[เปิด Netflix มารีวิว] The Invisible Thread ครอบครัวเกย์บ้านแตกของผม!

ออริจินัล Netflix สัญชาติอิตาลี เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เติบโตมาในครอบครัวของพ่อทั้งสองคนที่เป็นเกย์ แต่แล้วชีวิตคู่ที่เคยไปได้สวยก็ต้องชะงักงัน เมื่อสมาชิกในครอบครัวจับได้ว่าอีกฝั่งนอกใจ และคราวนี้พวกเขาจะแก้สถานการณ์กันอย่างไร

เรื่องราวตามติดชีวิตของลีโอเน่ (ฟรานเชสโก ไกฮี) เด็กนักเรียนไฮสคูลที่กำลังจะทำรายงานส่งอาจารย์โดยเขาเลือกหัวข้อในการพรีเซนต์เป็นการถ่ายวิดีโอเพื่อบอกเล่าชีวิตครอบครัวของตัวเอง ว่าเขามีพ่อสุดเจ๋งอย่างซิโมน (ฟรานเชสโก ชาน์นา) เจ้าของร้านอาหารฝีมือเด็ด และคุณพ่อจอมขี้บ่นเจ้าระเบียบอย่าง เปาโล (ฟิลิปโป ทิมี่) เจ้าของร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ อย่างไรก็ตามการมีชีวิตคู่ของเกย์ในอิตาลีนั้น เรื่องการอุปการะเลี้ยงดูบุตรนั้นยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องถูกกฎหมาย ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะหาคุณแม่อุ้มบุญมาเป็นคนอุ้มครรภ์ลีโอเน่ โดยผู้หญิงคนนั้นก็คือทิลลี่ (โจดี เมย์)

เรื่องราวทั้งหมดน่าจะทำให้คนดูเห็นว่า การเป็นเกย์และมีชีวิตคู่รวมไปถึงการมีลูกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยุ่งยากนัก แต่เปล่าเลยพวกเขาทั้งสองต้องผ่านอะไรมามากมาย เมื่อในใบสูจิบัตรยังไม่สามารถกรอกให้พ่อแม่เป็นเพศเดียวกันได้ ต้องมีใบมอบฉันทะหรือผู้ปกครองมารับใบรายงานสุขภาพ จนกระทั่งวันหนึ่งกฎหมายก็อนุมัติให้คนเพศเดียวกันสามารถรับรองสถานะของพวกเขาร่วมกันได้ แต่ไม่นานนักเปาโลกลับพบว่าซิโมนแอบนอกใจเขาไปมีเซ็กส์กับชายอื่น จนนำมาซึ่งปัญหาชวนบ้านแตก

ระหว่างทาง The Invisible Thread หนังพยายามสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างเปาโลและซิโมน ในฐานะคู่ครอง ที่มีปัญหาในเรื่องชีวิตคู่ไม่แตกต่างจากชายหญิง ในเมื่อฝ่ายหนึ่งทุ่มเทให้กับงานและลูก จนละเลยเรื่องความสุขบนเตียงไป ส่งผลให้อีกฝ่ายต้องไปเติมเต็มสิ่งที่ขาดจากคนอื่น แต่ถึงอย่างนั้นซิโมนเองก็ตระหนักอยู่เสมอว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้น อาจจะเป็นแค่เพียงความปรารถนาทางเพศ ไม่ใช่ความรัก

ทางฝั่งลูกชายที่กำลังต้องรับรู้ว่าพ่อของเขาทั้งสองคนจะไม่มีวัน “เหมือนเดิม” อีกต่อไป มิหนำซ้ำเขายังต้องรับมือกับความว้าวุ่นในวัยของตัวเอง เมื่อเขาตกหลุมรักอันนา (กุยเลีย มีนซ่า) เด็กสาวฝรั่งเศสหน้าตาสะสวยที่มีพี่ชายจอมกวนโอ้ยอย่างดาริโอ้ (เมธีโอ ออสการ์ กุยจิโอลี่) ซึ่งกำลังจะเผยความลับบางอย่างเกี่ยวกับเพศสภาพของตัวเองให้กับลีโอเน่ต้องตกตะลึง!

สิ่งที่ The Invisible Thread หยิบเอาประเด็นเรื่องชีวิตคู่ของเกย์สองคนที่แต่งงานกันมาเกือบ 20 ปีและต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องชีวิตคู่ จนจะทำให้บ้านแตกและส่งผลให้ลูกชายต้องแบกรับความทุกข์ดังกล่าวจนหันไปพึ่งพายาเสพย์ติด ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจและนำเสนอแง่มุมใหม่ๆของหนังเกย์ ว่าท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ของคนสองคนที่พังทลายนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเพศไหนก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะทำอย่างไรที่จะรับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่จะตามมาและส่งผลกระทบกับ “ลูก” ของตัวเองให้ดีที่สุด

เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ดูสนุกและมีประเด็นที่น่าสนใจไปพร้อมๆกัน