สำรวจวายร้ายในหนัง Doctor Strange 2 มี "ใคร" หรือ "สิ่งใด" บ้าง

สำรวจวายร้ายในหนัง Doctor Strange 2 มี "ใคร" หรือ "สิ่งใด" บ้าง

สำรวจวายร้ายในหนัง Doctor Strange 2 มี "ใคร" หรือ "สิ่งใด" บ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Doctor Strange in the Multiverse of Madness หนังซูเปอร์ฮีโร่ลำดับที่ 28 ในจักรวาล MCU ผลงานการกำกับของแซม ไรมี่ ที่มีตัวละครเด่นอย่างสตีเฟ่น สเตรนจ์และวันด้า แม็กซิมอฟฟ์ ที่กลายร่างเป็นสการ์เล็ต วิทช์ผู้มีเวทมนตร์คาถาในระดับทำลายล้าง! แต่ตกลงเธอเป็นตัวร้ายจริงๆหรือ?

มีการเปิดเผยเรื่องราวในซีรีส์ WandaVision และ Doctor Strange in the Multiverse of Madness

สการ์เล็ต วิทช์เป็นใครกันแน่

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์ WandaVision นั้นได้ปูทางให้ผู้ชมได้เรียนรู้ว่าทำไมวันด้า แม็กซิมอฟฟ์จึงได้เปลี่ยนไปเป็นสการ์เล็ต วิทช์ ไม่ใช่แค่เพียงแต่พลังและรูปโฉมรวมไปถึงเครื่องแต่งกายที่เปลี่ยนไปเท่านั้น แต่สการ์เล็ต วิทช์ยังเผยให้คนดูเห็นอีกว่าเธอถูกครอบงำจากอำนาจมืดบางอย่างจนนำไปสู่ความโกลาหล

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวสต์วิลล์ เมื่อวันด้าตัดสินใจใช้พลังพิเศษของตัวเองเปลี่ยนเมืองดังกล่าวให้กลายเป็นพื้นที่ในจินตนาการของตัวเอง เธอมีชีวิตครอบครัวอันแสนสุขสันต์กับวิชชั่นและมีลูกชายด้วยกันสองคน  โดยที่ระหว่างนั้นเองอกาธา ฮาร์คเนส แม่มดที่สามารถดูดซับพลังได้จากแม่มดคนอื่นๆได้แฝงตัวและแกล้งเป็นเพื่อนบ้านของวันด้า เพื่อปั่นหัวเธอและอยากจะได้วิธีการที่เธอสามารถใช้พลังพิเศษแบบนั้น มาเพิ่มพลังให้กับตัวเอง

ในตอนที่ 8 ของซีรีส์อกาธาที่จับตัวลูกๆของวันด้าเอาไว้ได้กล่าวกับเธอว่า “เธอไม่รู้หรอกว่าตัวเองนั้นอันตรายแค่ไหน เธอควรจะเป็นแค่ตำนาน สิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างสิ่งต่างๆได้ในทันที แต่เธอดันเอามันไปใช้ในการสร้างอาหารมื้อค่ำ ทั้งหมดทั้งมวลที่เธอสร้างขึ้นมามันคือเคออสเมจิค วันด้าและนั่นทำให้เธอเป็นสการ์เล็ต วิทช์” นอกจากนี้ในซีรีส์เองยังพาวันด้าย้อนห้วงเวลากลับไปในตอนที่เธอยังเป็นเด็กอีกด้วย

แม้คนดูอาจจะเคยคิดว่าจริงๆแล้ววันด้าได้รับพลังพิเศษมาจากไมน์สโตน แต่นั่นเป็นแค่เพียงพลังย่อยๆในสมการนี้ อันที่จริงแล้ววันด้ามีพลังมาตั้งแต่เกิด นั่นอาจจะทำให้เราสามารถระบุได้ด้วยซ้ำไปว่าจริงๆวันด้าเองถือเป็นมิวแตนท์ (มนุษย์กลายพันธุ์) ในจักรวาลมาร์เวลมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

ตัวละครวันด้าเองมีความเชื่อมโยงกับในเวอร์ชั่นคอมิกส์ พลังพิเศษที่เธอสามารถควบคุมได้นั้นใช้เปลี่ยนแปลงมัลติเวิร์สได้ตามความปรารถนา (เรื่องราวเหล่านี้เคยปรากฏอยู่ในเส้นเรื่องของคอมิกส์ House of M) ความโศกเศร้าของเธอสามารถใช้เปลี่ยนจักรวาลที่ตัวเองเคยอยู่ด้วยการเสกเวทมนตร์ล้างบางมนุษย์กลายพันธุ์ให้หายไปจากจักรวาลมาแล้ว

ในซีรีส์ WandaVision เองได้หยิบความโศกเศร้าของวันด้ามาใช้เป็นแกนหลัก เพื่อให้เธอเนรมิตชีวิตที่ตัวเองปรารถนาขึ้นมา แต่ในตอนท้ายของเรื่องราวเราก็จะได้เห็นว่าวันด้ากำลังอ่านคัมภีร์ดาร์คโฮล ซึ่งมันมีอานุภาพในการควบคุมจิตใจและจิตวิญญาณของเธอด้วย

คัมภีร์ดาร์คโฮล อานุภาพและการปรากฏขึ้นบนจอ

 

คัมภีร์ดาร์คโฮลเป็นตำราโบราณที่รวบรวมคาถามืดเอาไว้มากมาย โดยในตอนท้ายของซีรีส์ WandaVision เราจะได้เห็นว่าสการ์เล็ต วิทช์ กำลังใช้มันเพื่อค้นหาลูกๆของเธออย่างบิลลี่และทอมมี่ ในจักรวาลคู่ขนานอื่นๆ อันที่จริงแล้วคัมภีร์นี้เคยปรากฏในจอแก้วมาแล้วในซีรีส์ Marvel’s Agents of S.H.I.E.L.D. ซีซั่นที่ 4 เมื่อโกสต์ไรเดอร์พยายามช่วยเจ้าหน้าที่ชีลด์ทำความเข้าใจถึงอานุภาพและมนต์ดำของคัมภีร์นี้ เพื่อหยุดยั้งวันสิ้นโลก

คัมภีร์นี้ยังเคยปรากฏอยู่ในซีรีส์ Runaways เมื่อตัวละครอย่างมอร์แกน (อลิซาเบธ เฮอร์เลย์) พยายามใช้มันเพื่อครองโลก ซึ่งผลข้างเคียงของการใช้คัมภีร์นี้จะทำให้ผู้อ่านถูกครอบงำจิตใจ แม้ว่าดาร์คโฮลจะเต็มไปด้วยความรู้ไม่รู้จบ คาถา รวมไปถึงวิธีการที่จะทำให้ผู้อ่านบรรลุเป้าหมาย แต่คัมภีร์นี้ก็สามารถอ่านใจของผู้อ่านได้อย่างลึกซึ้ง ว่าความปรารถนาเบื้องลึกของพวกเขาคืออะไร และทำให้ผู้อ่านได้ในสิ่งสิ่งนั้น แต่เมื่อฝันของพวกเขาเป็นจริงขึ้นมา มันก็มีราคาต้องจ่าย (แถมราคาแพงเสียด้วย)

นอกจากนี้คัมภีร์ดาร์คโฮลยังช่วยเพิ่มพลังให้กับผู้อ่านแบบในซีรีส์ WandaVision เมื่ออกาธาได้ใช้คัมภีร์นี้ปลดเปลื้องภาพลวงตาที่วันด้าได้สร้างสนามพลังขึ้นมาปกคลุมเมืองเวสต์วิลล์ และเมื่อวันด้าเลือกที่จะศึกษามันต่อทำให้พลังของเธอใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น และมันอาจจะส่งผลให้พหุจักรวาลหรือจักวาลคู่ขนานอื่นๆมีโอกาสแตกสลายได้เลยทีเดียว

การ์แกนทอส

อีกหนึ่งตัวร้ายที่ปรากฏตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง ซึ่งอสูรกายตัวนี้ในคอมิกส์มีชื่อว่าชูมา-โกราธ คู่ปรับคลาสสิกของสตีเฟ่น สเตรนจ์ ซึ่งการปรากฏตัวของตัวละครนี้ในหนัง มันมาเพื่อช่วงชิงตัวของอเมริกา ชาเวซไปให้วันด้า เนื่องจากวันด้าต้องการพลังพิเศษในการเดินทางทะลุมิติของเธอเอาไปเป็นของตัวเอง

แม้ว่าจะเป็นฉากเปิดเรื่องที่ไม่ยาวนัก แต่ก็ถือว่าเป็นฉากไล่ล่าที่ดูสนุกสนาน เป็นการเปิดตัวละครใหม่อย่างอเมริกา ชาเวซ อารมณ์ขัน รวมไปถึงสไตล์ในการกำกับภาพยนตร์ของแซม ไรมี่อีกด้วย โดยเจ้าตัวละครปลาหมึกตาเดียวนี้ปรากฏตัวในเวอร์ชั่นคอมิกส์ตั้งแต่ปี 1969 The Sub-Mariner #13 ผลงานการคิดของรอย โทมัสและมาเรีย เซเวอริน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook