พุ่งทะยานแบบฟ้าเหนือฟ้ากับ Top Gun: Maverick ในระบบ Screen-X
เข้าฉายวันนี้แล้วสำหรับ ‘Top Gun : Maverick’ หนังภาคต่อที่ทิ้งห่างจาก ‘Top Gun’ ภาคแรกไปถึง 36 ปีภายใต้การนำแสดงและคุมงานสร้างของทอม ครูซ (Tom Cruise) และเป็นปกติธรรมดาสำหรับหนังฟอร์มยักษ์ที่มีระบบการฉายให้เลือกหลายระบบตามความชอบ ซึ่ง Beartai Buzz ขอพาผู้อ่านทุกท่านสัมผัสความโดดเด่นในการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในระบบสกรีนเอ็กซ์ (Screen-X)
ร่วมประสบการณ์ห้องนักบินกับภาพกว้าง 270 องศา
ตามที่เราทราบกันดีนะครับว่าการถ่ายทำ ‘Top Gun : Maverick’ ทางผู้กำกับภาพอย่าง เคลาดิโอ มิแรนดา (Claudio Miranda) ได้ออกแบบการถ่ายทำในห้องนักบินโดยเอากล้องโซนี เวนิซ (SONY Venice) 6 ตัวไปติดไว้เพื่อบันทึกมุมมองภาพการขับเครื่องบินของนักบินขับไล่ให้สมจริงและตื่นตาตื่นใจสุด ๆ และด้วยแหล่งภาพ (Source) ที่เพียบพร้อมก็ย่อมส่งผลต่อการนำภาพยนตร์มาดัดแปลงเป็นระบบฉายต่าง ๆ
สำหรับระบบการฉาย Screen X ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในระบบฉายภาพยนตร์ที่ให้ภาพกว้างมากกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไป เพราะมีการเพิ่มจอด้านข้างอีก 2 จอจนทำให้มุมมองการชมภาพยนตร์ของผู้ชมกว้างถึง 270 องศา ซึ่งพอได้หนังอย่าง ‘Top Gun : Maverick’ มาฉายแล้ว ฉากแอ็กชันโดยเฉพาะฉากในห้องนักบินบนเครื่องบินขับไล่ยิ่งสมจริงและตื่นตาตื่นใจ เพราะในขณะที่หนังในระบบปกติให้มุมมองแบบจอเดียวแคบ ๆ แต่ใน Screen X การได้จอภาพซ้ายขวาทำให้เราได้มุมมองที่สมจริงเหมือนไปนั่งในห้องนักบินของ F18 ก็ไม่ผิดนักแถมมันยังมีปริมาณของฉากที่ฉายครบ 3 จอมากถึง 80% ของหนังอีกด้วย
ระบบเสียง Dolby Atmos กระหึ่มสะใจ สมดั่งคำว่า ‘ภาพที่มีเสียง’
จะกล่าวว่า ‘Top Gun : Maverick’ เป็นภาพยนตร์ที่เหมือนจุดนัดพบระหว่างศิลปะและเทคโนโลยีก็ไม่ผิดนัก เพราะทั้งการถ่ายทำที่ผสมผสานระหว่างคอมพิวเตอร์กราฟิกเข้ากับการถ่ายทำจริงบนเครื่องบินขับไล่ F18 และแน่นอนว่าการมีแค่ภาพคงไม่ใช่องค์ประกอบเดียวที่ทำเอาผู้ชมลุ้นจิกเบาะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงงานเสียงที่หนังภาคแรกเองที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาบันทึกเสียงและตัดต่อเสียงยอดเยี่ยมมาแล้ว และหากใครเป็นนักสะสมโฮม เอ็นเตอร์เทนเมนต์รุ่นดึกหน่อยก็คงพอทราบว่าในยุคหนึ่ง ‘Top Gun’ เคยเป็นหนังที่ร้านขายเลเซอร์ดิสก์ (Laserdisc) และเครื่องเสียงต้องเปิดโชว์ลูกค้าเป็นประจำในยุค 90 ทั้งที่ตอนนั้นระบบเสียงเป็นแค่ดอลบี สเตอริโอ (Dolby Stereo) เท่านั้นเอง
พอมาใน ‘Top Gun : Maverick’ การมาได้ฉายในระบบเสียงอย่าง ดอลบี แอทมอส (Dolby Atmos) คือการได้ระบบเสียงที่เหมาะสมกับหนังที่สุดจริง ๆ ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลพื้นฐานของระบบดอลบี แอทมอสที่รองรับมากถึง 64 แชนแนลส์ (Channels) และหนึ่งในตำแหน่งที่ต้องเซ็ดระบบเสียงนี้คือการเพิ่มลำโพงตรงเพดานของโรง ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ทิศทางของเสียงโดยเฉพาะฉากเครื่องบินขับไล่ที่พุ่งลงมาจากเหนือศีรษะกลายเป็นประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ไม่อาจหาได้จากจอทีวีหรือจอมือถือแน่นอน
ความคมชัดระดับ 4K ภาพคมโดดเด้งเหนือชั้น
สองหัวข้อที่ผ่านมาเราพูดถึงเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นและจุดโดดเด่นของโรง Screen X ไปแล้ว เราเลยขอปิดท้ายด้วยสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังจากการดูหนังสักเรื่องในโรงหนังที่บางครั้งก็แอบหงุดหงิดว่าพอหนังออกมาฉายทางสตรีมมิงและรับชมผ่านทีวี 4K ดี ๆ แล้วความคมชัดกลับดีกว่าโรงภาพยนตร์ซะอย่างนั้น แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดกับหนังอย่าง ‘Top Gun : Maverick’ ในโรง Screen X แน่นอน
โดยที่ไม่ต้องกล่าวอ้างเทคนิกให้ปวดหัว ภาพที่ปรากฎบนจอฉายหลักของหนังในโรง Screen X ให้ภาพคมชัดตื่นตาตื่นใจ เพราะมาตรฐานขั้นต่ำของการฉายในโรงนี้คือความละเอียดไฟล์ตั้งแต่ 2K ขึ้นไป และกับหนัง ‘Top Gun : Maverick’ ที่ไฟล์หนังมีความละเอียดถึง 4K (อ้างอิงจากเว็บไซต์ IMDB) คงไม่ต้องบอกเลยว่านอกจากมันจะรีดศักยภาพของภาพในฉากบนห้องนักบินที่เราโม้ไปแล้ว ฉากโรแมนติกที่หนังเน้นจับแสงพระอาทิตย์อัสดงยังให้ภาพที่นุ่มนวลชวนฝันและคมชัดแบบแทบจะหาจุดติติงไม่เจอเลย
สำหรับใครที่สนใจอยากชม ‘Top Gun : Maverick’ ในระบบ Screen X ก็สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้เลย โดยปัจจุบันมีโรง ควอเทียร์ ซีนีอาร์ต (Quartier Cineart) ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ (Emquartier) เพียงสาขาเดียวที่ฉายในระบบที่น่าทึ่งนี้ แต่ในเดือนมิถุนายนนี้ทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์จะเปิดตัวสาขาใหม่ที่ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอนอีกหนึ่งสาขาครับ