ALVIN AND THE CHIPMUNKS 2 25 กุมภาพันธ์ 2010 ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

เมื่อปี 2007 ภาพยนตร์เรื่อง ALVIN AND THE CHIPMUNKS สร้างปรากฎการณ์ไปทั่วโลกด้วยการเปิดโลกทัศน์ให้แฟน ๆ ทุกเพศทุกวัยได้สัมผัสกับผลงานการแสดงของคนตัวเป็น ๆ กับตัวละครน่ารักน่าชังที่สร้างสรรค์ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่เพียงแค่สนุกสนานเฮฮา หากแต่ยังซึ้งโดนใจและร่วมยุคเข้าสมัยปัจจุบันด้วย เมื่อภาคแรกออกฉายในช่วงวันหยุดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ก็ทำรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เดฟ เซวิล (Dave Seville) นักประพันธ์เพลงประสบความสำเร็จกับการปรับโฉมหน้าชิพมังค์เสียงทองทั้ง อัลวิน (Alvin), ไซม่อน (Simon), และธีโอดอร์ (Theodore) ให้กลายเป็น หนุ่ม ๆ บอยแบนด์สุดป๊อบ ไปพร้อมกับก่อเหตุป่วนบ้านของเดฟจนจำสภาพไม่ได้, ทำลายเส้นทางอาชีพของเขาเสียป่นปี้, และยังเปลี่ยนวิถีชีวิตแสนเรียบง่ายของเดฟให้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ไม่ทันที่ผู้ชมจะกรีดร้องว่า อัลวินนนนนนนนน กันลั่นโรง งานสร้างภาคใหม่ของ ALVIN AND THE CHIPMUNKS ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว เรื่องราวไม่ได้มีแค่ความสำเร็จบนถนนสายดนตรีของหนุ่ม ๆ แต่พวกมันกำลังเตรียมแสดงหนังเรื่องแรกที่จะมีภาคต่อตามมาอีกเป็นพรวนด้วย แถมยังมีภาคก่อนหน้าที่จะดังด้วยนะ เตรียมพร้อมที่จะสัมผัสภาคต่อตอนแรกในโลก เมื่ออัลวัน, ไซม่อน, ธีโอดอร์ จะเผชิญหน้ากับคู่ปรับฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยง หรืออาจเหนือชั้นกว่าด้วยซ้ำ เดอะ ชิพเพ็ทส์ (The Chipettes) สามสาวหน้าใหม่มาแรง เค้าโครงเรื่องของ Alvin and Theipmunks ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกมายาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งเคยได้รับความนิยมจนเพลง The Chipmunk Song ขึ้นไปครองอันดับหนึ่งเพลงฮิตช่วงเทศกาล คริสตมาส (#1 Christmas hit) ส่งให้ชื่อเสียงของรอส แบ็กดาซาเรี่ยน ซีเนียร์ (Ross Bagdasarian, Sr.) นักร้องและนักประพันธ์เพลงโด่งดังเป็นพลุ เสียงร้องโดน ๆ แบบมังค์ (the Munks) ยังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่แฟน ๆ ทุกเพศทุกวัย จนกระทั่งเมื่อปี 2007 ที่ ALVIN AND THE CHIPMUNKS เปิดตัวเป็นภาพยนตร์จอใหญ่ครั้งแรก กระแสมังค์ (the Munks) ที่ดูดีมีสไตล์มากขึ้น และมีมิติซับซ้อนน่าสนใจยิ่งขึ้นก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ด้วยแนวความคิดที่ร่วมสมัยและใหม่ล้ำนี่เองที่ ปรับภาพลักษณ์ของเหล่าชิพมังค์ ไม่ให้เป็นแค่ตัวละครที่โด่งดังสมัยคนรุ่นพ่อ-แม่อีกต่อไป ความสำเร็จจอกผลงานเมื่อปี 2007 ที่ไม่เพียงเขย่าแวดวงมายาฮอลลีวู้ด (Hollywood) แต่ยังทำให้โลกทั้งใบได้ทึ่ง ทั้งเหล่าชิพมังค์และคณธผู้สร้างภาพยนตร์จึงกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างภาคต่อที่ผู้ชมจะได้ฮึกเฮิมไปกับความทะเยอทะยานครั้งใหม่ใหญ่กว่าเดิม และบันเทิงเฮฮากันเต็ม ๆ ตาในโรงภาพยนตร์ คณะผู้สร้างภาพยนตร์ที่เคยร่วมสร้างปรากฎการณ์สะท้านโลกเมื่อปี 2007 ยังคงกลับมาร่วมงานกันใน SQUEAKQUEL อย่างพร้อมเพรียง รวมทั้งรอส แบ็กดาซาเรี่ยน (Ross Bagdasarian) กับจานิซ คาร์แมน (Janice Karman) สองเสียงผู้สร้างสรรค์ The Chipmunks กับ The Chipettes มาตลอด 30 ปี, คณะผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์ทั้ง แคเร็น โรเซ็นเฟลท์ (Karen Rosenfelt) อาร์นอน มิเชล (Arnon Michele), อิมเพราโต้ สเตบิล (Imperato Stabile), และสตีฟ วอเตอร์แมน (Steve Waterman), คณะนักแสดงนำทัพโดยเจสัน ลี (Jason Lee) กับเดวิด ครอส (David Cross) พร้อมด้วยดาราดัง 3 หนุ่มผู้พากย์เสียงมังค์ จัสติน ลอง (Justin Long), แม็ทธิว เกรย์ กู้บเบลอร์ (Matthew Gray Gubler), และเจสซี่ แม็คคาร์ทนี่ย์ (Jesse McCartney) ส่วนผู้ร่วมงานหน้าใหม่ใน SQUEAKQUEL ก็มี เบ็ทตี้ โธมัส (Betty Thomas จาก The Brady Bunch Movie, Doctor Dolittle, และ Private Parts) ผู้กำกับภาพยนตร์, แซ็คคารี่ เลวี่ (Zachary Levi จาก Chuck), และดาราดัง 3 สาวผู้พาย์เสียง Chipette คือเอมี่ โพห์เลอร์ (Amy Poehler), แอนนา ฟาริส (Anna Faris), และคริสติน่า แอปเปิ้ลเกต (Christina Applegate)