Benedetta แม่ชี ดิลโด และสุดยอดนิพาน โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

Benedetta แม่ชี ดิลโด และสุดยอดนิพาน โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

Benedetta แม่ชี ดิลโด และสุดยอดนิพาน โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนัง “แม่ชีเลสเบียน” ที่ “โชว์เรือนร่างผู้หญิงอย่างโจ๋งครึ่ม” นี่น่าจะเป็นคำอธิบายภาพยนตร์เรื่อง Benedetta ที่เรามักได้ยินในรีวิวต่างๆ ตั้งแต่หนังออกฉายที่เทศกาลเมืองคานส์เมื่อปีกลาย และเข้าโรงฉายในไทยเมื่อต้นปี และตอนนี้สามารถดูได้ใน Netflix (แบบไม่ตัดทอนใดๆ เผื่อสงสัย) นับเป็นโอกาสดีที่จะได้พูดคุยกันถึงหนังอื้อฉาวเรื่องนี้อีกสักครั้ง

ที่ตามเพจหนังมากมายอธิบายว่า Benedetta เป็น “หนังแม่ชีเลสเบียนโชว์ผู้หญิงมีอะไรกัน” ก็ไม่ผิดจากความเป็นจริง แต่ในขณะเดียวกัน มันเป็นคำอธิบายหนังที่ช่างตีหัวเข้าบ้าน ขี้เกียจ และมองข้ามองค์ประกอบและความตั้งใจอื่นๆ ของคนทำหนัง และเสียโอกาสในการพิจารณาถึงประเด็นต่างๆ ที่อ้าซ่าอยู่ในหนังมากไปกว่าเรือนร่างของนักแสดงสาวทั้งสอง

Benedetta เป็นหนังของผู้กำกับ พอล เวอร์โฮเว่น ที่ท้าทายคนดูและเซ็นเซอร์มาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนด้วยหนังอย่าง Basic Instinct และ Showgirl รวมทั้งล้อเลียนความบ้าอำนาจทางทหารด้วยหนังอย่าง Starship Troopers และยังเคยทำหนังไซไฟ The Hollow Man และหนังสงคราม Black Book ก่อนหน้า Benedetta เวอร์โฮเว่นทำหนังที่น่าจะดีที่สุดในชีวิตเรื่อง Elle อันว่าด้วยผู้หญิงที่ถูกข่มขืนและปฏิกริยาอันแปลกประหลาดน่าฉงนของเธอที่เกิดขึ้นตามมา จะสังเกตได้ว่าหนังส่วนใหญ่ของเวอร์โฮเว่น เกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ท้าทายกรอบคิดของสังคมว่าด้วยเรื่องเพศและบทบาทชาย-หญิง ทั้งในด้านอารมณ์และร่างกาย หนังของเขามักมีฉากวาบหวิวโป๊เปลือยของผู้หญิง ทั้งที่ใช้ภาษาหนังแบบหนังโป๊ (คือถ่ายฉากโป๊เพื่อทำให้เกิดอารมณ์) และทั้งที่กำกวมในความตั้งใจ จนบางคนอาจจะมองว่าฉากโป๊ของเวอร์โฮเวนเป็นการโป๊แบบมอบอำนาจให้ผู้หญิงในการตัดสินใจเรือนร่างและชาตะชีวิตของตัวเอง – ประเด็นเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันในหมู่คนที่ศึกษาหนังของเขามาตลอด

Benedetta เข้าสูตรที่ว่าเป๊ะ หนังเป็นเรื่องของแม่ชีชื่อ เบเนเดตตา (เวอร์จินี เอฟฟิรา) ในสำนักคอนแวนต์ในเมืองเปชชาของอิตาลีในศตวรรษที่ 17 เบเนเดตตาเคร่งศาสนาและเชื่อว่าเธอเป็น “เจ้าสาวของพระเยซู” หมายถึงการปวารณาตัวตนให้กับพระเจ้า (ถึงแม้คำว่า “เจ้าสาว” จะส่อนัยทางเพศอยู่เต็มๆ) เหตุการณ์มาพลิกผันเมื่อวันหนึ่ง หญิงสาวชื่อบาโตโลเมีย (ดาฟเนอ พากาเทีย) ขอเข้ามาพึ่งใบบุญในสำนักคอนแวนต์ ไม่นานจากนั้น เบเนเดตตาและบาโตโลเมีย เกิดชอบพอกันและเร่งเร้าแรงเสน่หาซึ่งกันและกันจนเล่นเอาผ้าคลุมแม่ชีกระเจิง เลยเถิดไปถึงมีมีสัมพันธ์ทางเพศ และนำไปสู่ฉากที่หวาดเสียวและยั่วล้อศาสนาคริสต์อย่างไม่อายฟ้าดิน คือการทำดิลโดไม้จากรูปปั้นพระแม่มารี เพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมบนเตียงของนางชี

ทั้งหมดนี้คือสไตล์ของผู้กำกับเวอร์โฮเว่น (ที่ตอนนี้อายุ 80 แล้ว) ที่ใช้ความโฉ่งฉ่าง จะแจ้ง ไม่มีเขินไม่มีอ้อม ทั้งในการโชว์เนื้อหนังมังสา ฉากเซ็กส์อันดุเดือด เพื่อตั้งคำถามและท้าทายศูนย์รวมอำนาจ ซึ่งในที่นี้คือศาสนาคริสต์และการครอบครองจิตใจและร่างกายมุนษย์ของศาสนจักร Benedetta เป็นหนังที่ทั้งต้องการล้อเลียนและเปิดโปงลักษณะมือถือสากปากถือศีลของศาสนา และทั้งหลงใหลในภาพลักษณ์ของศาสนาคริสต์ไปพร้อมๆ กัน (เช่นไม้กางเขน ภาพพระเยซู ชุดแม่ชี ฯลฯ) เวอร์โฮเว่นไม่ได้ “เกลียด” ศาสนา แต่รู้จักศาสานาและคิดถึงมันมากพอที่จะกล้าตั้งคำถามสุดโหด ด้วยวิธีการที่ไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม – เช่นเดียวกับที่เขาทำมาตลอดในหนังแทบทุกเรื่อง

 สิ่งที่หนังพยายามจะบอกคือ ความสุขสุดยอดทางผัสสะอันมาจากเซ็กส์ บางครั้งอาจจะไม่ต่างอะไรจากความสุขสุดยอดในการเข้าถึงนิพพาน หรือเข้าถึงพระเจ้า อย่างที่เบเนเดตตาคิดว่าเธอทำได้เมื่อเธอเห็นนิมิตพระเยซู

เรื่องราวในหนังมีมากกว่านั้น เบเนเดตตาขัดแย้งกับคุณแม่อธิการ นำไปสู่การมีคนตายอย่างสยดสยอง และการที่บิชอปตำแหน่งสูงต้องเดินทางมาที่เมืองนี้เพื่อเคลียร์ปัญหา หนังไม่ได้พูดแค่เรื่องแม่ชีเลสเบียน แต่พูดถึงการกดขี่ผู้หญิงโดยระบบของศานจักร การใช้ความเชื่อและข้ออ้างความศรัทธาเพื่อทำร้ายคนที่แหกกฎเกณฑ์และท้าทายอำนาจ

คนที่เกลียดหนัง Benedetta หรือไม่ชอบหน้าเวอร์โฮเวน สามารถให้เหตุผลได้ง่ายๆ เลยว่า หนังเพียงแค่ “แสร้งว่า” ต้องการเรียกร้องความเทียมทางเพศให้ผู้หญิงและแม่ชี แต่เอาเข้าจริงกับมีฉากเซ็กส์ที่ขายเรือนร่างและเติมจินตนาการแบบผู้ชายที่ต้องการดูหนังโป๊ พูดง่ายๆ คือเรียกร้องเรียกประเด็นพลังหญิงโดยทำให้ผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศไปพร้อมๆ กัน ประมาณว่าเวอร์โฮเวนก็เป็นพวกมือถือสากปากถือศีลพอๆ กับคนที่เขาว่านั่นเอง ประเด็นคำวิจารณ์นี้เวอร์โฮเว่นรู้และถูกด่ามาตลอดชีวิตการทำหนัง โดยเฉพาะตอนทำหนังเรื่อง Elle ที่เขาเล่นประเด็นแรงมากเรื่องการข่มขืน ในยุคที่กระแส #Metoo และการเรียกร้องการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมทางเพศเป็นวาระของโลกสมัยใหม่ แต่เขาไม่แคร์ ไม่สน และไม่เคยถอยหลังจากวิธีการทำหนังที่สุ่มเสียง ล่อเป้า และข้ามเส้นไปมาระหว่างการฉกฉวยผลประโยชน์ (เช่นการแสดงฉากเซ็กส์แรงๆ ที่ขายได้) กับการวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายอำนาจ (ศาสนา กองทัพ หรือผู้ชาย) บางครั้งแทบจะทำสองอย่างนั้นไปพร้อมๆ กัน

Benedetta เป็นหนังที่มีอะไรมากกว่า “แม่ชีเลสเบียนมีเซ็กส์กัน” แต่เป็นหนังของผู้กำกับที่ยังคงมีพลังงานในการสร้างความวายป่วง เตลิดเปิดเปิง และตั้งคำถามหนักหน่วงกับสิ่งที่คนจำนวนมากยึดมั่นถือมั่น คนทำหนังแบบนี้อยู่ยุโรปน่ะดีแล้ว เพราะถ้าอยู่ไทย คงไม่มีโอกาสได้สร้างหนังสักเรื่องตลอดทั้งชีวิต 

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ Benedetta แม่ชี ดิลโด และสุดยอดนิพาน โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

Benedetta
Benedetta
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook