[เปิด Netflix มารีวิว] Voyagers หายนะของการกดทับสัญชาตญาณมนุษย์

[เปิด Netflix มารีวิว] Voyagers หายนะของการกดทับสัญชาตญาณมนุษย์

[เปิด Netflix มารีวิว] Voyagers หายนะของการกดทับสัญชาตญาณมนุษย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

แม้ Voyagers จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราตั้งแต่ปลายปีก่อน ด้วยกระแสเงียบเหงา แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่ลงสตรีมมิ่ง Netflix ไม่กี่วัน หนังก็ขึ้นอันดับ Top 10 อย่างรวดเร็ว ตัวหนังว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งค้นพบสัญชาตญาณดิบของตัวเองกลางอวกาศอันเวิ้งว้าง

หนังเดินทางข้ามอวกาศไม่ใช่คอนเซ็ปที่แปลกใหม่ แต่ด้วยความแฟนตาซีของเทคโนโลยีอันเป็น “ภาพฝัน” ของมนุษย์ ว่าวันหนึ่งเราจะสามารถเดินทางไปยังเอกภพอื่น หรือเดินทางออกนอกระบบสุริยะจักรวาลที่เราคุ้นเคยเพื่อไปหาดวงดาวดวงใหม่ อันเป็นแหล่งพำนักพักพิง โดยก่อนหน้านี้หนังไซไฟ-โรแมนซ์อย่าง Passengers ได้นำเสนอสองมนุษย์ที่เกิดตื่นขึ้นก่อนเวลา ที่พวกเขาจะถึงจุดหมายปลายทางและนั่นอาจจะหมายความว่าพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ไปเริ่มต้นชีวิตบนดาวดวงใหม่ แต่อาจจะสิ้นอายุขัยอยู่บนยานลำนี้

สำหรับ Voyagers เลือกจะนำเสนอโลกอนาคตที่ทรัพยากรทางธรรมชาติกำลังใกล้จะหมดลง ทำให้มีการจัดตั้งโครงการนำพามนุษย์ทั้ง 30 คน ซึ่งยังเป็นเด็กต้องเดินทางไปยังโลกใบใหม่ โดยระหว่างการเดินทางพวกเขาถูกวางกิจวัตรประจำวันให้ดื่มน้ำสีฟ้า โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่รับเข้าสู่ร่างกายนั้นเป็นยากดความรู้สึก ทำให้ไร้อารมณ์ ความต้องการ รวมไปถึงแรงขับทางเพศ

ระยะเวลาในการเดินทางอันเนิ่นนาน วันหนึ่งแซ็ก (เฟียนน์ ไวท์เฮด) ค้นพบว่าน้ำสีฟ้านั้นทำให้เขาไม่มีอารมณ์ความรู้สึก เขาจึงชักชวนให้คริสโตเฟอร์ (ไท เชอริแดน) เลิกดื่มมัน เพื่อสัมผัสกับความรู้สึกอันแปลกใหม่อันแสนสุดยอด จากการชวนเพื่อน 1 คน เริ่มแผ่ขยายวงกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน ริชาร์ด (โคลิน ฟาร์เรลล์) นักวิทยาศาสตร์ที่อุทิศตัวเองให้กับโครงการนี้และเป็นคนที่ดูแลเด็กทั้งสามสิบคนมากับมือ แม้เขาจะรู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้จะจบลงด้วยการที่ตัวเองจะสิ้นอายุขัยบนยานอวกาศก่อนถึงจุดหมาย แต่กลับกลายเป็นว่า เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อระหว่างที่เขาออกไปซ่อมแซมยาน เขาก็เสียชีวิตลงอย่างปริศนาคล้ายกับว่า โดนเงาดำๆจู่โจม

หลังจากที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ขาดคนชี้แนะ พวกเขาก็เริ่มทำทุกอย่างตามใจตัวเอง ฉีกกฎเกณฑ์ทุกอย่าง ยานลำนี้กำลังจะขับเคลื่อนไปด้วยความคลุ้มคลั่ง ความรุนแรง และหายนะบางอย่างได้คืบคลานเข้ามาโดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว

น่าเสียดายที่ Voyagers เกือบจะสามารถกลายเป็นหนังจิตวิทยา ที่เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้ตลอดทาง แต่ยิ่งกลายเป็นว่าเมื่อหนังเล่าเรื่องไปข้างหน้า ตัวร้ายของเรื่องก็กลายเป็นภาพตัวละครแบนๆที่ไม่มีมิติอื่นนอกจากความคลั่ง (ตัวละครฝั่งพระเอกก็ไม่มีมิติใดๆเช่นกัน) บทสรุปทุกอย่างคลี่คลายไปอย่างง่ายดาย จนคนดูเองอาจจะต้องย้อนกลับไปตั้งคำถามด้วยซ้ำไปว่า แล้วก่อนหน้านี้ที่หนังวางเงื่อนไขเรื่อง “อาหาร” และความอยู่รอด ของตัวละครไว้นั้น จะกล่าวถึงให้กลายเป็นการขัดขาตัวเองไปทำไม ในเมื่อหนังเลือกจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ตีหัวเข้าบ้านอย่างที่เราได้เห็นกัน

สรุปคือ Voyagers เป็นหนังไซไฟทริลเลอร์แบบใสๆ จืดๆ และไม่มีอะไรใหม่ ทั้งที่ได้ทีมนักแสดงฝีมือดีมาเป็นกระบุงก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook