Jurassic World: Dominion บทสรุปไตรภาคชุดหลัง ของสวนสนุกไดโนเสาร์

Jurassic World: Dominion บทสรุปไตรภาคชุดหลัง ของสวนสนุกไดโนเสาร์

Jurassic World: Dominion บทสรุปไตรภาคชุดหลัง ของสวนสนุกไดโนเสาร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เราไม่อาจจะปฏิเสธความสำเร็จของ Jurassic World และ Jurassic World: Fallen Kingdom โดยภาคแรกโกยเงินทั่วโลกไปกว่า 1,600 กว่าล้านเหรียญฯ ส่วนภาคถัดมากวาดไปอีก 1,300 กว่าล้านเหรียญฯ และแน่นอนว่าหนังปิดไตรภาคอย่าง Jurassic World Dominion จะกลายเป็นภาคต่อที่สตูดิโออย่างยูนิเวอร์แซลตั้งความหวังสูงลิบลิ่ว

 

มองย้อนกลับไปในปี 1993

ปี 1993 คือปีที่สตีเว่น สปีลเบิร์ก ได้เปิดตัวภาพยนตร์อย่าง Jurassic Park โดยหยิบผลงานนวนิยายของ ไมเคิล ไครช์ตัน นำมาดัดแปลงให้ลงตัวเหมาะกับการสร้างเป็นหนังมากยิ่งขึ้น การมาถึงของหนัง Jurassic Park ทำให้ “การศึกษาซากดึกดำบรรพ์” ได้รับความสนใจอีกครั้ง ทำให้คนในยุคนั้นสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์มากยิ่งขึ้น และหนังยังเป็นการนำเสนอสัตว์โลกล้านปีมาให้ผู้ชมได้เห็นในแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนบนจอเงินอีกด้วย

คุณูปการของหนัง Jurassic Park ทำให้บรรดาคนรุ่นใหม่มีความสนใจ ในวิทยาการแขนงนี้ ทำให้เหล่าบรรดามหาวิทยาลัยได้เปิดการเรียนการสอน หลายทำให้หลายพิพิธภัณฑ์จัดนิทรรศการเกี่ยวกับไดโนเสาร์ และเรายังคงได้รับผลประโยชน์กันอย่างต่อเนื่อง เราได้อยู่ในยุคทองของงานบรรพชีวินวิทยา จนทำให้มีการค้นพบไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ๆ ทั่วโลกแทบจะอาทิตย์ละหนึ่งชนิดเลยทีเดียว

คนรุ่นที่เติบโตมาทันกับหนังเรื่อง Jurassic Park เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ จวบจนวันนี้หนังกินเวลากว่าสามทศวรรษ ความมหัศจรรย์ ความตื่นเต้น ความสนุกสนานได้อัดแน่นอยู่ในแฟรนไชส์หนังชุดนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งปี 2015 การกลับมาคืนจอของเหล่าไดโนเสาร์และการเอ่ยถึงหนังภาคแรกใน Jurassic World ของผู้กำกับโคลิน เทรเวอร์โรว์ได้ทำให้ผู้กลับมานึกถึงเหล่าไดโนเสาร์กันอีกครั้ง

 

บทสรุปของเรื่องราวกว่า 3 ทศวรรษ

ความแตกต่างของ Jurassic World Dominion กับหนังในแฟรนไชส์นี้ทั้ง 5 ภาคที่ผ่านมาคือ ความพยายามที่จะเล่าเรื่องราวที่ใหญ่ขึ้น เมื่อเหล่าไดโนเสาร์ที่ถูกพาออกจากเกาะอิสลานูบลาร์ บ้างก็กระจายไปสู่โลกกว้างภายนอก บ้างก็ถูกนำไปเลี้ยงเป็นสัตว์ผิดกฎหมาย หนังภาคนี้จึงเปิดโอกาสที่จะทำให้ผู้ชมได้มีโอกาสสำรวจผลพวงของเหตุการณ์เหล่านี้ หนังในภาคนี้จึงไม่ใช่แค่การปิดฉากเรื่องราวในไตรภาคชุดหลัง (Jurassic World) เท่านั้น แต่มันยังเป็นการจบเรื่องราวของ Jurassic Park ในเวลาเดียวกันด้วย

