อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์ เมคอัพ 3 ชม. เปลี่ยนหน้าหล่อเป็นอสูร
อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์ เมคอัพ 3 ชั่วโมง เปลี่ยนโฉมให้ไม่หล่อ เพื่อพิชิตใจ วาเนสซ่า ฮัดเจนส์ ใน Beastly : บีสลี่ย์ เทพบุตรอสูร
ลุคปกติของดาวรุ่งสุดฮอตดวงใหม่ของฮอลลีวู้ด อย่าง "อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์" คือ หล่อ ใจละลาย แต่เมื่อต้องมารับบท หนุ่มหล่อเพอร์เฟค ที่ถูกสาปให้กลายเป็นคนอัปลักษณ์ ในภาพยนตร์ Beastly : บีสลี่ย์ เทพบุตรอสูร หนุ่มหล่อโดยธรรมชาติ อย่าง อเล็กซ์ เลยต้องลงทุนใช้เวลาแปลงโฉม เมคอัพนานถึง 3 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ลุคไม่หล่อ สมใจผู้กำกับ โดย ผู้กำกับ แดเนียล บาร์นส ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแปลงโฉมครั้งนี้ว่า "ภาพยนตร์ Beastly : บีสลี่ย์ เทพบุตรอสูร ไม่ได้อ้างอิงรูปลักษณ์ของอสูรจากเวอร์ชั่นก่อนๆของ Beauty and the Beast บาร์นส อธิบายว่า "ทุกเวอร์ชั่นตัวละครอสูรจะมีความคล้ายคลึงกับสัตว์จริงๆ พวกเราไม่ต้องการเดินตามรอยนั้น สำหรับผมแล้วพื้นฐานของ Beastly ก็คือการทำให้คนที่หน้าตาดีกลายเป็นคนอัปลักษณ์ นั้นคือแนวทางที่ผมต้องการสร้างตัวตนของ ไคล์ พระเอกของเรื่อง ที่ อเล็กซ์เข้ามารับบทนี้ และอสูรของพวกเราก็มีส่วนผสมจากฝันร้ายของ ไคล์ และรูปลักษณ์ที่ เคนดร้า สาวที่มีพลังพิเศษในเรื่อง คิดว่าเหมาะสมสำหรับการลงโทษ โดยมีพื้นฐานมาจากสิ่งที่เขาพูดกับเธอ หรือว่าสิ่งที่เขาพูดกับคนอื่นในตอนแรก"
ซึ่งการแปลงโฉมจากหนุ่มหล่อ ให้กลายเป็นอสูรหรือชายอัปลักษณ์ได้เวอร์ชั่นนี้ ได้ ทีมเมคอัพและผู้ออกแบบตัวละคร โทนี่ การ์ดเนอร์ ที่สร้างชื่อจากการสร้างเหล่าซอมบี้ในเอ็มวีสุดคลาสสิค Thriller ของ ไมเคิล แจ็คสัน รวมถึงหนังเรื่อง Aliens ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน มาสร้างสรรผลงานให้ โดยอสูรจะต้องมีพื้นฐานมาจากสิ่งที่ ไคล์ รังเกียจ การ์ดเนอร์ อธิบายว่า "มันต้องเป็นสิ่งที่ ไคล์ ใช้เพื่อดูถูกคนอื่น เขาดูถูกคนอื่น เพราะหน้าตา การแต่งตัว และฐานะทางสังคม คำด่าถูกเปลี่ยนเป็นคำสาปที่ย้อนกลับมาหาเขา เขากลายเป็นคนไม่มีผม ผิวซีดเซียว ฟันเหลือง ตามตัวมีรอยแผล รอยสักและการเจาะ ทุกอย่างมาจากคำพูดของเขาในตอนแรก"
