The Lost City ยกขบวนความฮา ป่าระเบิด

นานเอาเรื่องที่เราไม่ได้เห็นนักแสดงอย่างแซนดรา บุลล็อกเล่นบทตลกโปกฮารั่วๆ กลับมาครั้งนี้เธอชวนหนุ่มแซ่บอย่าง แชนนิ่ง เททั่มมาร่วมขบวนความฮา กรามค้างในการตะลุยป่าหาขุมทรัพย์ที่สาบสูญ!

 

นักเขียนหัวรั้นกับนายแบบขึ้นปก!

ความอิรุงตุงนังเริ่มต้นขึ้นเมื่อลอเร็ตต้า เสจ (แซนดรา บุลล็อก) คือนักเขียนมากฝีมือ แต่เป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว งานเขียนของเธอเป็นนิยายสไตล์รัก-ผจญภัย ที่ตัวเอกต้องเดินทางไปยังสถานที่แปลกๆ โดยตัวเอกในนิยายของเธออย่างแดช ได้แรงบันดาลใจมาจากนายแบบหนุ่มหล่อแซ่บที่ถูกนำมาขึ้นปกหน้าหนังสืออย่าง อลัน (แชนนิ่ง เททั่ม)

แต่แล้วระหว่างที่กำลังเดินสายโปรโมทนิยายเล่มใหม่กับอลันอยู่นั้น ลอเร็ตต้าถูกลักพาตัวไปโดยมหาเศรษฐีหนุ่มสุดเพี้ยน (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) ผู้หวังว่าเธอจะสามารถนำพาเขาไปตามหาขุมทรัพย์ของนครโบราณที่หายสาบสูญ  ซึ่งลอเร็ตต้าได้กล่าวถึงไว้ในนิยายเล่มล่าสุดของเธอ ทำให้อลันต้องไปช่วยลอเร็ตต้า เมื่อจู่ๆ ทั้งคู่ต้องออกผจญภัยในป่าอันกว้างใหญ่ สองคู่หูที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ ต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตให้รอดจากหลายสิ่งหลายอย่าง และต้องค้นหาขุมทรัพย์โบราณ ก่อนที่มันจะสูญหายไปตลอดกาล

 

ทั้งแสดงนำทั้งโปรดิวซ์เอง!

นอกจากแซนดรา บุลล็อกจะแสดงนำแล้ว ตัวเธอเองก็ยังนั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ของหนังด้วยอีกต่างหา อันที่จริงตัวเธอนั้นอยากจะทำหนังแอ็คชั่นผจญภัยที่ใส่อารมณ์ขันเข้าไปในนั้น เธอรู้ดีว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำนั้นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน แต่การวางตัวละครเอกของเรื่องในกลายเป็นนักเขียนผู้ปิดกั้นตัวเองกับนายแบบชาย แค่ไอเดียนี้ก็สนุกแล้ว เพราะทั้งคู่ดูไม่เหมาะกับการเข้ามาอยู่ในป่าสักนิดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นป่าที่พวกเขาต้องมาอยู่ก็รายล้อมไปด้วยอันตรายที่พร้อมจะกลืนกินพวกเขา สองคนนี้เหมาะจะใช้ชีวิตอยู่ในห้องปิดทึบและมีเครื่องปรับอากาศมากกว่าด้วยซ้ำไป

เมื่อได้ไอเดียเพี้ยนๆแล้วแซนดราจึงติดต่อไปหาเพื่อนของเธอ ลิซ่า ชาซิน เพื่อให้เข้ามาช่วยเธอสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ พร้อมกับเซ็ธ กอร์ดอน ซึ่งเป็นคนคิดไอเดียให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย หลังจากที่ผู้คนหม่นเศร้ากับสถานการณ์โควิดมาหลายปี แซนดรารู้สึกได้ทันทีว่า The Lost City นั้นคือหนังป๊อปคอร์นที่ผู้ชมโหยหาภาพยนตร์ตลกฟอร์มยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนานที่ผู้คนต่างคิดถึง เพราะมันเต็มไปด้วยสถานการณ์สุดวายป่วงและฉากแอ็คชั่นที่ผู้ชมเองก็คาดไม่ถึง!

