็นเรื่องแหกตาและสร้างภาพต่างๆผ่านทางสตูดิโอ ยังไม่รวมไปถึงจริงๆแล้วช่วงเวลาที่สัญญาณวิทยุขาดหายไปกว่า 2 นาทีนั้น จริงๆแล้วอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า เหล่านักบินอวกาศได้ค้นพบความจริงบางอย่างที่น่าตกใจเกี่ยวกับดวงจันทร์ก็เป็นได้

ความลึกลับ ปริศนาที่ยังไม่ได้รับการไขกระจ่างจึงเอื้อให้ทีมงานของ Moonfall เล่นสนุกกับการล้มล้างทฤษฎีทั้งหมดที่เราเคยรู้มาและสร้างตรรกะใหม่เกี่ยวกับดวงจันทร์ขึ้นในแบบที่คนดูก็คาดไม่ถึงอีกเช่นกัน

 

การถล่มโลกครั้งใหม่

ในฐานะที่โรแลนด์ เอมเมอริชนั้นจัดได้ว่าเป็นผู้กำกับหนังสายวันโลกาวินาศ ทำลายล้างโลกมาแล้วไม่รู้กี่เรื่องอาทิ Independence Day, 2012 และ The Day After Tomorrow ซึ่งมาครั้งนี้ Moonfall เปรียบเสมือนงานยำรวมมิตรหายนะที่โลกจะต้องย่อยยับเพราะดวงจันทร์เปลี่ยนวิถี

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสมมติ และล้มล้างความจริงทางประวัติศาสตร์ไป แต่เพื่อให้หนังยังสามารถยืนพื้นอยู่บนหลักของเหตุและผล (มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้) ทีมงานจึงต้องขอคำปรึกษาจากนักวิทยาศาสตร์ว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ดวงจันทร์เกิดหลุดวงโคจรแล้วสิ่งที่จะเกิดตามมาคือ ดวงจันทร์จะโคจรเป็นลักษณะวงรีและแคบลงเรื่อยๆจนท้ายที่สุดจะเกิดการปะทะเข้ากับโลก แต่อย่างที่บอก เมื่อดวงจันทร์ในหนังเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จินตนาการของผู้สร้างจึงชนะความจริงทางวิทยาศาสตร์ไป

เมื่อเหตุการณ์ในเรื่องดวงจันทร์จะพุ่งชนโลกในเวลาสามสัปดาห์เท่านั้น ทีมงานจึงต้องจำลองอวกาศที่ดวงจันทร์กำลังจะหล่นใส่โลกมนุษย์ภายใต้กรอบเวลานั้น ปีเตอร์ จี. เทรเวอร์ส ที่ปรึกษาด้านเทคนิคพิเศษด้านภาพผู้มีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมศาสตร์ จึงค่อยๆเพิ่มมวลของดวงจันทร์แล้วรันระบบว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลาต่อมา

หลังจากได้ภาพจินตนาการภาพแรงโน้มถ่วงแล้ว ช่วงเวลาสำคัญที่ดวงจันทร์โคจรใกล้โลกมาก ถึงขั้นเกิดสนามแรงดึงดูดเข้มข้นจนเกิดปรากฏการณ์ที่สามารถดึงดูดผู้คนให้ลอยขึ้นไปบนฟ้าได้เลยทีเดียว แต่วิถีการลอยที่โดนดูดนั้นจะไม่ได้ลอยขึ้นตรงๆ แต่จะถูกกระชากไปทางด้านข้างอย่างรุนแรง

ฉากตื่นเต้นใน Moonfall

แน่นอนว่าขึ้นชื่อโรแลนด์ เอมเมอริชแล้วฉากวันโลกแตกของเขาจะต้องมีความตูมตาม โครมครามเป็นพิเศษ สิ่งที่จะปรากฏแก่สายตาผู้ชม คือฉากภารกิจในอวกาศที่ลูกเรือถูกคุกคามจากบางสิ่งบางอย่างที่ผุดขึ้นมาจากดวงจันทร์ ฉากดวงจันทร์เปลี่ยนวิถีโคจรจนส่งผลทำให้ระดับน้ำขึ้นน้ำลงมีการเปลี่ยนแปลงและนำมาสู่สภาพอาการแปรปรวน การก่อตัวของคลื่นยักษ์ ฉากที่ดวงจันทร์เข้าใกล้โลกและทำให้แรงโน้มถ่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงจนน้ำในท้องทะเลเกิดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า กระทั่งเมื่อดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากยิ่งขึ้นจนทำให้ระดับของก๊าซออกซิเจนลดต่ำลง ฉากการขับรถไล่ล่ากันบนถนนน้ำแข็งที่ดวงจันทร์กำลังเข้าใกล้โลกขั้นสุด ยังไม่รวมถึงฉากนอกอวกาศเหนือจินตนาการที่เรายังไม่สามารถบอกผู้ที่ยังไม่ได้ชมได้จนกว่าจะไปพิสูจน์กันเองในโรงภายนตร์วันนี้

Moonfall เรียกได้ว่าเป็นหนังภัยพิบัติฟอร์มยักษ์เรื่องแรกที่เปิดปี 2022 ที่ควรชมในโรงภาพยนตร์บนจอใหญ่ยักษ์เท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook