"อาโป" เผยสาเหตุที่ลาวงการไปต่างประเทศ ก่อนกลับมาเล่น KinnPorsche the Series

นักแสดงหนุ่ม อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ เปิดใจเผยความรู้สึกที่เป็นหนึ่งในสาเหตุตัดสินใจลาวงการไปต่างประเทศ เพราะการเลือกปฏิบัติในกองถ่ายทรีตคนไม่เท่ากัน

มาแรงสุดๆ นาทีนี้สำหรับ KinnPorsche the Series ซีรีส์แนว BL แอคชั่นเรื่องดังที่ถูกพูดถึงทุกตอนที่ออกอากาศ กับการแสดงที่ตีบทแตกเข้าถึงอารมณ์คาแรกเตอร์ตัวละคร รวมทั้งเรื่องราวเนื้อหาสุดเข้มข้น ยกระดับด้วยงานภาพและโปรดักชั่นฟอร์มยักษ์ เรียกว่าตั้งแต่เปิดตัวมากระแสดีต่อเนื่องจนพาเหล่านักแสดงโด่งดังได้รับความนิยมจากคนดูแบบมหาศาล

โดย อาโป ณัฐวิญญ์ นักแสดงนำจากซีรีส์ KinnPorsche the Series ได้เข้าร่วมการสนทนา DRAMA TALK "คุยเรื่องทำละครกับ KinnPorsche the Series" ที่ขึ้น ณ ศูนย์ศิลปการละครสดใส พันธุมโกมล ชั้น 6 อาคารมหาจักรีสิรินธร เมื่อ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ร่วมกับผู้บริหารและนักแสดงนำจาก KinnPorsche the Series โดยมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนแชร์ประสบการณ์มุมมองการทำงานในวงการละคร ซึ่งหนึ่งในคำถาม การทำงาน ความเท่าเทียมในกองถ่าย นักแสดงหนุ่ม อาโป ได้แชร์ประสบการเจ็บปวดของตัวเองที่เคยประสบในวงการ และเผยว่านี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจไปต่างประเทศก่อนหน้านี้

อาโปกล่าวว่า "ผมทำงานมานาน มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เจ็บปวดในใจผมมาก มันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมไปต่างประเทศ คือผมรู้สึกว่าคนเท่ากันหมด และผมจะไม่ชอบเวลาที่ เห้ย ทำไมคุณถึงทรีตผมแบบนี้ เหมือนไม่ใช่คน เราไม่ใช่พระเจ้า และผมเคยถูกสอนว่า เราเป็นพระเอกนะ เราพูดได้กับแค่คนนี้ รู้จักได้แค่คนนี้ แต่ตอนนั้นผมเด็ก และเขาโตกว่า ผมก็เลยเชื่อว่าควรทำแบบนั้น และสิ่งที่ผมเกลียดมากคือ "ใครๆ เขาก็ทำกันมา" คำถามคือ "ใครๆ นี่ใครเหรอ? ใครวะ?"

จริงๆ ขอบคุณพี่ปอนด์มาก เขาเป็นเฮด และนี่เป็นทีมเขา พอเขาปรับระบบทุกอย่างใหม่หมด ทุกคนเท่ากัน เพราะผมจะรู้สึกแย่มากเวลามีใครเอาของมาให้ผม โหแบบ แทบคลานเข่าเข้ามา ผมรู้สึกว่า กลับบ้านไปพ่อแม่ยังไม่ทำให้กูแบบนี้เลย ผมรู้สึกว่าทุกคนมันควรเท่ากัน

ผมเชื่อว่านักแสดงคืออาชีพหนึ่ง ผมไม่สามารถปิ้งลูกชิ้นได้เก่งเท่ากับพ่อค้าลูกชิ้น เขาก็ไม่สามารถทำการแสดงได้เท่าผม ผมเลยรู้สึกว่าทุกอาชีพเหมือนกันหมด แล้วในหนึ่งกองมันมีแบบ ช่างไฟ สวัสดิการ ใครๆ ก็ตาม ถ้าเขาไม่เอาของมาให้เรา เราไม่มีกินแน่นอน ทำงานมาเหนื่อย จะเดินไปซื้อเหรอ มันเป็นไปไม่ได้ ทุกหน้าที่ควรให้เกียรติกัน พี่ปอนด์สอนเด็กในค่ายทุกคนว่าทุกคนเท่ากัน สอนว่าต่อให้คุณจะมีแฟนๆ เยอะแค่ไหน เพราะคุณมีผลงาน เขาเลยรักคุณ ถ้าคุณไม่มีผลงานคนไม่รักคุณแน่นอน งั้นทุกคนเท่ากัน นี่คือมาตรฐานที่โปแฮปปี้" 

"เราอยู่ในวงการมานาน สมัยก่อนเรื่องการเท่าเทียมทางเพศยังไม่ได้ขนาดนี้ ทุกครั้งที่เราไปเจอใคร ยิ่งเข้าไปในกอง ค่ายละครต่างๆ ทุกคนจะถามเราว่า "เป็นปะเนี่ย?" คำถามเราในหัวคือ "เราผิดเหรอ?" และวันนั้นเรายังเด็ก เรายังไม่เข้าใจว่าเราทำอะไรผิด แต่มันฝังใจ ซึ่งเราก็จะพยายามทำตัวแมน เพื่อกลบปมตรงนี้ของเราไว้ จริงๆ อยากขอบคุณพี่ปอนด์มาก เพราะพี่ปอนด์กับค่าย Be on Cloud ที่บอกกับผมว่า มึงอยากเป็นอะไรก็เป็นไปเลย เพราะมันไม่ใช่ปัญหาของพวกกู แต่เป็นปัญหาของมึง มึงมีความสุขหรือเปล่า

โปเคยเจอคำชนิดที่แบบ มึงอย่าทำอย่างงี้ อย่าทำมือทำไม้แบบนี้ เดี๋ยวคนจะหาว่ามึงเป็นตุ๊ด จนโปรู้สึกว่า ทำไมเหรอ? ...พอสังคมเปลี่ยนไปมากขึ้น คนมันเห็นว่าคนมีความหลากหลายมากๆ ก็อย่างที่พี่ต๋องบอกว่าคุณไม่รู้หรอกว่าบนเตียงเขาเป็นยังไง หรือรสนิยมทางเพศเป็นยังไง วันนี้เขาเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้เขาอาจจะเป็นอีกแบบก็ได้ โปเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องมานั่งถามกันว่าคุณเป็นหรือเปล่า? คุณเป็นอะไร?

เอาจริงๆ คุณไม่ต้องไปเสือกเรื่องของเขาก็ได้ โปรู้สึกว่าเขาจะเป็นอะไรก็ตาม เขาทำดีกับคุณหรือเปล่าล่ะ แล้วคุณควรทำดีต่อเขา เลยรู้สึกว่าอันนี้เกิดขึ้นในกองและสังคม โปว่ามันเสียมารยาทมากนะ ในการที่ถามว่าคุณเป็นอะไร?"

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากงาน DRAMA TALK "คุยเรื่องทำละครกับ KinnPorsche the Series" ใครอยากติดตามการพูดคุยแบบเต็มๆ ได้เลย และสามารถติดตาม KinnPorsche The Series  (คินน์ พอร์ช เดอะซีรีส์) ได้ที่ช่อง One31 ทุกวันเสาร์ เวลา 23.00 น. และ สามารถชม KinnPorsche The Series La Forte (Uncut version) ทุกวันเสาร์ เวลา 24.00 น. บนแอปพลิเคชัน iQiyi (อ้ายฉีอี้)