Jackass Forever แก๊งเพื่อนเกรียนตลอดกาล ขอห่ามอีกหน

Jackass Forever แก๊งเพื่อนเกรียนตลอดกาล ขอห่ามอีกหน

Jackass Forever แก๊งเพื่อนเกรียนตลอดกาล ขอห่ามอีกหน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บรรดาวัยรุ่นยุค MTV (แหม เช็คอายุกันสุดฤทธิ์) คงไม่มีใครไม่รู้จักรายการเรียลลิตี้อย่าง Jackass หรือต่อให้ไม่เคยดู ก็คงเคยพอจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามในความห่าม บ้าบอคอแตกของพวกเขา และในวันนี้เหล่าคนกลุ่มนี้จะกลับมาทิ้งทวน สร้างวีรกรรมที่โลกจะไม่มีวันลืมพวกเขาไปอีกนาน ด้วยการเอ่อ..... เล่นอะไรแผลงๆกับไอ้จ้อนของพวกเขาเอง เป็นตัวอย่าง!

 

เผื่อใครยังไม่รู้จัก Jackass

Jackass คือรายการเรียลลิตี้ทีวีของช่อง MTV แน่นอนว่ามันโด่งดังมาก ในแง่ความบันเทิงแบบเจ็บตัว หรือสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาคงไม่คิดว่าจะทำกันในชีวิตประจำวัน เมื่อบรรดาแก๊งเพื่อนชายสุดห่ามที่อุตริสรรหา ความพิสดาร เสี่ยงตายพ่วงด้วยคำหยาบคายด่าพ่อล่อแม่สารพัด จนผู้ชมเองก็แอบปวดหัว มวนไส้ ว่าพวกเขาจะถูกหามเข้าโรงพยาบาลหรือถูกหน่วยกู้ภัยส่งไปห้องดับจิตกันหรือเปล่า

โดยหัวหอกแกนนำของรายการนี้คือจอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ โดยสำหรับเวอร์ชั่นซีรีส์นั้น เริ่มออกอากาศตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปี 2002 มีความยาวทั้งหมดจำนวน 3 ซีซั่น รวมทั้งสิ้น 25 ตอน รายการ Jackass ถือได้ว่าประสบความสำเร็จและกลายเป็นรายการในความทรงจำของผู้ชมตลอดกาลรายการหนึ่ง โดยในปี 2002 หนังยาวภาคแรกอย่าง Jackass: The Movie ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ก่อนจะกวาดรายได้จากทั่วโลกไปถึง 79 ล้านเหรียญฯ จากต้นทุนในการสร้างเพียง 5 ล้านเหรียญฯเท่านั้น ถือได้ว่ามันเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จมากๆเรื่องหนึ่งของปีนั้นเลยทีเดียว

เมื่อหนังภาคแรกประสบความสำเร็จ โครงการภาคต่อย่อมตามมาเป็นเรื่องปกติ Jackass Number Two ตามออกฉายในปี 2006 และยังคงโกยเงินทั่วโลกไปถึง 84 ล้านเหรียญ จนปี 2010 Jackass 3D กลับมาคืนจอใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเล่นใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเติมคืองบประมาณในการถ่ายทำกว่า 20 ล้านเหรียญฯ และทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 171 ล้านเหรียญฯ

 

12 ปีที่รอคอยกับ Jackass Forever

กว่าหนึ่งทศวรรษได้ผ่านพ้นไป จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ เกิดอาการคันไม้คันมือและคิดถึงอดีตอันแสนเจ็บปวด (ทางร่างกาย) อีกรอบ เขาจึงตัดสินใจโทรหาคู่หูเพื่อนซี้อย่างเจฟฟ์ เทรเมนและสไปค์ โจนซ์ ว่าคงถึงเวลาแล้ว ที่พวกเขาจะกลับมารียูเนียนทำอะไรแผลงๆกันอีกรอบ เมื่อคำถามที่ผุดขึ้นในหัวไม่ว่าจะเป็น จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาสร้างเคราผึ้งไว้บนไอ้หนูของสตีฟ-โอ พวกเขาสามารถสร้างว่าวที่จะยกคนที่หนัก 410 ปอนด์เหนือทุ่งกระบองเพชรได้หรือไม่ น็อกซ์วิลล์สามารถทำให้กระทิงกระหายเลือดที่หนักสองตันเชื่องลงด้วยมายากลได้หรือเปล่า

