[รีวิว] สายสืบหน้าฮ่าน - คู่หูแสบซ่าไขคดีฆาตกรรมไทบ้าน

[รีวิว] สายสืบหน้าฮ่าน - คู่หูแสบซ่าไขคดีฆาตกรรมไทบ้าน

[รีวิว] สายสืบหน้าฮ่าน - คู่หูแสบซ่าไขคดีฆาตกรรมไทบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพยนตร์ออริจินอลจากทาง MONOMAX ที่หยิบจับหนังแนว ‘ตำรวจคู่หู’ มาผสมกับความตลกคอมเมดี้แบบไทบ้าน พร้อมด้วยปมคดีชวนติดตาม จะเป็นอย่างไร? เมื่อคนร้ายที่อยู่ในงาน คือมือที่ไม่มีใครนั้นมองเห็น!

เรื่องราวของ ‘สายสืบหน้าฮ่าน’ เริ่มต้นเมื่อร้อยตำรวจตรี ปกรณ์ (ดิม แทททูคัลเลอร์) ตำรวจหนุ่มจากเมืองกรุง และ ร้อยตำรวจโท สืบศักดิ์ (อี๊ด โปงลางสะออน) นายตำรวจเลือดอีสาน ถูกสั่งย้าย ให้มาทำงานที่สภ.สูงเนินน้อย เพื่อร่วมมือกันสืบคดีการเสียชีวิตอย่างปริศนาในงานรถแห่ ซึ่งเป็นคดีที่มีพยานแวดล้อมอยู่ครบ แต่กลับจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งคู่จึงต้องร่วมไขคดีเพื่อพิสูจน์ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นคนฆ่าผู้ตาย คนร้ายหรือสิ่งที่มองไม่เห็น โดยมีศักดิ์ศรีของตำรวจเป็นเดิมพัน

ตั้งแต่เปิดดูครั้งแรก เอกลักษณ์หนึ่งที่ออกมาคือ การ ‘Proud to present ความเป็นอีสาน’ ที่เด่นชัดมาก ๆ หนังแสดงบรรยากาศไทบ้านออกมาได้ดี ตั้งแต่วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ภาษา รวมไปถึงความเชื่อ ที่สะท้อนให้เห็นเลยว่าชาวบ้านนั้นใช้สิ่งใดในการยึดเหนี่ยวจิตใจ และการไปยุ่งกับความเชื่อก็คือการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายในทุกทาง

แต่การจะอธิบายอะไรแทนคนดูอาจต้องใช้เวลานานไป หนังจึงให้ปกรณ์และสืบศักดิ์เป็นตัวแทนของคนทั้ง 2 ฝั่ง โดยปกรณ์เป็นตัวแทนของคนที่ไม่เชื่อ แต่สืบศักดิ์เป็นตัวแทนของคนที่มีความเชื่อ ซึ่งพวกเขาก็ทำหน้าที่ซักไซ้แก่นของเรื่องราว แทนคนดูได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเมื่ออยู่ด้วยกันแนวคิดของทั้งคู่จะมีความขัดแย้ง แต่ก็เป็นความต่างที่เข้าคู่กัน เพราะทั้งคู่นั้นสามารถนำพาความเชื่อของคน 2 กลุ่มให้มาอยู่ร่วมกันได้

และ….. ถ้าคุณคิดว่าหนังเรื่องนี้จะเครียดล่ะก็คิดผิดเลยล่ะ เพราะจากตัวอย่างนั้น หนังเรื่องนี้มีความคอมเมดี้โดยแท้ และแตะเรื่องราวความเชื่อไว้เป็นกิมมิคเล็ก ๆ ซึ่งถ้าบอกว่าคนเขียนบทได้แรงบันดาลใจมาจากโคนันหรือคินดะอิจิล่ะก็ ค่อนข้างเชื่อเลยล่ะ เพราะหนังมีกลิ่นอายคล้ายการ์ตูนนักสืบที่ตัวเอกต้องไปเผชิญคดีต่างถิ่นอันชวนเครียด แต่ก็ใช้เซนส์ความตลกของตัวละครหลักมากลบให้หนังไม่เครียดแทน

