Heartstopper หนุ่มคนนั้นที่สะกิดใจผมสั่น ซีรีส์ใจฟูจาก Netflix
“อาการใจสั่นจนหัวใจจะหยุดเต้น” มักจะเกิดขึ้นกับวัยรุ่นที่พบว่าตัวเองกำลังมีความรัก อาการนี้เกิดขึ้นกับชาร์ลี สปริง (โจ ล็อก) นักเรียนมัธยมปลายที่พบว่าตัวเองกำลังแอบชอบหนุ่มนักกีฬารักบี้ดาวเด่นอย่างนิก เนลสัน (คิท คอนเนอร์)
Heartstopper คือออริจินัล Netflix ดัดแปลงมาจากนิยายภาพของอลิซ โอสแมนในชื่อเดียวกัน แต่ว่าตัวหนังสือเล่มแรกนั้นเป็นนิยายร้อยแก้วถูกตีพิมพ์ในปี 2014 บอกเล่าเรื่องราวของโทริ สปริง พี่สาวของชาร์ลีนั่นเอง โดยที่เรื่องราวของนิคและชาร์ลีนั้นเป็นเพียงตัวละครฉากหลัง
จนกระทั่งปี 2015 นิยายเล่มถัดมาได้โฟกัสไปที่ตัวละครอย่างนิคและชาร์ลี ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวหลังจากที่ทั้งสองคนได้คบหากันยาวนานถึงสองปี แต่ด้วยความที่นิคมีอายุมากกว่าชาร์ลี ทำให้เขาอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน จากชีวิตเด็กมัธยม เขากำลังจะต้องย้ายไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย นำไปสู่คำถามที่ว่าทั้งสองคนจะประคับประคองความสัมพันธ์ของตัวเองให้ไปต่อได้อย่างไร
ไม่นานหลังจากปี 2015 เมื่ออลิซ โอสแมนได้ทำงานให้กับเว็บไซต์การ์ตูนออนไลน์ เธอจึงปล่อยผลงานที่บอกเล่าเรื่องราวที่ว่าชาร์ลีและนิคกันครั้งแรกได้อย่างไร ความสัมพันธ์ในช่วงแรกของทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้าง ในรูปแบบกราฟฟิกโนเวล ซึ่งถูกดัดแปลงให้กลายเป็นซีรีส์ Netflix ในเวอร์ชั่นที่เราได้รับชมกันนี่เอง ถ้าคุณอยากลองอ่านนิยายภาพสามารถตามไปอ่านได้ที่ https://www.patreon.com/aliceoseman
ความรักชวนหวั่นไหวเกิดได้กับทุกคน
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์เล่าถึงชาร์ลี สปริง (โจ ล็อก) นักเรียนมัธยมปลายในโรงเรียนชายล้วนที่คัมมิ่งเอาท์ว่าตัวเองเป็น “เกย์” ส่งผลให้เขาถูกล้อเลียนและกลั่นแกล้งจากเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งวาจาหรือขว้างปาสิ่งของใส่ อย่างไรก็ตามชาร์ลีได้แอบคบหาแบบลับๆกับเบน โฮป (เซบาสเตียน ครอฟต์) อารมณ์แอบนัดเจอกันในห้องสมุดที่ไม่มีใครจะเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่
ชาร์ลีเองก็ไม่ได้รู้สึกการคบแบบหลบๆซ่อนๆเท่าไหร่นัก ลึกลงไปในใจแล้วชาร์ลีก็อย่างจะเลิกลาเบนซะเต็มแก่ ระหว่างนั้นเองเมื่อชาร์ลีตัดสินใจมาเข้าชมรมพิเศษ เขาได้มีโอกาสรู้จักกับนิก เนลสัน (คิท คอนเนอร์) แถมดูเหมือนว่าชาร์ลีจะตกหลุมรักหนุ่มนักกีฬารักบี้อย่างจัง
ระหว่างคาบพลศึกษา ชาร์ลีกำลังวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ทักษะการวิ่งไวของเขาดันไปเข้าตาของนิก เนลสัน ซึ่งทีมรักบี้ของโรงเรียนกำลังมองหาคนจะมาร่วมทีมเป็นตัวสำรองพอดิบพอดี ทำให้ชาร์ลีได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมทีม ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของเพื่อนชาร์ลีที่มักจะโดนแก๊งนักกีฬากลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ ทางฝั่งเพื่อนร่วมทีมของนิคก็มองว่าชาร์ลีดูอ่อนแอ ปวกเปียกมิหนำซ้ำ “เพศวิถี” ที่ชาร์ลีประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นเกย์ยังกลายเป็นข้อครหาที่ไม่อยากจะให้เขามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีม
