แดงพระโขนง กับการหยิบตำนานแม่นาก มาเล่าต่อ!
แดงพระโขนง คือผลงานหนังแนวตลก-วิ่งหนีผี ผลงานการกำกับร่วมกันระหว่าง เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ปัทมะ และ แจ็ค แฟนฉัน ที่หยิบเอาตำนานเรื่องดังของไทยอย่างแม่นาก มาเล่าถึง ลูกของแม่นาก!
แม่นาก ถือเป็นหนึ่งในตำนานผีไทยในระดับไอคอน เรื่องราวของเธอถูกหยิบขึ้นมาสร้างเป็นหนัง ละคร ละครเวที วรรณกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า โดยในแต่ละครั้งล้วนแล้วแต่มีการตีความที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็เล่าในมุมหนังสยองขวัญ บ้างก็เป็นหนังดราม่า บางทีก็กลายเป็นหนังตลก
ในทุกมุมมองประวัติศาสตร์แม่นาก เรื่องราวของผีตายท้องกลมถูกเล่าออกมาได้อย่างสมบูรณ์และมีเอกลักษณ์ในทุกๆเวอร์ชั่น แต่สำหรับ “แดงพระโขนง” นั้น ยังไม่เคยมีใครพูดถึงลูกของแม่นากและพ่อมากอย่างจริงๆจังๆเสียที และเอาเข้าจริงแล้วเราก็ไม่รู้จริงๆด้วยซ้ำไปว่าตกลงแล้ว “เพศ” ของลูกแม่นากนั้นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เนื่องจากตามตำนานเรารู้แค่ว่าแม่นากนั้นตายท้องกลม ดังนั้นมันจึงเป็นความอิสระที่ทำให้เหล่าผู้กำกับหยิบมาตีความว่าเป็นผู้ชาย
ความอยากทำหนังร่วมกันระหว่างเพื่อนสนิท
เอ็กซ์-วัชรพงษ์ ปัทมะ เคยตั้งใจอยากจะกำกับหนังกับแจ็คด้วยกัน ตั้งแต่ที่พวกเขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยรังสิตด้วยกัน อันที่จริงทั้งสองเกือบจะมีโปรเจกต์ละครร่วมกัน แต่เนื่องจากคิวของแจ็คที่ยังไม่ว่างลงตัวกัน ทำให้ทุกอย่างถูกล้ม และต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง จนกระทั่งตัวเอ็กซ์ ได้มาช่วยงานหม่ำ จ๊กม๊ก ในหนังเรื่อง “ส่ม ภัค เสี่ยน” และเขาจึงพยายามนำเสนอโปรเจคหลายๆเรื่อง จนกระทั่งมาลงตัวที่ “แดงพระโขนง” ซึ่งเป็นการคิดพล็อตเรื่องร่วมกันระหว่างเขาและแจ็ค โดยปี 2561 มีการเจรจาพูดคุย พัฒนาปรับปรุงบทร่วมกันจนทุกอย่างออกมาดีที่สุดและเปิดกล้องตอนช่วงปลายปี 2563
อันที่จริงหม่ำ จ๊กม๊ก ผู้ดำรงตำแหน่งโปรดิวเซอร์ เกือบจะไม่ให้เอ็กซ์กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยซ้ำไป แต่เมื่อสุดท้ายความพยายามและตั้งใจจริงของเขา ก็ทำให้เขาได้ทำงานในฐานะผู้กำกับแบบเต็มตัว หลังจากที่เขาเคยกำกับ “เลิฟเลย 101” มาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเขามีโอกาสทำงานกับหม่ำมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงลดความเกร็งและหันไปกังวลกับการกำกับบรรดานักแสดงเด็กๆแทน!
