Sexy Mama เรียลลิตี้ป๊วะปัง ที่แซ่บและจริตสับไม่แพ้ The Face Thailand
หลังจากที่รายการเรียลลิตี้จริตจัดจ้านแบบ The Face Thailand (3 ซีซั่นแรก) ห่างหายไปจากหน้าจอโทรทัศน์ ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรียลลิตี้ในแนวทางเดียวกัน ให้ผู้ชมได้เสพย์งานอรรถรสแบบที่เรากล่าวถึง จนกระทั่ง Sexy Mama ที่หยิบเอาผู้หญิงในเมืองไทยมาแข่งขันกันเองเพื่อครอบครองตำแหน่งมาม่าตัวท็อป!
ขึ้นชื่อว่า “กันตนา” แล้วรายการเรียลลิตี้จริตสับๆ ทำออกมาดูสนุกแทบทุกรายการไม่ว่าจะเป็น The Face Thailand (ที่ซีซั่นหลังๆอาจจะดูไม่เป็นโล้เป็นพายก็ตามที) หรือรายการอย่าง Drag Race Thailand ที่แม้ว่าจะโดนแฟนๆของรายการต้นฉบับก่นด่ากันพอสมควรก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งสองรายการนี้ ทำให้การประกวดเพื่อเฟ้นหา “ผู้ชนะ” ในฐานะของนางแบบและแดร็กควีน คึกคักกันอยู่พักใหญ่ โดยเฉพาะรายการหลังที่ยังเปิดโลกในสังคมไทยได้รู้จักกับคำว่า “แดร็ก” อีกต่างหาก
รายการอย่าง Sexy Mama วางโจทย์ในการค้นหาไอคอนตัวแม่ โดยบรรดาผู้หญิงจากมากมายหลายหลากอาชีพจำนวน 20 คน จะถูกคัดเลือกโดยมาดาม อันประกอบไปด้วยมาดามแคท – แคทรียา อิงลิช มาดามฮาน่า-ทัศนาวลัย และ มาดามแพนเค้ก-เขมนิจ ที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำกับผู้เข้าแข่งขันในแต่ละอีพี นอกจากนี้ทั้งสามคนยังต้องเป็นกรรมการในการลงคะแนนตัดสินคัดผู้เข้าแข่งขันออกจากรายการในแต่ละสัปดาห์อีกด้วย
สิ่งที่ Sexy Mama ตามหาคือรายการนี้พยายามจะนำเสนอนิยามของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นช้างเท้าหลังเพียงอย่างเดียว ต้องกล้าคิด กล้าทำ นำเสนอความสามารถของตัวเอง มีทั้งความสวยทั้งภายนอกและภายใน วัดกันที่ความมั่นใจไม่ใช่แค่รูปร่างอย่างเดียว และที่สำคัญไม่จำกัดอายุ! เพราะแม้ว่าจะขึ้นเลข 5 แล้วก็ยังสวยเผ็ดจนคนในวัยเลข 3 อาจจะต้องตะลึง
แม้ว่าตอนนี้รายการจะเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันแล้วเป็นที่เรียบร้อย เพราะเหลือผู้เข้าแข่งขันอยู่แค่เพียง 5 คนสุดท้ายในอีพีที่ 11 แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยชมรายการนี้มาก่อนอยากจะให้ลองหวนกลับไปเริ่มไล่ตามดูตั้งแต่อีพีแรกที่ผู้หญิงแต่ละคนต้องมานำเสนอตัวตนของตัวเองให้มาดามทำความรู้จัก ซึ่งใน 20 คนนั้นมีอาชีพที่หลากหลาย มีตัวตนที่โดดเด่นไล่เรียงตั้งแต่แม่บ้าน เทรนเนอร์ เจ้าของธุรกิจ แม่ค้าออนไลน์ ดีไซเนอร์ ครูสอนการแสดง อดีตแดนเซอร์ เจ้าของคณะเชิดสิงโต ฯลฯ
แค่เพียงเควสในตอนแรกที่บรรดาผู้เข้าแข่งขันจะจับคู่กันเพื่อแข่งกีฬา เพื่อให้มาดามเลือกผู้เข้าแข่งขันที่ได้ไปต่อ แต่ในอีพีที่ 2 นี้ นอกจากผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำเควสในเรื่องการเลือกอาหารการกิน ก่อนที่จะพวกเธอจะโดนเซอร์ไพรส์ว่า กินไปแค่ไหนต้องออกกำลังกายเพื่อเอาออกเท่านั้น พวกเธอต้องวิ่งต้านแรงลูกตุ้มเพื่อกดกระดิ่ง เรียกได้ว่าภารกิจที่เหล่ามาม่าต้องทำนั้นดุเดือดและท้าทายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยผู้ที่ได้คะแนนจากคณะกรรมการเป็น 3 อันดับแรกจะอยู่ในกลุ่ม Top 3 เพื่อการันตีว่าทั้งสามคนนี้จะไม่ถูกส่งเข้าไปในห้องคัดออก ส่วนผู้เข้าแข่งขันที่เหลือจะต้องไปแข่ง Sassy Fight กันต่อซึ่งในแต่ละสัปดาห์ ภารกิจก็จะมีความท้าทายทั้งสมอง ความรู้ ความสามารถ เพื่อให้ตัวเองไม่ติดอยู่ใน Bottom 3 หรือผู้มีคะแนนน้อยที่สุด 3 คน (หรืออาจจะมากกว่านั้น) และต้องเข้าไปในห้องคัดออกเพื่อให้มาดามทั้งสามคนตัดสินใจอีกครั้งว่าใคร สมควรจะต้องเดินออกจากรายการในสัปดาห์นั้นๆ
ความน่าสนใจคือจริตแบบผู้หญิงหลายๆคนมาอยู่ด้วยกัน อาจจะมีความโหวกเหวกโวยวาย ไม่แพ้รายการแบบ The Face Thailand วิธีการตัดต่อรายการก็ยังคง เน้นการปะทะคารมของผู้เข้าแข่งขัน การคอมเมนต์ของมาดามที่จัดจ้านดุเดือด อย่างไรก็ตามทีบรรดาผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน ก็มีไหวพริบปฏิภาณที่ดี เพราะยามที่พวกเธอถูกสัมภาษณ์เพื่อให้พูดถึงคนอื่นๆ ก็มีวิธีการหลีกเลี่ยงการถูกตัดต่อคำพูดให้กลายไปเป็นดราม่าแบบที่ผู้เข้าแข่งขัน The Face Thailand เคยโดนกันมา
นอกจากเรื่องการแข่งขันที่ดุเดือด ความโหด ความยากของตัวรายการกันตนาที่คิดเควสแต่ละตอนมาให้ผู้เข้าแข่งขันงัดเอาความสามารถของตัวเองออกมา ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือหางยาว การเล่นแอเรียลฮูป ถ่ายแฟชั่น เต้นคัฟเวอร์เพลงเกาหลี จัดบ้าน ช้อปปิ้งหาเสื้อผ้าเพื่อไปร่วมงานปาร์ตี้ เรียกได้ว่ารายการนี้เฟ้นหาผู้หญิงที่ทำได้ทุกสกิลรอบตัวจนเราเองก็แอบเซอร์ไพรส์ความสามารถของผู้เข้าแข่งขันหลายคน ที่เรียกได้ว่า “ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ความสนุกรายการนี้ไม่ได้อยู่ตรงบรรดากติกาที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบใน The Face ซีซั่นหลังๆ แต่เป็นการวัดกันด้วยความสามารถล้วนๆ ทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับการแข่งขันจริงๆ อย่างในตอน อีพี 7 ในการแข่งขันช้อปปิ้งปรากฏว่ามีผู้เข้าแข่งขัน 1 คนที่ไม่เคยมาเดินซื้อเสื้อผ้าที่สยามเซนเตอร์จนทำให้เธอหาเสื้อผ้าไม่ได้เลยจนเวลาแทบหมดเกลี้ยง จนมาดามแพนเค้กต้องตัดสินใจวิ่งไปหาผู้เข้าแข่งขันคนดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือในนาทีสุดท้าย
นอกเหนือไปจากเรื่องการแข่งขัน เราสามารถเห็นได้เลยว่ามิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เข้าแข่งขันนั้นดูสมจริง แต่ละคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยามแข่งขันคือพวกเธอทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่เมื่อจบการแข่งขัน แต่ละคนกลายเป็นเพื่อนกันมีความห่วงใยกันและกันและมองเห็นความสามารถของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นอย่างแท้จริง
ถ้าใครคิดถึงรายการเรียลลิตี้ที่มีผู้หญิงหลายๆคนมาฟาดฟันความสามารถ มีดาราเบอร์ดังๆของประเทศมาเป็นคณะกรรม Sexy Mama อาจจะเป็นรายการที่คุณเผลอมองข้ามไปในห้วงเวลานี้ก็เป็นได้