รีวิว Morbius เพื่อนรัก หักเหลี่ยม ไม่โหดแต่เชย

รีวิว Morbius เพื่อนรัก หักเหลี่ยม ไม่โหดแต่เชย

รีวิว Morbius เพื่อนรัก หักเหลี่ยม ไม่โหดแต่เชย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

สิ่งที่ทำให้หนังอย่าง Morbius น่าผิดหวังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือวิธีการนำเสนอตัวละครนี้ ค่อนข้างเชย ดูเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่สมัย 2000 ต้นๆ ที่นอกจากจะไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์แล้ว ยังเอื่อยเฉื่อยกว่าที่คิด

ใช่ว่าหนังอย่าง Morbius จะไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย เราคงต้องบอกว่าการแสดงของจาเร็ด เลโต้ในบทบาทไมเคิล มอร์เบียส เรียกได้ว่าเขาทุ่มเทให้กับตัวละครนี้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ตัวเองดูโทรม ซูบซีดราวกับคนป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับโรคเลือด แต่เมื่อเขาต้องขุนหุ่นให้ล่ำตอนกลายร่างก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดหวัง

น่าเสียดายที่บทภาพยนตร์ในการบอกเล่าความเป็นมาของตัวละคร Morbius นั้นถือว่าเป็นการเล่าที่มาที่ไปของตัวละครได้เชื่องช้า ไม่กระเตื้องไปข้างหน้าสักเท่าไหร่ อันที่จริงเราอาจจะบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า แค่ดูเทรลเลอร์ตัวอย่างภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้ก็แทบจะครอบคลุมสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังทั้งหมด เหลือก็เพียงแค่เอนเครดิตที่บอกเล่าเรื่องราวที่นำไปสู่เหตุการณ์ต่อๆไปในจักรวาลแยกย่อยของสไปเดอร์เวิร์ส

ปัญหาของ Morbius จริงๆแล้ว คล้ายกับหนังเรื่อง Venom ภาคแรกที่พยายามจะบอกเล่าเรื่องราวของ “ตัวร้าย” ที่ไม่ได้เลวอย่างที่คนดูเคยรู้จักกัน ความโหดร้ายป่าเถื่อนของตัวละครเหล่านี้ จริงๆแล้วพวกเขาพยายามต่อสู้กับพลังอำนาจที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้ จนท้ายที่สุดตัวละครเหล่านี้ก็มีเหตุจำเป็นที่จะต้อง “สูญเสีย” อะไรบางอย่าง เพื่อจะเรียนรู้ถึงอำนาจที่ตัวเองมีในตอนท้าย

สิ่งที่ Venom ภาคแรกมีแต่ Morbius ไม่มีก็คืออารมณ์ขันแบบร้ายๆ การปะทะอารมณ์กันระหว่างเอ็ดดี้และเวน่อมที่เหมือนคนบ้าสองคนอยู่ด้วยกัน ทำให้เรื่องราวระหว่างทางที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ กลับดูเพลินและสนุก ทว่าสิ่งเหล่านี้ก็ไม่อาจจะอุดช่องโหว่ของความจืดชืดในหนังภาคถัดมาอย่าง Venom 2 ซึ่งทำให้ผู้ชมได้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า เสน่ห์และความโดดเด่นของคาแรกเตอร์นั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้บทที่วนอยู่ในอ่างสนุกขึ้นได้

น่าเสียดายที่ Morbius นั้นไม่มีกระทั่งอารมณ์ขัน กระทั่งฉากแอ็คชั่นที่คนดูเฝ้ารอก็มีเพียงน้อยนิด แถมฉากใหญ่ไคลแม็กซ์นั้นก็ไม่ได้ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอย เมื่อคนดูต้องอดทนรอห้วงเวลาดังกล่าวมาเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่งแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตามแม้หนังจะพยายามนำเสนอประเด็นเพื่อนรักสองคนที่มองโลกในมุมที่แตกต่างกัน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดาย (อีกแล้ว) ที่เมื่อตัวละครเพื่อนรักอย่างไมโล (แมทท์ สมิธ) กลายไปเป็นตัวร้าย เขาก็เปลี่ยนไปเหลือแค่เพียงตัวละครวายร้ายหัวกลวงที่มุ่งเน้นแต่จะใช้พลังที่ตัวเองมี เล่นสนุกทำร้ายคนอื่นไปทั่ว จนทำให้มอร์เบียสจำเป็นต้องหยุดเพื่อนรักคนนี้ ก่อนที่คนอื่นในสังคมจะเกิดอันตราย

กล่าวโดยสรุปๆแล้ว Morbius ไม่ใช่หนังที่เลวร้ายขนาดทนดูไม่ได้ หรือชวนง่วงจนหลับคาเบาะ แต่รวมๆแล้วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ หรือมีความจำเป็นต้องดู เรียกว่าถึงพลาดไปก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียดายเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook