ย้อนรอย 10 เหตุการณ์ชวนอึ้ง ทึ่ง ช็อกบนเวทีออสการ์
จบลงไปแล้วสำหรับการประกาศผลรางวัล ออสการ์ 2022 ครั้งที่ 94 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา แต่นอกจากผลรางวัลที่หลายคนรอคอยแล้ว ยังมีเหตุการณ์ชวนช็อกเข้ามาแย่งซีนการประกาศรางวัลเมื่อ วิล สมิธ (Will Smith) เดินขึ้นเวทีไปตบ คริส ร็อก (Chris Rock) จนหน้าหัน เนื่องจากร็อกเล่นมุกไม่เหมาะสมแซวภรรยาของเขา เหตุการณ์นี้ทำให้คนทั้งฮอลล์อึ้งไม่พอ ยังกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกและเป็นมีมทั่วอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา
แต่โมเมนต์ชวนอึ้ง ทึ่ง ช็อก ในการประกาศผลรางวัลออสการ์ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่ามีเหตุการณ์ให้ลุ้นระทึกได้ทุกปีว่าจะมีเล่นมุกแรง ๆ จนกลายเป็นดราม่าหรือมีพิธีกร นักร้อง นักแสดงหลุดทำอะไรแปลก ๆ หรือไม่ Beartai BUZZ จึงขอพาทุกคนย้อนรอยไปสำรวจ 10 เหตุการณ์ชวนอึ้ง ทึ่ง ช็อกที่ผ่านมาบนเวทีออสการ์ ว่ามีโมเมนต์อะไรกลายเป็นที่จดจำบ้าง
1. เมื่อ ‘La La Land’ ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม? (2017)
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการประกาศผลผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสการ์เลยก็ว่าได้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ในปีนั้น ‘La La Land’ และ ‘Moonlight’ เป็นภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่ วอร์เรน เบต์ตี (Warren Beatty) และ เฟย์ ดันนาเวย์ (Faye Dunaway) รับหน้าที่เป็นผู้ประกาศรางวัล แต่เมื่อเบต์ตีเปิดซองจดหมายออกเขามีท่าทีสับสนอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ตัดสินใจยื่นซองจดหมายให้ดันนาเวย์ เธอประกาศด้วยรอยยิ้มว่าผู้ชนะรางวัลนี้คือ ‘La La Land’
นักแสดงและทีมงานต่างโห่ร้องยินดี พวกเขาขึ้นมารับรางวัลด้วยสีหน้ามีความสุข ถึงขั้นกล่าวอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ กับผู้ชมไปแล้วด้วยซ้ำ แต่แล้วโปรดิวเซอร์อย่าง จอร์แดน โฮโรวิตซ์ (Jordan Horowitz) ก็ได้รู้ว่ามีบางอย่างผิดพลาด เขากล่าวว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น จริง ๆ แล้วผู้ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมคือ ‘Moonlight’ แถมยังย้ำว่านี่ไม่ใช่มุก กลายเป็นความกระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้นตามมา เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดจากการเปิดจดหมายผิดซอง เนื่องจากเบต์ตีไปเปิดซองประกาศนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่มีชื่อ เอ็มมา สโตน (Emma Stone) จาก ‘La La Land’ นั่นเอง
2. เมื่อม้ามืดอย่าง ‘Rocky’ คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (1977)
การประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 49 ในปี 1977 สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า ‘Rocky’ จะสามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาได้ เมื่อต้องเจอคู่แข่งอย่าง ‘Taxi Driver’ และ ‘All the President’s Men’ แต่ภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจที่เขียนบทและนำแสดงโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) เรื่องนี้ประทับใจผู้ชมเป็นอย่างมาก ชัยชนะในครั้งนี้จึงเปรียบเหมือนรางวัลสำหรับทีมงานรวมถึงแฟน ๆ ของ ‘Rocky’ ด้วย
3. เมื่อเอเดรียน โบรดี (Adrien Brody) ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (2003)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการแสดงของโบรดีในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Pianist’ นั้นยอดเยี่ยม แต่ในปีนั้นเขาต้องเจอกับรุ่นใหญ่ในวงการอย่าง ไมเคิล เคน (Michael Caine), แจ็ก นิโคลสัน (Jack Nicholson) และ แดเนียล เดย์-ลิวอิส (Daniel Day-Lewis) ทำให้หลายคนเชื่อว่าโอกาสของโบรดีริบหรี่แน่นอน แต่แล้วเขาก็ทำให้หลายคนช็อกเพราะนอกจากโบรดีจะคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในการประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 75 มาได้ เขายังทำลายสถิติเป็นชายอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมด้วย แต่โมเมนต์ชวนอึ้งยังไม่จบเมื่อเจ้าตัวดีใจมากซะจนตรงเข้าไปจูบฮัลลี เบอรี (Halle Berry) แบบเต็มรักจนกลายเป็นไวรัลในช่วงนั้นไปเลย (ภายหลังเบอรีเคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ค่ะว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้น ปล่อยเลยตามเลยไปละกัน”)