แม้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์และหนัง Jackass จะเป็นการทำอะไรที่ดูโลดโผนอันตราย แต่ความเป็นจริงแล้ว มันยังเผยให้เห็นความผูกพันของคนกลุ่มหนึ่งที่ไว้เนื้อเชื่อใจกันในการทำอะไรห่ามๆและสร้างความตกใจกลัวให้กับผู้คน มันคือกลุ่มคนที่ชอบในอะไรที่คล้ายคลึงกัน พวกเขาเปรียบเสมือนคนนอกรีต มีความพิสดารในตัวเอง เพียงแต่พวกเขาเป็นตัวแทนของผู้คนเหล่านั้นในสังคมและลงมือทำอะไรที่สนองความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริง

หลังจากความสำเร็จของหนังภาค 3 ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะสร้างภาคต่อตามออกมาทันที แต่ถึงอย่างนั้น จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อมาจากสตูดิโออย่างพาราเมาท์เลย จนกระทั่งเวลาผ่านเลยไปอีก 10 ปี

ความสัมพันธ์ระหว่างผองเพื่อนใน Jackass ยังคงเหนียวแน่นกันอยู่ตลอด โอกาสในการสร้างภาคต่อก็ดูริบหรี่ไปตามกาลเวลา เพราะวัยอันโรยราของพวกเขา (สังขารที่ไม่เที่ยง) ยิ่งทำให้พวกเขาทำอะไรห่ามๆหลุดโลกได้น้อยลง ระหว่างทางนั้นเองพวกเขาได้จดบันทึกไอเดียต่างๆเอาไว้ ว่าสักวันถ้าหากภาคต่อได้รับการสร้างขึ้นมา พวกเขาจะได้สร้างวีรกรรมที่โลกไม่ลืมอีกครั้ง!

จนกระทั่งเมื่อถึงวันที่จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ ได้นัดกินข้าวกับเพื่อนๆเพื่อบอกข่าวดีว่า เราได้รับไฟเขียวในการสร้างภาคต่อแล้ว แม้ว่าในใจของเขาเองจะเป็นกังวลว่า “อายุ” ของพวกเขาจะเป็นอุปสรรคในการรวมตัวหรือไม่ แต่เมื่อได้รับโอกาสแล้วพวกเขาเลยทดลองถ่ายทำกันแบบง่ายๆ เพื่อตรวจตราดูว่าตัวเองยังจะไหวกับอะไรพวกนี้ไหม การทดสอบการถ่ายทำจึงเริ่มต้นขึ้นที่หลังบ้าน เริ่มทำในสิ่งเล็กๆน้อย อาทิ พ่นซอสเผ็ดๆ ด้วยจมูก คริสใส่มันลงในไอ้หนูของเขา พวกเราหัวเราะกันเป็นบ้าเป็นหลังเลย

หลังจากการทดสอบสังขารของตัวเอง เวลาผ่านพ้นไปแค่ 2 วัน พวกเขารู้ดีว่าไฟในตัวยังอยู่เต็มเปี่ยม แต่อุปสรรคใหญ่กว่านั้นคือหลังจากเริ่มกองถ่ายไปได้เพียง 5 วัน การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส ก็ทำให้การถ่ายทำต้องหยุดชะงักไป กว่าค่อนปีจนทีมงานเองตอนมานั่งดูฟุตเทจที่ตัดต่อจากการทดสอบพบว่าพวกเขาก็แทบจะลืมกันไปแล้วว่าถ่ายอะไรไปบ้าง

เมื่อเริ่มกลับไปทำงานใหม่อีกครั้ง (แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดมากกว่าที่กองถ่าย Jackass เคยเจอมาก่อนก็ตาม) การถ่ายทำที่เหลือก็ดำเนินไปได้อย่างน่าทึ่ง พวกเขาปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นของขวัญที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายในปลายเดือนธันวาคม ปี 2020 ปรากฏว่าโลกต้องการโลกที่อิสระเสรีและไร้กฎเกณฑ์ของ jackass มากกว่าที่เคย และพวกเขารู้สึกตื่นเต้นที่จะมอบมันให้กับทุกคน “สิ่งที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุดเกี่ยวกับ Jackass คือมันทำให้พวกเขานึกถึงการไปเที่ยวกับเพื่อนๆ และสนุกสนานด้วยกัน ผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่เคยตกยุค” คริส พอนเทียส หนึ่งในทีมนักแสดงกล่าวไว้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook