"ปันปัน นาคประเสริฐ" Drag Queen ตัวแม่ของไทย สู่การประกวด Drag Race ระดับโลก
ปันปัน แพนไจน่า ฮีลส์ (Pangina Heals) หรือ ปันปัน นาคประเสริฐ Drag Queen ตัวแม่ของไทย ที่สร้างความฮือฮากับการประกวด Drag Race ระดับโลก ในรายการ RuPaul’s Drag Race UK VS The World ที่อังกฤษ เป็นตัวแทนจากประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมรายการเป็นครั้งแรก บอกเลยว่าความสามารถเต็มเปี่ยมแซ่บสุดพลังสะกดคนดูได้ทุกวินาที ชาว LGBTQ คนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงไกลระดับโลกก้าวไปอีกสเต็ปของชีวิต แต่ใครจะรู้ว่าในเบื้องหลังความมั่นใจนั้นเธอเคยถูกหักหลัง และ โดนตัดสินจากคนที่ไม่ได้รู้จักตัวตน ตอบแรงชัดจัดเต็มมากงานนี้ในรายการ WOODY HELP ME PLEASE
ในการเป็น Drag กับ สถาบันครอบครัว แชร์ให้ฟังหน่อยจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปันปัน : คนชอบสับสนเพราะเวลาเป็นผู้ชายก็จะมีกล้าม เราแต่งตัวค่อนข้างแมนแต่เวลาแต่งหญิงก็ใส่ชุดราตรีใส่วิกโน้นนี่ คนส่วนมากก็จะไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ไปแต่งหญิงหรือไปทำนมสักที แต่สำหรับเรามันคือศิลปะ รู้สึกว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในใต้ผิวหนังของเขา ไม่ว่าสิ่งที่เขาทำจะเป็นศิลปะหรือชีวิตจริงทุกคนมีสิทธิ์เลือกแต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาคนอื่นไปใส่ไว้ในกล่องที่ตัวเองคิด สำหรับครอบครัวปัน คุณพ่อแปลกมากเลยกลับยอมรับได้กับการที่แต่งหญิงตั้งแต่แรก ท่านจะขับรถพาปันแต่งชุดราตรีไปทำงาน แต่คุณแม่ 2 ปีแรกที่ปันเป็นแบบนี้คุณแม่จะไม่รู้ ไม่มีวันรู้ จะเดินออกทุกครั้งเลยเขารับไม่ได้ ที่คุณแม่ยอมรับได้ในที่สุดเพราะว่าเพื่อนคุณแม่ทุกคนบอกว่าลูกเธอดังแล้วนะ ลูกเธอประสบความสำเร็จแล้วนะ ซึ่งมันตลกมากในโมเม้นต์บางโมเม้นต์การที่พ่อแม่ยอมรับเราได้ คือทุกคนรอบข้างเราเขายอมรับเราได้แล้ว
เข้าใจคุณแม่ด้วยใช่ไหมที่วันนั้นท่านยังอาจจะไม่ได้ยอมรับ 100 เปอร์เซ็นต์ ?
ปันปัน : เข้าใจแล้วเราก็ไม่ได้เบลมด้วย แต่ปัญหาของเราคือเป็นคนที่ถ้าเกิดทำอะไรบางอย่างแล้วเรามีความสุขไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่ได้ผิด ถึงแม้ถ้าเกิดตอนแรกคุณแม่รับไม่ได้ รู้สึกว่าสักวันหนึ่งเขาต้องรับได้เพราะว่าหนูเก่ง สามารถทำเรื่องนี้ได้ ไม่ได้ขอเงินเขา เป็นคนดีในสังคมนั่นสำคัญมาก แต่ว่าคุณพ่อเคยพูดคำหนึ่งที่หนูว่ามันทรงพลังมาก ว่าหน้าที่ของพ่อแม่ทุกคนก็คือรักลูก เขามีอย่างเดียวที่เลือกได้ พอรู้ว่าลูกเป็นเพศที่ 3 หรือว่าแตกต่างแล้ว ก็คือเลือกที่จะยอมรับและมีความสุขกับเขา หรือเลือกที่จะทะเลาะกับเขาแล้วอาจเสียเขาไป
ทุกวันนี้ทำงานแล้วประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งก็อยากให้พ่อแม่ภูมิใจมีความคิดนี้อยู่ในตัวเราไหม ?
ปันปัน : แน่นอนค่ะ รู้สึกว่าวันไหนที่ส่งรูปไปในกรุ๊ปครอบครัวแล้วคุณแม่ส่งข้อความมาว่าสวยจัง น่ารักจัง มัน Powerful กว่าคำพูดของบางคนที่เราไม่รู้จักแน่นอนอยู่แล้ว เขาคือคนที่สำคัญกับเรา คือรากฐานในชีวิตเราค่ะ
ไม่รู้จักแล้วถูกพูดถึงที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ทราบมาว่าเป็นเรื่องที่หนักสุดในรอบ 4-5 ปี ?