ทางด้านแจ็ค แฟนฉันเอง เขามีประสบการณ์หน้ากล้องมาอย่างโชกโชน แต่ในมุมหนึ่งเขาเองก็เล็งเห็นศักยภาพของเพื่อน เมื่อเอ็กซ์ถนัดเรื่องทฤษฎีรวมถึงชอบเสพย์ภาพยนตร์ดังนั้น คนสองคนที่ถนัดกันคนละด้านเอามาช่วยกันพัฒนาผลงานขึ้นมา และเมื่อทั้งสองนึกถึงตำนานแม่นาก ไม่ว่าจะเวอร์ชั่นไหนก็ดูคลาสสิกและเต็มด้วยอาถรรพ์ ก่อนหน้านี้ “พี่มาก” ของจีดีเอชก็กระแสตอบรับถล่มทลาย แต่ทำไม่ยังไม่เคยมีใครพูดถึง “แดง” ที่เป็นลูกของแม่นาก แม้ว่าตอนแรกการนำเสนอโปรเจคนี้กับหม่ำ แต่ก็เหมือนจะยังไม่ได้รับการตอบรับ ทำให้สองเพื่อนสนิทต้องใช้วิธีการมูเตลูด้วยการไปไหว้ขอย่านาก ที่วัดมหาบุศย์ เพื่อขออนุญาตในการสร้างหนังขึ้นมา หลังจากไหว้ได้ไม่นา ทุกอย่างก็ราบรื่นและได้ทำหนังกันจริงๆ
แน่นอนจากการที่แจ็ค เป็นนักแสดงมาก่อน เมื่อเขาต้องผันตัวมาเป็นผู้กำกับเป็นครั้งแรก เขาถึงได้รู้ซึ้งว่ามันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ เพราะในแต่ละวันเขาต้องมานั่งลุ้นว่าจะสามารถถ่ายทำทันไหม แน่นอนว่าเขาเครียด และแจ็คยังได้เห็นด้านเครียดๆของหม่ำ จ๊กม๊กเวลาทำงานด้วยกันเป็นครั้งแรกๆด้วย แต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกดีที่ตัวเองได้รับโอกาสในการมาทำหนังเรื่องนี้ เพื่อมาเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆเพิ่มด้วย
นี่เป็นหนังที่อุดมไปด้วยเด็ก!
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแดงพระโขนงนั้นเป็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวแดงกับแม่ มิตรภาพระหว่างแดงเองกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ยังมีเส้นเรื่องความโรแมนติกระหว่างตัวแดงและมะลิ ซึ่ง น้องเมลิก เอเฟ่ ไอย์กูน ที่มารับบท “แดง” ผู้มีแววตาเศร้า แต่เวลานิ่งก็ดูน่ากลัว ใบหน้าเขามีความหลอนผสมความน่ารัก คาแร็คเตอร์แดง จะเป็นเด็กน่ารัก ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ส่วนโบ๊ต-ภูวรักษ์ คำสิงห์ ตอนแรกเขาเคยถูกวางตัวให้เป็นแดง แต่ด้วยการพัฒนาบทที่ยืดเยื้อกว่า 3 ปีทำให้เขาโตเกินจะรับบทแดงแล้ว เลยถูกเปลี่ยนให้รับบทเป็นศรี หัวโจกตัวจี๊ดจอมดื้อ แสบและทะเล้น
ส่วน ไบค์วีค-สุรชัย บ่อสุวรรณ รับบทเป็น “เฮง” คาแร็คเตอร์จะเป็นเด็กใจดีและมีน้ำใจ เขาจะเป็นเพื่อนสนิทแดง ฟาก เอ็มเจ ซูเปอร์เทน แสดงเป็น “สำลี” ซึ่งจะเป็นลิ่วล้อของ “ศรี” จะชอบพูดเป็นภาษาแร็พ บท “สำลี” ด้าน น้องมากิ-มาชิดา สุทธิกุลพานิช รับบทเป็น “มะลิ” ถึงจะเป็นผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม แต่เป็นผู้นำ หน้าหวาน มีน้ำใจ แต่ไม่ยอมใคร จะคอยปกป้องแดงเสมอ
การกำกับเด็กๆไม่ใช่เรื่องง่าย สองผู้กำกับหนักใจตั้งแต่วันเวิร์คช็อปเลยทีเดียว เพราะพวกเขาเห็นแววความซนตามธรรมชาติของวัย ทำให้ต้องมีการวางแผนกับทีมงาน อย่างดี จะต้องมีคนคอยรับหน้าที่ดุ มีคนรับหน้าที่ปลอบ แจ็คและครูสอนการแสดงจะช่วยกันดูเรื่องการแสดงของเด็ก จะช่วยกันหาวิธีคุมเด็กและบรีฟการแสดงในเวลาเดียวกัน
อย่างแจ็ค แฟนฉันเองเคยแจ้งเกิดมาตอนสมัยที่เขายังเป็นเด็กๆ พอต้องมากำกับเด็กเองเขาก็ได้เรียนรู้ว่าการจับเด็กมากองอยู่ด้วยกันไม่ง่ายเลย ในช่วงเวลาเปิดกล้อง เด็กๆอาจจะยังไม่สนิทกันมาก แต่เมื่อผ่านไปสักระยะเมื่อพวกเขารักและเข้ากันได้ดีขึ้น ทุกอย่างก็ไหลลื่น
ท้ายที่สุดแล้ว “แดงพระโขนง” ไม่ใช่หนังผีน่ากลัว แต่เป็นหนังฟีลกู๊ดที่ดูกันได้ทั้งครอบครัวโดยมีจุดขายเป็นความน่ารักของบรรดาเด็กๆที่แสดงนำนี่แหละ