4. เมื่อ ‘The Shawshank Redemption’ พลาดทุกรางวัลบนเวทีออสการ์! (1995)
ถ้าให้คนรักหนังลิสต์รายชื่อหนังดีในดวงใจ เชื่อว่าต้องมีชื่อของ ‘The Shawshank Redemption’ ติดโผด้วยแน่นอน ซึ่งในปีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 67 ถึง 7 สาขา แต่แล้วเรื่องชวนช็อกก็คือ ‘The Shawshank Redemption’ พลาดทุกรางวัลออสการ์! ทีมงานและนักแสดงไม่ได้รับรางวัลกลับบ้านเลยแม้แต่รางวัลเดียว แม้จะมีการเก็งเอาไว้ก่อนว่า ไม่ ทิม ร็อบบินส์ (Tim Robbins) ก็ มอร์แกน ฟรีแมน (Morgan Freeman) จะต้องได้เฮในคืนนั้น ส่วนการพลาดรางวัลที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งผู้ชนะในปีนั้นคือ ‘Forest Gump’
5. เมื่อ มาร์ลอน แบรนโด (Marlon Brando) ปฏิเสธรางวัลออสการ์ (1973)
ใครจะคาดคิดว่าในการประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 45 ที่จัดขึ้นเมื่อปี 1973 จะมีนักแสดงกล้าปฏิเสธรางวัลอันทรงเกียรตินี้ แต่แบรนโดกล้าทำ แบรนโดฝากผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมเอาไว้ใน ‘The Godfather’ แต่เมื่อเขาชนะรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เจ้าตัวกลับไม่ขึ้นรับรางวัลและให้นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิชนพื้นเมืองอเมริกัน ซาเชน ลิตเติลฟีเธอร์ (Sacheen Littlefeather) ขึ้นมาอ่านจดหมายเปิดผนึกว่าด้วยการปฏิบัติต่อชาวอเมริกัน-อินเดียนในปัจจุบันของอุตสาหกรรมภาพยนตร์แทน
6. เมื่อ เมริซา โทเม (Marisa Tomei) คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (1993)
ในการประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 65 ปี 1993 โทเมคว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากการแสดงในเรื่อง ‘My Cousin Vinny’ ในปีนั้นเธอต้องเจอกับคู่แข่งอย่าง วาเนสซา เรดเกรฟ (Vanessa Redgrave) จาก ‘Howards End’ และ จูดี เดวิส (Judy Davis) จาก ‘Husbands and Wives’ แต่สุดท้ายก็เป็นโทเมที่คว้ารางวัลมาได้ อย่างไรก็ตามได้เกิดข้อกังขาขึ้นมากมาย หลายคนคิดว่าพิธีกรอ่านออกเสียงผิดจากวาเนสซาเป็นเมริซา ท้ายที่สุดทีมงานออสการ์จึงต้องออกมาคลายข้อสงสัยว่าผลรางวัลถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตามเวลาต่อมาโทเมก็ฝากผลงานการแสดงที่น่าจดจำจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อีก 2 ครั้ง จากเรื่อง ‘In the Bedroom’ ปี 2001 และ ‘The Wrestler’ ปี 2008 แถมปัจจุบันเธอยังกลับมาฮอตในหมู่แฟน ๆ อีกครั้งจากบทบาทป้าเมย์ใน ‘Spider-Man’ เวอร์ชันทอม ฮอนแลนด์ (Tom Holland)
7. เมื่อ ลีโอนาโด ดิแคพริโอ (Leonardo DiCaprio) พลาดรางวัลออสการ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (1994–2014)
ดิแคพริโอเป็นนักแสดงที่เราเห็นผลงานของเขามาตั้งแต่วัยรุ่นจนกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ทุกคนทั่วโลกรัก เรารู้ดีว่าเขามีความสามารถ แสดงได้หลากหลายบทบาท และภาพยนตร์หลายเรื่องก็ส่งให้เขาโดดเด่น ในปี 1994 ดิแคพริโอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก ‘What’s Eating Gilbert Grape’ ปี 2005 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก ‘The Aviator’ ปี 2007 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกครั้งจาก ‘Blood Diamond’ และปี 2014 ‘The Wolf of Wall Street’ แม้จะได้รับการเสนอชื่อหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่ดิแคพริโอจะคว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ จนทำให้ชาวเน็ตนำภาพของเขาในงานประกาศผลออสการ์ไปทำมีมล้อเลียนกันมากมาย
แต่ท้ายที่สุดแล้วดิแคพริโอก็ทำลายคำสาปนี้ลงได้ในออสการ์ครั้งที่ 88 ปี 2016 เมื่อเขาคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทสุดท้าทายใน ‘The Revenant’ นับเป็นเวลากว่า 23 ปีกับการเข้าชิงออสการ์ 5 ครั้ง ท้ายที่สุด ‘ลีโอ’ ก็สามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จ!