 

พี่น้องผู้กำกับน่าจับตา

โปรเจ็คป่วงๆต้องมาพร้อมกับผู้กำกับที่เคมีเหมาะสม แซนดราและชาซินได้มีโอกาส ดูภาพยนตร์เรื่อง Band of Robbers ซึ่งเป็นภาพยนตร์ผจญภัยแนวตลกที่เขียนบทและกำกับโดยพี่น้องตระกูลนี อดัมและแอรอน ในภาพยนตร์เรื่องนั้น ฮัคเกิล เบอร์รี่ ฟินน์ และทอม ซอว์เยอร์ ตัวละครที่ทุกคนชื่นชมจากผลงานของ มาร์ก ทเวน ในเวอร์ชั่นที่เป็นผู้ใหญ่ ต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตในยุคสมัยใหม่ ผลงานชิ้นนี้เข้าตาแซนดราจนต้องเรียกตัวผู้กำกับมาคุยว่าพวกเขาสนใจจะกำกับ The Lost City ไหม และแน่นอนว่าพวกเขาได้กำกับมันในที่สุด

 

เมื่อนักเขียนนิยายต้องกลายมาเป็นนักผจญภัย (แบบไม่เต็มใจ)

 จุดเริ่มต้นแรกของ The Lost City เริ่มมาจากเซ็ธ กอร์ดอน ที่ได้ไปเข้าร่วมการประชุมนิยายแนวรักประโลมโลก ระหว่างที่ตัวเองกำลังกับหนังสารคดีชิ้นหนึ่ง เขาได้พบว่าบรรดาผู้ชายที่เข้าร่วมประกวดการหว่านเสน่ห์ของตัวเองและแสดงทัศนคติเกี่ยวกับความโรแมนติก เพื่อให้ตัวเองได้รับคัดเลือกถ่ายแบบเพื่อขึ้นปกนิยายเรื่องนั้นๆ ดูเหมือนว่าบรรดาผู้เข้าร่วมงาน (ซึ่งเป็นบรรดาหญิงสาว) จะดูมีความสุขและสนุกสนานกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวที

อันที่จริงตัวเซ็ธ กอร์ดอนเองเหมือนจะสัมผัสได้ว่าจริงๆแล้วนักเขียนเหล่านี้พยายามประชดประชันเรื่องความรักอันแสนบริสุทธิ์ เป็นอุดมคติ แต่เอาเข้าจริงแล้วบรรดานักเขียนพวกนี้ก็ยังทำมาหากินด้วยการแต่งนิยายประโลมโลกอยู่ดี นั่นเลยกลายเป็นที่มาของตัวละครอย่างลอเร็ตต้าที่เหนื่อยหน่ายกับความรักเต็มทน ได้มาพบกับนายแบบที่ไม่ได้ฉลาดหรือมีสมองมากเท่าไหร่นัก  มิหนำซ้ำเธอก็ไม่เคยรู้สึกดีกับเขาเลยด้วยซ้ำไป จนกระทั่งวันหนึ่งชายคนนี้กลับกลายเป็นคนที่กอบกู้ทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้

สิ่งที่ทำให้ตัวละครลอเร็ตต้าน่าสนใจ คือเธอเป็นแม่ม่าย หลังจากที่สามีนักโบราณคดีได้จากโลกนี้ไป เธอกลายเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว หมกอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่อุดมไปด้วยความทรงจำ เธอได้จินตนาการถึงเรื่องราวการผจญภัยโดยที่ถ่ายทอดออกมาเป็นนิยาย

ในขณะที่ตัวละครอย่างแดช (ตัวละครในนิยายของลอเร็ตต้า) เป็นนายแบบรูปหล่อตามสูตรสำเร็จ เขาร่าเริง กล้าหาญ แต่อลัน (แชนนิ่ง) คือผู้ชายที่ซื่อตรง พึ่งพาได้ และภักดี และอาจจะออกแนวซื่อ(บื้อ) ด้วยซ้ำไป ตัวละครอย่างอลัน ค่อนข้างขี้อายด้วยซ้ำตอนที่เขารับงานนายแบบครั้งแรก แต่หลังจากนั้น เขาเกิดความเข้าใจและรู้สึกว่าโอกาสที่เขาได้รับมันสวยงามแค่ไหนในการได้สวมบทบาทเป็นตัวละครตัวนี้ในนิยายของลอเร็ตต้า

The Lost City คือหนังตลก-ผจญภัยฟอร์มยักษ์ที่เราคิดถึงและไม่ควรพลาดในการชมในโรงภาพยนตร์!