Twenty Five, Twenty One ซีรีส์ของคนเคยมีฝันที่ได้เรียนรู้ชีวิตทั้งด้านโศกเศร้าและงดงาม

 

Twenty Five, Twenty One ซีรีส์เรื่องใหม่จาก tvN และ Netflix บอกเล่าเรื่องราวของคนคู่หนึ่งที่พบกันครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 22 และ 18 ปี กระทั่งพวกเขาอายุ 25 และ 21 ปี ได้เริ่มตกหลุมรักและดึงดูดเข้าหากัน นอกจากนี้ ซีรีส์จะยังชวนให้ย้อนนึงถึงความทรงจำอันบริสุทธิ์และเปี่ยมไปด้วยไฟฝันของกลุ่มวัยรุ่น 5 คนที่พบเจอกับความอ่อนไหวและความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันออกไป

• Twenty Five, Twenty One ซีรีส์ที่จะทำให้ย้อนรำลึกถึงความฝันเมื่อครั้งวัยรุ่น!

ด้วยฝีมือการเขียนบทของ ควอนโดอึน (Search: WWW) กับผู้กำกับ จองจีฮยอน (Search: WWW, The King: Eternal Monarch และ You Are My Spring) รวมถึงนักแสดงชั้นนำอย่าง คิมแทรี, นัมจูฮยอก, คิมจียอน (โบนา), ชเวฮยอนอุค และอีจูมยอง ทำให้ Twenty Five, Twenty One เป็นที่คาดหวังจากคนดูทั้งในเกาหลีและทั่วโลกตั้งแต่ข่าวเริ่มปล่อยกันเลยทีเดียว

ผู้กำกับ จองจีฮยอน กล่าวในงานแถลงข่าวออนไลน์อย่างเป็นทางการของซีรีส์ Twenty Five, Twenty One ว่า “เล่าถึงคนหนุ่มสาวในวัยที่กำลังเติบโต ซึ่งต้องเผชิญกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในยุคนั้น มีทั้งเรื่องส่วนตัวที่ตัวละครแต่ละคนต้องเผชิญ และภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดเฉพาะยุคสมัย การเชื่อมโยงเหตุการณ์เฉพาะยุคสมัยเข้ากับการเติบโตของวัยรุ่นน่าจะทำให้เนื้อเรื่องมีน้ำหนักมากขึ้น และเป็นจุดที่ทำให้ซีรีส์ของเราแตกต่างจากเรื่องอื่น”

คิมแทรี กล่าวถึงการรับบทเป็น นาฮีโด ว่า “นาฮีโดเป็นตัวละครที่สดใส มีพลังเหลือล้น เป็นตัวละครที่สดใหม่ซึ่งฉันไม่เคยเล่นมาก่อนเลย ยิ่งทำให้ฉันหลงใหลค่ะ”

“เสน่ห์ของฮีโดมีเยอะมาก ที่โดดเด่นคือความแน่วแน่ค่ะ เธอแน่วแน่ต่อสิ่งที่ตัวเองชอบ และเธอก็มั่นใจในความสามารถของตัวเอง เวลามีความสุขก็สุขล้น เวลาเศร้าก็จมอยู่แต่กับความโศกเศร้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็จริงใจและเต็มที่ ฉันคิดว่าจุดนั้นน่าจะใกล้เคียงกับตัวจริงของฉันค่ะ”

สำหรับ นัมจูฮยอก ผู้รับบท แพคอีจิน สำหรับบทแพคอีจินที่ต้องเผชิญความยากลำบากเพื่อช่วยครอบครัวที่ประสบวิกฤต IMF ในปี 1998 เขาเตรียมตัวกับบทนี้ด้วยการศึกษาบทละครอย่างละเอียดถี่ถ้วนให้ได้มากที่สุด “ถึงผมไม่เคยเผชิญกับวิกฤตนั้นด้วยตัวของผมเอง แต่ผมพยายามลองจินตนาการว่ามันน่าจะเป็นประมาณนี้นะ นอกเหนือจากนั้นก็มีหาข้อมูลและคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสมัยนั้น หลังจากเตรียมตัวทำการบ้านแล้ว ที่กองถ่ายผมก็แสดงไปตามสไตล์ของผมครับ (หัวเราะ) ซึ่งผู้กำกับเองก็พึงพอใจมากครับ”

ในเรื่องทั้ง คิมแทรี ต้องเล่นกีฬาฟันดาบ ส่วน นัมจูฮยอก ต้องทำอาชีพเป็นนักข่าว ทั้งคู่ต่างทำการบ้านในสาขาอาชีพของแต่ละคนเป็นอย่างดี โดยคิมแทรีต้องฝึกฟันดาบ 5-6 เดือนล่วงหน้ากับนักกีฬาระดับเหรียญทองก่อนถ่ายทำซีรีส์จริง “ฉันเองก็เหมือนนาฮีโดที่เต็มที่กับทุกอย่าง ฉันทั้งร้องไห้และหัวเราะตลอดเวลา 5 เดือนที่เรียนฟันดาบค่ะ ฉันฝึกกับโค้ชคนเดียวกับโบนา เราเลยมีโอกาสได้แข่งกันด้วย แต่ฉันแพ้ตลอดเลยค่ะ ฉันเจ็บใจมากและคิดหาทางจะเอาชนะให้ได้ ระหว่างฝึกซ้อมฉันเขียนบันทึกลงสมุดทุกวันเหมือนฮีโด และบันทึกเล่มนั้นก็ถูกนำไปใช้เป็นไดอารี่ของนาฮีโดในซีรีส์ด้วยค่ะ”

ส่วน นัมจูฮยอก ก็ได้รับข้อมูลในการเป็นนักข่าวจากนักข่าวตัวจริงเช่นกัน “ผมไปพบกับผู้สื่อข่าวกีฬาตัวจริง ศึกษาแนวทางการทำงานของพวกเขาและสังเกตว่าตอนรายงานข่าวกีฬา ว่าควรให้ความสำคัญจุดไหนเป็นพิเศษบ้าง”

นอกจาก คิมแทรี และนัมจูฮยอก แล้ว ยังมีนักแสดงมากฝีมืออีก 3 คน โบนา (คิมจียอน) รับบทเป็น โกยูริม นักกีฬาเหรียญทองจากกีฬาฟันดาบ ชเวฮยอนอุค รับบทเป็น มุนจีอุง เด็กหนุ่มที่ฝันอยากจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในช่วงปี 1998 และ อีจูมยอง รับบทเป็น จีซึงวาน ดีเจวิทยุ ที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองมากกว่าใครทั้งหมด ตัวละครทั้ง 5 สร้างสีสันให้กับซีรีส์ เล่าถึงชีวิตของแต่ละคนที่มีปัญหาแตกต่างกันไป จนสุดท้ายก้ได้ค้นพบหนทางที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองมีความสุข

ทุกคนต่างมีวัยฝันที่ แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่จะทำตามฝันของตัวเองได้ 100% แต่อย่างน้อยการได้เข้าใกล้ การไม่ลืมสิ่งที่ตัวเองเคยฝัน รวมถึงการมองหาความฝันใหม่ๆ เป้าหมายใหม่ๆ ให้กับชีวิต อาจเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละคน

ร่วมพิสูจน์ความอบอุ่นเคล้าน้ำตาและความสุขไปด้วยกันผ่านตัวละคร 5 คนได้ใน Twenty Five, Twenty One ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ Netflix