ส่อง Triangle of Sadness หนังรางวัลปาล์มทองปีล่าสุด โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
ประกาศผลกันไปเมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ตามเวลาในไทย เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 75 มอบรางวัลปาล์มทอง อันเป็นรางวัลภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดรางวัลหนึ่งในโลก ให้กับ Triangle of Sadness หนังตลกเสียดสีจากผู้กำกับขาวสวีเดน รูเบน ออสลุนด์ การตัดสินใจของกรรมการไม่ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์ แต่ขณะเดียวกันหนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เต็งหนึ่งเช่นกัน ข่าวอัพเดทล่าสุดคือ Triangle of Sadness มีผู้จัดจำหน่ายในไทยซื้อสิทธิ์มาแล้ว และจะเตรียมลงโรงฉายในในโอกาสต่อไป
ผู้เขียนได้ชมหนังเรื่องนี้พร้อมสื่อมวลชนอีกจำนวนมากจากทั่วโลกที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ รีแอคชันในโรงคือหัวเราะกันแตกแตน Triangle of Sadness คือหนังตลกที่เปิดหน้ามาล้อเลียนบุคคลชั้นสูงอันมีบุคลิกน่ารังเกียจทั้งหลาย ตั้งแต่นายแบบ-นางแบบในวงการแฟชั่นที่รูปงามราวเทพดานางฟ้าแต่กลวงไร้สมอง เศรษฐีที่ร่ำรวยและใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ รวมทั้งชนชั้นกระฎุมพีของยุโรปที่เต็มไปด้วยนิสัยหน้าไว้หลังหลอก เหยียดผิว เหยียดชนชั้น และเห็นแก่ตัวเป็นที่สุด
Triangle of Sadness เล่าเรื่องเป็น 3 ตอนคร่าว ๆ ตอนแรกเป็นเรื่องของนายแบบ คาร์ล (แฮริส ดิกกินสัน) กับแฟนสาวและอินฟลูเอนเซอร์จอมเรื่องมาก ญาญ่า (ชาร์ลบี ดีน) ตอนที่สอง เราตามคาร์ลและญาญ่า ไปร่วมทริปล่องเรือยอร์ชหรูที่มีแต่มหาเศรษฐีฝรั่งตัวขาวเป็นผู้โดยสาร มีกัปตันจอมเพี้ยนเป็นคนอเมริกัน (วูดดี้ ฮาเรลสัน) ส่วนคนงานทำความสะอาดในเรือเป็นแม่บ้านชาวเอเชีย ก้มหน้าเช็ดโถส้วมขณะผู้โดยสารต่างเสพสุขกลางทะเล เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรือนี้กำลังล่องไปที่ไหน หรือเหตุการณ์ในหนังทั้งหมดเกิดขึ้นที่ประเทศใด ผู้กำกับออสลุนด์ ตั้งใจให้หนังลอยอยู่ในสุญญากาศ ส่วนตัวละครในหนังก็เป็นตัวแทนของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจและอุดมการณ์ขจองโลกเสรี อันทำให้พวกเขากลายเป็นชนชั้นที่เต็มไปด้วยอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น พูดง่าย ๆ นี่คือหนังแซะคนรวยในประเทศโลกที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเจนบูมเมอร์ เจน X หรือเจน Z
ตอนที่สามในหนังเป็นตอนติดเกาะ เพื่อไม่ให้สปอยล์จนเกินไป เอาเป็นว่าเกิดเหตุจนทำให้ทุกคนหนีตาย นำไปสู่องก์สุดท้ายอันเป็นบทสรุป (หรือไม่สรุป) ของหนังที่ยังคงทิ้งปริศนาไว้ให้คิดต่อ
มุขตลกของ Triangle of Sadness เล่นเอาฮาโรงแตกได้เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงบนเรือยอร์ช ที่เล่นทั้งมุขปัญญาชน มุขอุจจาระและมุขอ้วกแตก ทั้งมุขคำพูดและมุขเถิดเทิง น่าสนใจว่าหนังจงใจเปิดโปงความเน่าเฟะของ “คนขาว” แต่ไม่ว่าใครดูหนังก็สามารถเข้าใจพฤติกรรมของพวกเขาและร่วมสมน้ำหน้าไปด้วยได้ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้เขียนก็ตั้งข้อสังเกตว่า นี่คือหนัง “ฮิพ” ที่ทำมาแซะฮิปสเตอร์ เป็นหนังที่จงใจอวดฉลาด มีความล้นในการแสดงออก และถาโถมไอเดียและสถานการณ์จนดูแล้วทั้งตลกทั้งเหนื่อยไปพร้อม ๆ กัน การที่ Triangle of Sadness ล้อเลียนชนชั้นสูงในยุโรป แต่หนังเองก็เปิดตัวที่เทศกาลเมืองคานส์ อันเป็นสนามของชนชั้นสูงในยุโรป ในโรงหนังเองก็มีแต่คนสวย ๆ หล่อ ๆ ใส่ทักซิโด้ไปนั่งหัวเราะคนประเภทเดียวกับตัวเองที่ถูกล้อเลียนอยู่บนจอ ทั้งหมดนี้ทำให้หนังมีมิติทับซ้อนแปลกประหลาด (ไม่ว่าจะในทางบวกหรือไม่ก็ตาม)
ดาราที่ไม่ใช่ผิวขาวคนเดียวในเรื่องนี้ คือ ดอลลี เดอ ลีออน ดาราฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงไม่น้อยในประเทศของเธอ และแสดงทั้งหนังตลาดและหนังอาร์ทมามากมาย ใน Triangle of Sadness เธอรับบทเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่ทำงานในท้องเรือ ที่ภายหลังพลิกบทบาทมาเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญ
รูเบน ออสลุนด์ วัย 48 เป็นผู้กำกับที่เคยได้รางวัลปาล์มทองมาแล้วจาก The Square หนังที่ล้อเลียนวงการศิลปะในยุโรป ที่ใช้เทคนิค การมองและวิธีการเล่าเรื่องคล้าย ๆ กัน (The Square เข้าฉายในไทยด้วย) การได้ปาล์มทองตัวที่ 2 จาก Triangle of Sadness เป็นการเสริมสร้างบารมีและทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับเพียงไม่กี่คนในโลก (และส่วนใหญ่สูงวัยกว่าทั้งนั้น) ที่ได้รางวัลใหญ่ของเทศกาลเมืองคานส์ไปแล้วสองครั้ง และมีโอกาสจะเป็นคนแรกที่ได้ถึง 3 ครั้งก็ได้ เพราะเส้นทางการทำงานของคนทำหนังจากสวีเดนคนนี้ยังอีกยาวไกล