รีวิว Death on The Nile สมบัติมีไว้ผลัดกันชม ความรักก็เช่นกัน
หลังจากที่ Murder on the Orient Express ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในปี 2017 แน่นอนว่าโครงการสร้างภาคต่อเพื่อชุบชีวิตนิยายของ อกาธา คริสตี้ โดยมีตัวละครเอกอย่าง แอร์กูล ปัวโรต์ นักสืบที่มีหนวดเป็นเอกลักษณ์ โดยครั้งนี้เขาจะกลับมาไขคดีฆาตกรรมบนเรือสำราญที่กำลังล่องอยู่ในแม่น้ำไนล์
Death on The Nile เป็นผลงานการกำกับของเคนเน็ธ บรานาห์ ซึ่งเขายังควบตำแหน่งในการเป็นนักแสดงนำของเรื่องอย่างแอร์กูล ปัวโรต์ อีกต่างหาก โดย “แม่น้ำสีเลือด” ถือเป็นหนึ่งในงานเขียนของอกาธา คริสตี้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเคยได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปี 1978 มีดาราเบอร์ต้นๆของวงการมาปรากฏตัวอาทิ มีอา ฟาโรว์ เบ็ตตี้ เดวิส แม็กกี้ สมิธ และจอร์จ เคนเนดี้ เป็นต้น
โดยเวอร์ชั่นในปี 2022 นี้ก็ไม่น้อยหน้าเวอร์ชั่นก่อน ที่ระดมดาราตัวท็อปของยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นกัล กาด็อท อาร์มี่ แฮมเมอร์ เอมมา แม็คคีย์ และอีกหลายคน โดยบรรดานักแสดงมากหน้าหลายตา (และหลายสัญชาติ) ที่ปรากฏตัวอยู่ในหนังเรื่องนี้ล้วนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมอำพรางที่เกิดขึ้นบนเรือสำราญ
แม้ว่าเรื่องราวใน Death on The Nile อาจจะดำเนินเรื่องอย่างเชื่องช้า แต่ในช่วง 1 ชั่วโมงแรกของหนัง ก็เลือกที่จะให้เวลากับตัวละครอันหลากหลาย โดยเฉพาะการทำให้คนดูสนุกไปกับการทำความเข้าใจตัวละครเหล่านี้ ว่าใครกันที่น่าจะพอมีแรงจูงใจที่จะเป็นฆาตกร
เอาเข้าจริงความสวยและความรวยของตัวละครเอกอย่างลินเน็ต ริดจ์เวย์ ดอยล์ (กัล กาด็อท) ที่เปิดตัวมาอย่างหรูเริ่ด จนขโมยหัวใจของไซมอน ดอยล์ (อาร์มี่ แฮมเมอร์) ในแว่บแรกที่ได้เห็น ทั้งที่ไซมอนกำลังคบหาและมีสัมพันธ์สวาทอันแสนเร่าร้อนกับแจ็คเกอลีน เดอ เบลเลฟอร์ต (เอมมา แม็คคีย์) อยู่แล้ว สองเพื่อนสาวคนสนิทก็ถึงคราวต้องแตกคอกันเพราะผู้ชายคนเดียว เพื่อนรักเลยหักหลังแย่งแฟนเพื่อนตัวเอง นำมาเป็นปมหลักที่ทำให้แจ็คเกอลีน ตามปรากฏตัวเป็นก้างขวางคอในทุกงานที่สองข้าวใหม่ปลามันจัดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
จะว่าไปแล้วในฐานะที่ลินเน็ต เป็นคนรวยในระดับที่เธอเคลมว่า สามารถเปิดไวน์แล้วเทลงให้เต็มแม่น้ำไนล์ก็ยังทำได้ ซึ่งมันเป็นประโยคที่อธิบายทรัพย์สินมหาศาลของตระกูลได้เป็นอย่างดี เมื่อคนเรารู้หน้าแต่ไม่รู้ใจลินเน็ตจึงไม่รู้เลยว่าคนรอบตัวเธอเองนั้น มาอยู่ใกล้ตัวเธอไม่ใช่เพราะรักหรือสนิท แต่เป็นเพราะพวกเขาต้องการผลประโยชน์บางอย่างต่างหาก
ประเด็นสำคัญใน Death on The Nile จึงเกาะเกี่ยวอยู่กับเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์ ความรัก ผลประโยชน์ ที่ทำให้คนดูเห็นว่าสุดท้ายต่อให้เราจะรวยล้นฟ้าแค่ไหน ถ้าเราไม่ได้ “เป็นที่รัก” ของคนรอบตัว สุดท้ายแล้วเมื่อตายจากโลกนี้ไป ก็ไม่มีอะไรติดตัวไปได้ มิหนำซ้ำยังไม่เหลือเรื่องราวใดๆให้คนที่ยังอยู่ระลึกถึงอีกต่างหาก