8. เมื่อ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) สะดุดล้มระหว่างขึ้นรับรางวัล (2013)
ไม่แปลกใจเลยที่ เจนลอว์ หรือ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ จะได้รับรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในการประกาศรางวัลออสการ์เมื่อปี 2013 จากเรื่อง ‘Silver Linings Playbook’ แต่เหตุการณ์ที่ทำให้หลายคนจดจำลอว์เรนซ์กับรางวัลในครั้งนี้ไม่ใช่ใบหน้าสวย ทรงผมที่บรรจงแต่งอย่างประณีต หรือชุดราตรีที่หรูหรา แต่กลับกลายเป็นการ ‘สะดุดล้ม’ ระหว่างเดินขึ้นบันไดไปรับรางวัลบนเวที ซึ่งภายหลังเราได้รู้ว่า ฮิวจ์ แจ็กแมน (Huge Jackman) และแบรดลี คูเปอร์ (Bradley Cooper) ลุกจากที่นั่งและจะเข้ามาช่วยประคองเธอด้วย แต่เจนลอว์ลุกขึ้นมาเองก่อน กลายเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำในปีนั้นไปเลย
9. เมื่อ รีเบล วิลสัน (Rebel Wilson) และ เจมส์ คอร์เดน (James Corden) ปรากฎตัวบนเวทีในคอสตูมจาก ‘Cats’ (2020)
ภาพยนตร์มิวสิคัลดัดแปลงจากละครเวทีเรื่อง ‘Cats’ กลายเป็นที่จดจำ (ในด้านไม่ดี) ด้วยคอสตูมยอดแย่และ CGI ที่ชวนหลอน แต่ไม่ใช่แค่ผู้ชมอย่างเรา ๆ เท่านั้นที่คิดแบบนี้เพราะแม้แต่นักแสดงเองก็เห็นด้วย! ในการประกาศผลรางวัลออสการ์ปี 2020 วิลสันและคอร์เดนซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงจาก ‘Cats’ ปรากฏตัวบนเวทีออสการ์ด้วยคอสตูมแมวสุดหลอน พวกเขาแซวตัวเองท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนในฮอลล์ว่า “ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ ‘Cats’ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเราหรอกว่าวิชวลเอฟเฟกต์ที่ดีสำคัญแค่ไหน”
10. เมื่อ วิล สมิธ (Will Smith) ตบ คริส ร็อก (Chris Rock) กลางเวทีออสการ์ (2022)
ปิดท้ายด้วยเหตุการณ์ที่เป็นประเด็นร้อนที่สุดตอนนี้ เมื่อร็อกเล่นมุกเกี่ยวกับอาการผมร่วงของ จาดา พิงค์เกต-สมิธ (Jada Pinkett-Smith) จนทำให้สมิธของขึ้น ถึงขั้นเดินไปตบหน้าร็อกสนั่นกลางเวที แถมตอนเดินกลับมานั่งที่เขายังสบถด้วยอารมณ์โกรธว่าอย่าบังอาจมาเอ่ยชื่อเมียของเขาอีก แรก ๆ คนอื่น ๆ ก็ยังคิดว่าเป็นมุก แต่แล้วเสียงหัวเราะก็เงียบลงเมื่อทุกคนตระหนักว่านี่คือความโกรธของจริง ตบจริง เจ็บจริง แต่ภายหลังสมิธก็ได้ออกมาร่ายจดหมายขอโทษทุกฝ่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนร็อกเองก็กล่าวว่าจะไม่ฟ้องร้องสมิธจากเหตุการณ์ครั้งนี้
เวทีออสการ์เป็นการประกาศผลรางวัลเกี่ยวกับแวดวงภาพยนตร์และการแสดงที่โด่งดังและมีชื่อเสียงระดับโลก แต่แทบทุกปีมักมีเหตุการณ์ฉาว อึ้ง ทึ่ง ช็อก มาให้เราได้ลุ้นกันเสมอ จนช่วงหลายปีหลังมานี้หลายคนก็แสดงความเห็นว่าออสการ์มักมีดราม่าแปลก ๆ ที่ไม่เหมาะสมออกมา ทั้งการเล่นมุกที่รุนแรง ไม่สมควรเล่นจากพิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการในแต่ละช่วง กระทั่งเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างมาแย่งซีนการประกาศรางวัลไปซะอย่างนั้น