แม้การตัดสินใจเข้ามาร่วมทีมรักบี้ แรงจูงใจแรกของชาร์ลีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยากจะใกล้ชิดกับนิค แต่เขายังกังขาในความสามารถของตัวเอง แต่หลังจากที่ชาร์ลีได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะที่ต้องใช้ในกีฬารักบี้ ตัวเขาก็พบว่าตัวเองมีความสามารถในการเล่นกีฬาดังกล่าวไม้แพ้เพื่อนๆคนอื่นในทีมเลยแม้แต่น้อย
ความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างชาร์ลีและนิคได้ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ทางฝ่ายชาร์ลีเองก็ไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วนิคนั้น อยากเป็นแค่เพื่อนสนิทกับเขาหรือจริงๆแล้วนิคเองก็มีใจและเป็นห่วงเป็นใยชาร์ลีไม่แพ้กัน ในทุกกิจกรรมทั้งสองคนเหมือนจะ “คลิก” กันอยู่เสมอ รายละเอียดในชีวิตเล็กๆน้อยๆที่พวกเขาทำให้กัน ล้วนแล้วแต่กลายเป็นสิ่งที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากยิ่งขึ้น
ในหุบห้วงจังหวะที่ทั้งสองส่งมอบสายตาแห่งความห่วงใยให้กัน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเห็นหรือไม่ก็ตาม โมเมนต์เหล่านี้ทำให้คนดูหัวใจฟูไปตามๆกัน เพราะมันได้สะท้อนให้เราเห็นว่า การได้รับความเป็นห่วงนั้น มีคุณค่ากับชีวิตของคนๆหนึ่งมากแค่ไหน
Heartstopper อาจจะไม่ได้พูดแง่มุมใหม่ๆสำหรับประเด็น LGBTQ+ สิ่งที่ตัวละครในเรื่องยังคงต้องเผชิญยังอยู่ในหมวดการก้าวข้ามผ่านวัย (Coming of age) ตัวละครอย่างชาร์ลีที่เปิดตัวเองว่าเป็นเกย์ เขาอาจจะถูกบูลลี่ในเรื่องเพศวิถี ถูกกลั่นแกล้ง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและโฮปไปไม่รอด เนื่องจากอีกฝ่ายพยายามปกปิดสิ่งที่ตัวเองเป็น เพียงเพราะกลัวว่าถ้าหากโฮปเปิดตัวแล้วจะกลายเป็นเป้าโจมตีของคนอื่นๆในโรงเรียน
ในขณะที่ทางฝั่งนิคเอง เขาก็ไม่แน่ใจในเพศวิถีของตัวเองเช่นกันว่าตกลงแล้ว เขาชอบผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เป็นไปได้ไหมที่เขาจะชอบทั้งสองเพศ แต่ในโมเมนต์นี้เขากลับตกหลุมรักเด็กหนุ่มที่ชื่อชาร์ลี เพราะในทุกครั้งที่เขาอยู่ด้วยกัน เหมือนมีดอกไม้บานอยู่รอบตัว มีประกายไฟแห่งความหวังห่อหุ้มตัว
การเผชิญหน้ากับการยอมรับตัวเอง การถูกยอมรับจากคนอื่นรอบตัว การเป็นตัวของตัวเอง การยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น ความหวังและความเชื่อมั่นในความรักของตัวเองคือประเด็นหลักๆที่ ซีรีส์อย่าง Heartstopper มอบให้กับผู้ชมตลอดทั้ง 8 ตอน ตอนละประมาณ 30 นาที ตลอดทั้งซีซั่นแรก
ใครกำลังมองหาซีรีส์ที่ทำให้เราหัวใจฟูและย้อนวัยกลับไปเป็นวัยรุ่น วัยเรียนอีกครั้ง Heartstopper อาจจะเป็นคอนเทนท์จาก Netflix ที่คุณกดสตรีมในช่วงสุดสัปดาห์นี้