Jurassic World Dominion ยังเป็นครั้งแรกที่เหตุการณ์ในหนังไม่ได้เกิดขึ้นบนเกาะอิสลานูบลาร์ แต่เรื่องราวได้กระจายวงกว้างไปทั่วทั้งโลก และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เราจะได้กลับมาพบกับทีมนักแสดงจากไตรภาค Jurassic Park ลอร่า เดิร์น ในบท ดร.เอลลี่ แซ็ตต์เลอร์, เจฟฟ์ โกลด์บลัม ในบท ดร.เอียน มัลคอล์ม และแซม นีลล์ ในบท ดร.อลัน แกรนต์ ส่วนทีมนักแสดงจากไตรภาคชุดหลังอย่าง Jurassic World ประกอบไปด้วย และคริส แพร็ตต์ ในบท โอเว่น กราดี้ และไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด ในบท แคลร์ เดียริ่ง รวมไปถึง บีดี หว่อง ในบท ดร.เฮนรี่ วู ซึ่งเขาเคยปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์ปี 1993 อย่าง Jurassic Park รวมถึงไตรภาค Jurassic World ด้วย

อันที่จริงแล้วการวางแผนที่จะให้เหล่านักแสดงจากไตรภาคเดิมมาปรากฏตัวนั้น มีการตระเตรียมมาไว้อย่างยาวนาน เพราะความตั้งใจของโคลิน เทรเวอร์โรว์เริ่มจากการใส่บีดี หว่อง อยู่ใน Jurassic World เพื่อทำให้คนดูมั่นใจว่าเรื่องราวใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นนั้นยังดำรงอยู่ในจักรวาลดั้งเดิม และเป็นเส้นเวลาที่ถูกเล่าต่อมาจากอดีต หลังจากนั้นในภาค Fallen Kingdom ตัวละครดร.เอียน มัลคอล์ม (เจฟฟ์ โกลด์บลัม) ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับแสดงความเป็นกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และใน Dominion สองตัวละครอย่างดร.เอลลี่ แซ็ตต์เลอร์และดร.อลัน แกรนต์จึงถูกดึงกลับมาเพื่อเข้าร่วมการผจญภัยครั้งใหม่

 

ทางแยกสองเส้นเรื่องก่อนการประสานกันเป็นเส้นเดียว

โครงสร้างของ Jurassic World Dominion จะเล่าเรื่องราวส่วนแรก แยกเป็นสองเส้นเรื่องที่เกิดขึ้นขนานกันเป็น โดยเรื่องแรกจะโฟกัสไปที่ตัวละครโอเว่น กราดี้, แคลร์ เดียริ่ง และไมซี่ ล็อควู้ด (อิซาเบลล่า เซอร์มอน)และอีกเส้นเรื่องหนึ่งจะมี ดร.เอลลี่ แซ็ตต์เลอร์ และดร. อลัน แกรนต์ ซึ่งสุดท้ายจะต้องเกี่ยวพันกับดร.เอียน มัลคอล์ม, ดร. เฮนรี่ วู ก่อนที่ตัวละครทั้งหมดจะได้มาพบกันที่คอมเพล็กซ์ลับสุดยอดภายในบริษัทไบโอเทคที่ทรงอำนาจและลึกลับที่มีชื่อว่า ไบโอซิน ซึ่งตั้งอยู่กลางหุบเขาที่กว้างใหญ่ในเทือกเขาโดโลไมท์ สำหรับโลกภายนอก ไบโอซิน คือบริษัทเพื่อการกุศลที่อุทิศตนเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความหิวโหยของโลก ด้วยการสร้างธัชพืชที่ไม่เคยสัมผัสกับแมลงและเชื้อโรค โดยการใช้การปรับแต่งพันธุกรรม บริษัทแห่งนี้ได้ทำสัญญาที่จะเก็บไดโนเสาร์จากโลกภายนอก และขนส่งพวกมันไปยังที่อาศัยในหุบเขาที่ปลอดภัยแห่งนี้ เพื่อศึกษาพวกมันอย่างปลอดภัย แต่ความเป็นจริงแล้ว เป้าหมายในการค้นคว้าของพวกเขา รวมถึงความตั้งใจของพวกเขาไม่ได้เป็นไปเพื่อความดีเลย หากแต่เป็นเรื่องของผลกำไรล้วนๆ

บริษัทอย่างไบโอซินนั้นอยู่ภายใต้การดูแลและบริหารของลูอิส ด็อดจ์สัน (แคมป์เบลล์ สก็อตต์) ซึ่งตัวละครนี้เคยปรากฏตัวมาแล้วใน Jurassic Park โดยตัวละครนี้คือคนที่เป็นคนยื่นกระป๋องเปล่าๆให้ เดนนิส เนดรี้ พนักงานที่ลักลอบขโมยตัวอ่อนไดโนเสาร์ออกไปจากห้องทดลอง ก่อนจะต้องพบกับชะตากรรมที่น่าเศร้าแบบในหนัง และในครั้งนี้ตัวละครนี้จะกลายเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหมดในหนังภาคนี้นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook