The Bounty Hunter-จับแฟนสาวสุดจี๊ดมาเข้าปิ้ง
ไมโล คิดว่าสิ่งที่รออยู่ตรงหน้าเป็นเพียงแค่งานกล้วยๆ แต่นิโคล หนีจากเขาเพื่อที่เธอจะได้ตามสืบร่องรอยของคดีฆาตกรรมได้ ไมโลก็ตระหนักว่า เรื่องระหว่างเขากับนิโคลไม่มีวันจะเป็นเรื่องง่ายๆ ไปได้ ทั้งคู่ผลัดกันชิงไหวชิงพริบตลอดเวลา จนกระทั่งพวกเขาพบว่า ตัวเองต้องหนีเอาชีวิตรอดหัวซุกหัวซุน จนทำให้เกิดความคิดว่าการรักษาคำสัญญาระหว่างพวกเขาที่จะรัก ให้เกียรติ และเชื่อฟังกันก็เป็นเรื่องยากแล้ว แต่การเอาชีวิตรอดกลับยากกว่าเยอะ
The Bounty Hunter ถือกำเนิดจากการคุยกันข้ามรั้วระหว่างเพื่อนบ้าน 2 คน ซึ่งบังเอิญเป็นผู้อำนวยการสร้างนีล เอช มอริตซ์ และผู้กำกับฯ แอนดี้ เทนเนนท์ ที่เคยร่วมงานกันมาก่อนในหนังฮิต Sweet Home Alabama
''เราแค่คุยกันข้ามรั้ว'' เทนเนนท์ พูดแบบขำๆ ''เขาถามผมว่า ''คุณจะทำอะไรต่อไป'' ผมก็บอกว่า ''ไม่รู้ซิ'' นีล เลยบอกผมว่า-ผมมีบทหนังเรื่องหนึ่ง คุณลองดูหน่อยไหม''
บทหนังเรื่องนั้นที่เขียนโดย ซาร่าห์ ธอร์ป กลายเป็นเรื่องที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับความคิดความอ่านและความชำนาญของเทนเนนท์ The Bounty Hunter เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนักล่าค่าหัวชาวนิวยอร์ก ซึ่งกำลังตกที่นั่งลำบาก ผู้ได้รับมอบหมายให้ต้องลากอดีตภรรยาของตัวเองกลับเข้าคุก ''มันไม่ได้เป็นเพียงเรื่องในแนวตลกโรแมนติก'' มอริตซ์ ยอมรับ ''มันเป็นหนังตลกแอ็กชั่นที่มีความรักแทรกอยู่ในนั้น แอนดี้ทำหนังได้ทุกแนว ทั้งแนวตลก หนังรัก และหนังแอ็กชั่นได้ดีจริงๆ''
''ไมโล บอยด์ ซึ่งรับบทโดย เจอราร์ด บัตเลอร์ เป็นนักล่าค่าหัวอับโชค เขาเคยเป็นตำรวจ แต่โดนไล่ออก และตอนนี้เขาต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพไปวันๆ'' มอริตซ์ อธิบาย ''เขาได้รับมอบหมายงานสำคัญ เมื่ออดีตภรรยาของเขาที่รับบทโดย เจนนิเฟอร์ อนิสตัน หนีการประกันตัว และเขาก็ต้องนำตัวเธอกลับมาให้ได้''
''สมัยก่อน ไมโล บอยด์ เคยเป็นตำรวจมือดี แต่เขาปล่อยให้สิ่งต่างๆ มีอิทธิพลกับตัวเองมากเกินไป รวมถึงนิโคล อดีตภรรยาของเขาด้วย'' บัตเลอร์ พูดถึงแบ็กกราวนด์ของตัวละคร ''พอหย่ากัน เขาก็เสียศูนย์เล็กๆ แถมทำให้ตัวเองโดนไล่ออกจากตำรวจอีกต่างหาก เขาเลยต้องกลายมาเป็นนักล่าค่าหัว บอกตามตรงนะ สถานการณ์เขาไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ นอนอยู่บนโซฟาของคู่หูเกือบตลอดเวลา และพยายามหลอกตัวเองว่ามีความสุขดี''