ปันปัน : คือวันหนึ่งหนูอยู่ในวงการ Drag Queen และวงการนางโชว์ ปันนับถือรุ่นพี่ในวงการทั้งหมด แล้วอยู่ดีๆรุ่นพี่ที่เรานับถือและรุ่นพี่ที่รู้จักทั้งหมดในวงการ ด่า Drag Queen คนหนึ่ง ซึ่งปันก็ไม่รู้ว่าเขาด่าใครอยู่ ปันก็แปลกใจ แต่ความหมายคือถ้าเราไม่ผิดเราไม่ควรร้อนตัว จนวันหนึ่งหนูก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ เขาพูดถึงใครหรือเรารึเปล่า ก็เลยเสิร์ชไปหาเจ้าตัว เขาก็บอกว่าได้ยินมาว่าปันด่าว่านางโชว์เดี๋ยวก็แก่เดี๋ยวก็ตายไป ไม่ได้ดีเท่า Drag แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือคอมเมนต์ที่คนด่าปันเกือบพันเยอะมาก จนในที่สุดปันก็มาทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีคนเอาปันไปพูดในความที่มันไม่เป็นจริง รู้สึกเป็น Mental Breakdown เพราะว่าถ้าเราทำผิดเรายอมรับ เรารู้เรื่อง แต่สิ่งที่มีมันไม่แฟร์ถ้าเราไม่ได้ทำผิดแล้วคนเอาเราไปพูด เลยคิดว่าจะสรุปยังไงดีถึงจะได้รับความยุติธรรมก็เลยโทรหาทนายนิด้าค่ะ สวยๆ แล้วก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ค่ะ
ตอนที่เจอคอมเมนต์ต่างๆ ความรู้สึกเป็นอย่างไร ?
ปันปัน : สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้คือหน้าวูบ พอเรารู้สึกว่าโดนคนหักหลังแล้ว มันเป็นอะไรที่ทำให้เราตื่นมาก เพราะโมเม้นท์ที่อยู่ต่ำสุดจะรู้ว่าเพื่อนที่แท้จริงคือใคร นั่นมันเป็นบทเรียนที่สำคัญมาก เวลาเราถูกโจมตีหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เรารู้จริงๆ ว่าเพื่อนแท้เป็นยังไง
จัดการกับความรู้สึกนั้นยังไง ?
ปันปัน : สิ่งที่เกิดขึ้นคือวันนั้นต้องขึ้นแสดง แต่เราจำไม่ได้เลยว่ากำลังจะแสดงอะไร แล้วก็ร้องไห้อย่างเดียว พอได้ยินแต่ละอย่างที่เพื่อนพูดสิ่งที่ตัวเองรู้สึกข้างในว่ามันไม่ใช่ความเป็นจริง สิ่งที่สำคัญมากๆ คือเวลา เพื่อให้เวลาคีพตัวเอง แล้วก็อยู่กับคนที่เขาเชื่อในสิ่งที่เราเป็น ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะตอนนี้ทุกคนเชื่อในสิ่งที่มันไม่ใช่ความเป็นจริง
เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ ?
ปันปัน : เรื่องดีอย่างแรกก็คือค่าตอบแทนในเรื่องของทนายความตอนชนะคดีนี้แล้วก็น่าสวยงามอยู่นะคะ เรื่องที่สองก็คือได้ตัดคนที่ไม่สำคัญหรือคนที่ทำเป็นเพื่อนเราออกไปจากชีวิต เพราะเราไม่รู้หรอกว่าคนรอบๆ ข้างเราบางคนจริงๆ คือขยะ เพราะเราเลือกได้ 2 อย่างในชีวิตว่าเวลาคนให้บางอย่างเขาจะให้ของขวัญหรือให้หิน ตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครให้หินใครให้ของขวัญ และรู้ว่าครั้งหน้าเวลาเกิดอะไรขึ้นเราจะดีลกับมันยังไง เวลาสำคัญมากๆ เลยนะคะ สำหรับเราคือออกกำลังกาย ตั้งใจทำงาน ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ทำที่รัก และ รักที่ทำ อาชีพของปันปันในทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดูแลตัวเองยังไง ?
ปันปัน : ปันพยายามนอนให้ตรงเวลา เพราะว่าไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น นอนหลังเที่ยงคืนยังไงก็ไม่เฟรช ปันทำมาเยอะมาก ถามว่าไม่ได้ทำอะไรบ้างเลยดีกว่า
มองเรื่องนี้ยังไงในการดูแลหรือทำอะไรกับร่างกาย ?
ปันปัน : เป็นสิทธิ์ของทุกคนที่ถ้าเกิดอยากจำ คนอื่นก็ไม่ต้องมาพูดว่ามันผิดหรือถูก ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับร่างกายตัวเองยังไงก็ได้ค่ะ
เคยมีเหตุการณ์แขวนความสุขของตัวเองกับความคิดของคนอื่นไหม ?
ปันปัน : รู้สึกว่าการไปทำศัลยกรรมเป็นอะไรที่ผิด แต่พอครั้งแรกที่ปันได้ไปทำจมูกกลับมาบ้านรู้สึกมั่นใจตัวเองมากขึ้น คือปันไม่เคยบอกคนอื่นให้ไปทำนะ แต่สำหรับปันมันทำให้ปันมั่นใจมากขึ้น แล้วรู้สึกว่าทำไมเราต้องไปใช้ชีวิตกับสิ่งที่คนอื่นทำให้เรารู้สึกมากกว่าความสุขของเรา
สามารถติดตาม WOODY HELP MEPLEASE ได้ที่ช่องทาง Facebook: Woody , Youtube: Woody
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