นางเอกของเรื่อง วาเนสซา ฮัดเจนส์ ยังเผยว่า ผลลัพท์ที่เธอเห็นเป็นอะไรที่น่าทึ่งที่สุด "การแต่งหน้าอสูรเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ครั้งแรกที่ฉันได้เห็น ฉันก็รู้สึกช็อคไปเลย มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่ได้เห็น อเล็กซ์ ก่อนและหลังแปลงโฉม เขาสามารถทำตัวให้กลายเป็นอีกคนหนึ่งได้เลย และการเป็นอสูรก็ทำให้เขาเข้าใจถึงอีกตัวตนหนึ่งได้ทันที" และ อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์ เห็นด้วยกับ ฮัดเจนส์ ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นอสูรนั้น ทำให้เขาเข้าใจการแสดงเป็นอีกคนหนึ่งได้ง่ายขึ้น "การแต่งหน้าทำให้ผมก้าวเข้าไปในตัวตนของอสูร และสามารถมองโลกผ่านสายตาคู่นั้นได้ดียิ่งขึ้น"
และการแปลงโฉมอันน่าทึ่งต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน เพราะมันเป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก เริ่มแรก อเล็กซ์ ต้องโกนหัวและคิ้วทิ้งทั้งหมด จากนั้นก็ติดซิลิโคนชิ้นใหญ่จำนวน 4 ชิ้นตรงหัวและคอ ซึ่งจะทำให้โครงหน้าและหัวของเขาเปลี่ยนไปจากเดิม ส่วนหัวและคอก็จะมีรอยสักอยู่ 13 ชิ้น จากนั้นก็เพิ่มซิลิโคนตรงหูข้างหนึ่งเพื่อให้ดูไม่เท่ากัน ก่อนที่เริ่มตกแต่งรอยสักตามร่างกายอีกกว่า 60 ชิ้น ซึ่งรอยสักแต่ละชิ้นก็มีความพิเศษและสื่อความหมายในตัวของมันเอง โดย ตัวไคลน์ มีเวลา 1 ปีในการคืนสภาพกลับมาเป็นหนุ่มหล่อดังเดิม ด้วยการ หาคนมาบอกรักเขา มอบรักแท้ให้เขา ในสภาพร่างอสูร ทั้งนี้ รอยสักเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คอยบอกถึงเวลาที่ผ่านไป และ เหลือน้อยลง รอยสักบางรอยจะเป็นเหมือนต้นไม้ ค่อยๆ ผลิดอก และดอกไม้ค่อยๆ เบ่งบาน จนร่วงโรยไป และนั่นคือ การหมดเวลาที่จะแก้คำสาป นอกจากนั้น ผู้กำกับยังมีมุขตลกสอดแทรกในรอยสัก ที่จะต้องไปติดตามกันในโรงภาพยนตร์
Beastly : บีสลี่ย์ เทพบุตรอสูร เรื่องราวของ ไคล์ คิงสัน หนุ่มหล่อเพอร์เฟค ที่จิตใจข้างในไม่ได้ดีตามหน้าตา จึงถูกสาป ให้กลายเป็นชายอัปลักษณ์ และจะหาทางแก้คำสาปได้ด้วย ตามหารักแท้ที่ร่างอสูร ซึ่งภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้ได้ดัดแปลงมาจาก หนังสือ อเล็กซ์ ฟินน์ ที่หยิบเอาเทพนิยาย "โฉมงามกับเจ้าชายอสูร" มาตีความโดยมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมหานครนิวยอร์ค โดยหนังสือได้รับรางวัลวรรณกรรมเยาวชนยอดเยี่ยมจากหลายสำนัก และได้นักแสดงนำที่ฮอตที่สุดตอนนี้มานำแสดง ได้แก่ อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์ (I am number 4, Stormbreaker) และ วาเนสซา ฮัดเจนส์ (High School Musical I-III, Bandslam)
17 มีนาคม นี้ จุมพิตเดียวเท่านั้นจะสะกดคนทั้งโลก
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