แม้ว่านิโคล ตัวละครของเจนนิเฟอร์จะดูดีมีสกุลกว่า แต่เธอก็มีภาระหนักมากพอๆ กับอดีตสามี ''เธอเป็นนักข่าว ส่วนเขาเป็นตำรวจ พวกเขาก็เลยมักจะคลี่คลายคดีและไขเรื่องราวต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน'' อนิสตัน เล่า ''แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในทุกความสัมพันธ์ พวกเขาเลิกใส่ใจกันและกัน และสิ่งต่างๆ ที่พวกเขารักในตัวอีกฝ่ายก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกรำคาญ''
''นิโคลเป็นนักข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ชั้นนำ และเธอก็เบี้ยวนัดฟังคำตัดสินของศาลเพื่อสืบเรื่องราว เธอก็เลยกลายเป็นนักโทษหนีคดี'' อนิสตัน อธิบายรายละเอียดของแคแรกเตอร์ ''และตอนนี้ไมโล ก็ได้โอกาสทองที่จะตามล่าตัวเธอเพื่อจับเธอเข้าคุก ซึ่งสำหรับเขาแล้ว มันเป็นเหมือนฝันที่เป็นจริงเลยแหละ''
''นั่นคือมุกตลกของเรื่องนี้ ตอนที่ไมโลไล่ตามจับตัวนิโคล เขาได้เข้ามาพัวพันกับการตามสืบเรื่องที่เธอพยายามจะสืบอยู่ พวกเขาก็เลยได้เรียนรู้ถึงความสนุกสนานของความสัมพันธ์ระหว่างกันอีกครั้งหนึ่ง''
''ผมเป็นแฟนผลงานของ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน และ เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ อยู่แล้ว ผมอยากสร้างหนังที่พวกเขาน่าจะแสดงด้วยกันได้มานานแล้ว'' มอริตซ์ พูดถึงไอเดียที่จับ 2 ดาราดังให้มาเจอกันในหนังเรื่องนี้ ''ตอนที่หนังเรื่องนี้เข้ามา ผมนึกทันทีว่า การจับคู่ระหว่างเจนนิเฟอร์กับเจอร์รี่ น่าจะเป็นสิ่งที่สุดยอด และน่าตื่นเต้นที่สุด''
เทนเนนท์ เห็นด้วยว่าแค่เลือกนักแสดงที่มีชื่อเสียงยังไม่เพียงพอ แต่การแสดงที่เข้าขากันระหว่างนักแสดงนำทั้งสองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ''ในกรณีนี้ ไมโลเป็นชายหนุ่มแมนเต็มร้อย เราเลยอยากได้คนที่จะรับบทผู้ชายเถื่อนๆ และสกปรกหน่อยๆ เจอร์รี่เป็นผู้ชายแบบนั้น และสามารถแสดงหนังตลกได้ด้วย ส่วน เจนนิเฟอร์ อนิสตัน หลังจากที่เล่นซีรีส์อย่าง Friends มาสิบปี เธอรับมุกได้ไวมาก เธอเล่นกับเจอร์รี่ และทำให้เขาเหวอได้เหมือนกัน การได้ดูทั้งคู่เข้าฉากด้วยกันเหมือนการได้ดูคนสองคนเล่นเทนนิสแข่งกันไม่มีผิด''
อนิสตัน บอกว่า เสน่ห์ของบัตเลอร์ทำให้นักแสดงคนอื่นๆ และทีมงานทุกคนผ่อนคลายลง ''เจอร์รี่เป็นคนตลก นั่นคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมในตัวเขา เขาเป็นคนไร้พิษภัย เป็นหนุ่มสกอตต์รูปหล่อที่คุณคิดว่าคุณควรจะกลัว แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนอ่อนโยนมาก''
''เจนมีทั้งความเร่าร้อน ความเฉลียวฉลาด ความเซ็กซี่ ความมั่นคง และพลัง ซึ่งเป็นทุกอย่างที่นิโคลต้องมีในฐานะนักข่าวหัวเห็ด'' บัตเลอร์ พูดถึงดาราสาวคู่ขวัญของเขาเป็นการทิ้งท้าย