ด้านนักแสดงหลักอย่างดิมกับอิ๊ด ก็ถือว่าเป็นส่วนดีของหนัง แม้ว่าเคมีจะยังไม่เข้ากันเท่าไหร่ แต่ลูกล่อลูกชนของทั้งคู่นั้นก็ดูเข้าขา ตบมุกโบ๊ะบ๊ะแบบใส่สุดไม่ยั้ง ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลายซีนค่อนข้างเป็นมุกที่สดเอาเรื่อง ขนาดที่ว่านักแสดงหลุดขำออกมาและผู้กำกับก็ยังอุตส่าห์นำเทคเหล่านั้นมาใช้ ซึ่งช่วยลดความเครียดของเรื่องราวได้อย่างดี

แม้ว่าตัวละครอื่น ๆ จะมีหน้าที่โผล่มาสร้างสีสันเป็นระยะ แต่ก็นับว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่ ‘Represent’ ความเป็นไทบ้านได้อย่างดี เชื่อเลยว่าใครที่เป็นชาวไทบ้าน เมื่อได้ดูก็อาจจะมีความรู้สึก ‘Nostalgia’ ชวนระลึกถึงความหลัง ว่าครั้งหนึ่งคุณก็เคยมีความสุขกับสิ่งนี้มากเพียงใด

ขยับมาที่อีกหนึ่งหัวใจสำคัญ อย่างบทภาพยนตร์ที่เป็นปมปริศนาในเรื่องนั้น ก็นับว่าหยิบจับองค์ประกอบของความเป็นหนังสืบสวนมาใช้ได้อย่างดี แม้จะมีส่วนที่สะเปะสะปะซะเยอะ แต่ก็ยังพอมีเทิร์นนิงพอยต์ที่ช่วยนำทางให้เราได้เอะใจ จนร้อยเรียงเรื่องราวไปจับคนร้ายได้

 สืบศักดิ์ นายตำรวจเลือดอีสาน

ถึงหนังเรื่องนี้จะมีท่าทีที่เป็นมิตรและเปิดรับคนทุกเพศทุกวัย แต่ก็อาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะด้วยจังหวะของหนังช่วงแรกที่ตัดค่อนข้างไว และยังอุดมไปด้วยเอฟเฟกต์เสียงยูทูบเบอร์อยู่ทั้งเรื่อง มันอาจทำให้บางคนรู้สึกรำคาญได้ ถ้าใครไม่ถนัดการดูหนังที่มีจังหวะรวดเร็ว และไม่ค่อยชอบเสียงเอฟเฟกต์ชวนหงุดหงิด ก็แนะนำว่าให้ผ่านเลย เพราะอาจพาลให้คุณเกลียดหนังเรื่องนี้ไปเลยก็ได้นะ

โดยรวมแล้วสายสืบหน้าฮ่าน เป็นหนังที่มีไอเดียตั้งต้นดี มีความพยายามที่จะเอาหนังตำรวจคู่หูมาผสมกับเรื่องราวตำนานความเชื่อของไทบ้าน แม้จะยังขาดเสน่ห์ในฐานะหนังสืบสวน แต่ความตลกก็ไม่เป็นรองใครเลยล่ะ ถ้าหากหนังวางบทดีกว่านี้ ลดความคอมเมดี้ลงหน่อย แวะข้างทางน้อย ๆ โดยโฟกัสเพียงแค่ความสัมพันธ์ฉันท์คู่หูของปกรณ์กับสืบศักดิ์ หนังจะดูมีชั้นเชิงและดูดีขึ้นมาก ๆ

แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟกต์ไปเสียทุกด้าน แต่ก็เหมาะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าดูช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าหากคุณไม่ได้ไปไหนเรียกลูกหลานมาหา เปิดสายสืบหน้าฮ่านนั่งดูกันทั้งครอบครัว ก็นับว่าเป็นอะไรที่เพลินเหมือนกันนะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook