ถือเป็นงานปลุกพลังหญิงที่น่าจะเดือดดาลพอสมควร สำหรับหนังอย่าง The Woman King โดยฝีมือผู้กำกับหญิง Gina Prince-Bythewood ผู้เคยทำหนัง Netflix มันส์ๆอย่าง The Old Guard ที่นำโดย Charlize Theron จนอนาคตสดใสและกำลังจะมีภาคต่อ

The Woman King พูดถึงเรื่องราวของหน่วยรบหญิงที่เรียกตัวเองว่า Agojie แห่งอาณาจักร Dahomey หนึ่งในรัฐที่ทรงอิทธิพลที่สุดของแอฟริกาตะวันตกในศตวรรษที่ 18 และ 19 ปัจจุบันคือประเทศ Benin ซึ่งกองรบ Agojie นำโดยนายพลหญิงผู้ห้าวหาญนามว่า Nanisca ที่รับบทโดย Viola Davis จาก The Suicide Squad เธอนำกองกำลังหญิงล้วนปกป้องอาณาจักรจากการรุกรานของนักล่าอาณานิคมชาวยุโรปผิวขาว

นี่คืองานสร้างของ TriStar Pictures ที่ขึ้นตรงต่อ Sony Pictures หนังถูกขนานนามว่าเป็น Braveheart เวอร์ชั่นผู้หญิง ซึ่งจะเข้มขลังไปด้วยฉากรบที่ดุดัน อารมณ์เชือดเฉือนที่ทรงพลัง และเปี่ยมล้นไปด้วยการขับเคลื่อนพลังหญิง ทั้งนี้นักแสดงนำอย่าง Viola Davis เธอลงมือควบคุมการผลิตด้วยตนเอง โดยมีนักแสดงสมทบมากมายเช่น Lashana Lynch จาก 007 No Time to Die , มีนักแสดงชายอย่าง John Boyega แห่ง Star wars มารับบทกษัตริย์ Ghezo และยังมีนักแสดงหญิง Sheila Atim กับ Thuso Mbedu จากทีวีซีรีส์ The Underground Railroad ร่วมแสดง

Viola Davis นักแสดงหญิงผู้ซึ่งควบทั้งตำแหน่งโปรดิวเซอร์และแสดงนำเผยกับ Vanity Fair ถึงความอัดอั้นจากการเป็นนักแสดงผิวสีว่า

“ นี่คือการ Transformative (การเปลี่ยนแปลง) คนผิวดำมักถูกกล่าวถึงความมีวิสัยทัศน์ แต่มีบทบาทน้อยมากในฐานะนักแสดงผิวสี การมีผิวคล้ำ จมูกโด่ง ปากใหญ่ มีข้อจำกัดเป็นพิเศษ… การเป็นศิลปินนั้นยาก การจะเป็นศิลปินผิวดำนั้นยาก และ การเป็นศิลปินหญิงผิวสีนั้นยากยิ่งกว่า ”

นั่นคือเหตุผลที่เธอลุกขึ้นมาทำหนังอย่าง The Woman King โดยมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ วันที่ 16 กันยายน 2022

ชมตัวอย่าง

อัลบั้มภาพ ปลุกพลังหญิงด้วยหนังสงครามย้อนยุค The Woman King จากผู้กำกับ The Old Guard ภาพที่ 7 / 8

ปลุกพลังหญิงด้วยหนังสงครามย้อนยุค The Woman King จากผู้กำกับ The Old Guard

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

"วิโอลา เดวิส" ฝึกร่างกาย 4 ปี เพื่อหนัง The Woman King

The Woman King ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของปีที่ทำคะแนน CinemaScore ได้ในระดับ A+