Volodymyr Zelensky จากดาราผู้แสดงเป็นประธานาธิบดี สู่การเป็นผู้นำตัวจริงของยูเครน

คนในวงการบันเทิงหลายคน เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะเบนเข็มไปทำอาชีพอื่น ๆ หนึ่งในนั้นคืออาชีพเพื่อสังคมอย่างนักการเมือง การเดินทางสายการเมืองนอกจากจะได้ช่วยสังคมแล้ว บางคนยังไปได้ไกลกว่าเดิมเพราะมีชื่อเสียงจากการเป็นดารามาช่วยไว้ แต่จะมีดาราซักกี่คน ที่ออกมาแสดงบทบาทการเป็นนักการเมืองแล้วได้รับเลือกถล่มทลายอย่างเขาคนนี้

โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) นักการเมืองชาวยูเครน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดียูเครนคนที่ 6 หลังเป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนในการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครน ปี 2019

เขาเรียนจบปริญญาตรีด้านกฎหมาย และทำงานบันเทิงควบคู่กันไป โดยเขาเริ่มอาชีพนักแสดงตลกจากการเข้าร่วมการแข่งขันตลกในรายการ KVN และออกมาตั้ง ‘Kvartal 95’ ซึ่งเป็นบริษัทบันเทิงของตัวเอง มุ่งเน้นในการผลิตรายการบันเทิงมากมาย

ในปี 2015 กระทรวงวัฒนธรรมของยูเครนเคยแบนศิลปินรัสเซียและห้ามนำผลงานศิลปะรัสเซียเข้ามาในยูเครน เซเลนสกีจึงออกมา Callout เพื่อต่อต้านความตั้งใจของกระทรวงวัฒนธรรมยูเครน และทำให้ต่อมาภาพยนตร์เรื่อง ‘Love in the Big City 2’ ที่เขาได้นำแสดงถูกแบนไปด้วย

เซเลนสกีได้แสดงนำในซีรีส์เรื่อง ‘Servant of the People หรือ ข้ารับใช้ของประชาชน’ โดยเป็นซิตคอมยอดฮิตที่มีเนื้อหาตลกเสียดสีการเมืองของยูเครน เซเลนสกีรับบทเป็นคุณครูวัย 30 ที่สอนประวัติศาสตร์ในโรงเรียนมัธยม ที่มักพูดจาโผงพางด่ากราดรัฐบาลที่ทุจริต แต่แล้วสิ่งที่เขาพูดกลับถูกแอบถ่ายโดยนักเรียนคนหนึ่ง ทำให้วิดีโอของเขากลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย จนในที่สุดก็กลายเป็นประธานาธิบดีของประเทศยูเครนโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งในตอนนี้ซีรีส์มีจำนวนทั้งสิ้น 3 ซีซั่น รวม 51 ตอน 

ซีรีส์เรื่องนี้ผลิตโดย Kvartal 95 ซึ่งเป็นบริษัทของเซเลนสกีเอง ซึ่ง ‘Servant of the People’ ก็ได้กลายเป็นซีรีส์ที่รับความนิยมอย่างล้นหลาม ต่อมาบริษัท Kvartal 95 และพนักงานก็ได้ร่วมกันก่อตั้งพรรคการเมืองชื่อ ‘Servant of the People’ ตามชื่อของซีรีส์ขึ้นมาจริง ๆ และ เซเลนสกีก็ได้ผันตัวเองไปสู่การเป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัวในที่สุด

เมื่อไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง เซเลนสกีจึงใช้จุดเด่นในการหาเสียงสไตล์เดี่ยวไมโครโฟน โดยมุ่งเน้นเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึกในยูเครน จนเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2019 นั้น เซเลนสกีก็เอาชนะการเลือกตั้งกับประธานาธิบดีคนก่อนอย่าง ‘แปตรอ ปอรอแชนกอ’ (Petro Poroshenko) ได้สำเร็จ เขาชนะใจประชาชนอย่างขาดรอยไปด้วยคะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 73 จนกลายเป็นประธานาธิบดีของประเทศยูเครนจริง ๆ