Sanford Panitch และ Josh Greenstein ประธาน Motion Picture Group ของ Sony Pictures กล่าวอย่างมั่นใจว่าที่หนัง Top Gun: Maverick ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 1.22 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลกในขณะนี้ ความดีความชอบควรยกให้หนังฮีโร่อย่าง Venom 2 : Let There Be Carnage ของ Sony ซึ่งได้ช่วยปูทางให้ หลังจากที่โลกเจอกับวิกฤติ Covid-19 จนไม่มีค่ายหนังค่ายไหนกล้าเอาหนังใหญ่ของตนเองเข้าฉาย

มีการเลื่อนฉายหนังใหญ่มากมายในช่วงระบาดหนัก Top Gun: Maverick คือหนึ่งในนั้น ที่เลื่อนฉายถึง 2 ปี เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม แต่ทาง Sony Pictures เป็นค่ายที่ยอมเสี่ยงเข็นหนังใหญ่ของพวกเขาเข้าฉายเพื่อทดลองดูว่าคนพร้อมที่จะกลับมาเข้าโรงหนังได้หรือยัง เป็นเดิมพันที่ถือว่าใจนักเลงมาก

Sony Pictures ปล่อยหนังอย่าง Venom 2 : Let There Be Carnage เข้าฉายในเดือนตุลาคม 2021 ตามมาด้วย Ghostbusters: Afterlife ในเดือนพฤศจิกายน และ Spider-Man: No Way Home ซึ่งถือเป็นโปรแกรมใหญ่ยักษ์ของ Sony ที่กรุยทางให้หนังใหญ่ๆจากค่ายอื่นๆกล้าที่จะนำหนังเข้าฉาย

Josh Greenstein กล่าวว่า

" เมื่อเราเริ่มปล่อยหนังเข้าฉายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ไม่มีหนังใหญ่เรื่องอื่นเลย ทุกคนเพิ่งจะมาผลักดันหนังใหญ่ของพวกเขาให้เข้าฉายในปีนี้ ไปจนถึงซัมเมอร์นี้ เราเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อนำ Venom เข้าฉายในโรงหนัง จากนั้นเราก็ตามด้วย Ghostbusters จากนั้นเราก็ได้ลงเดิมพันครั้งที่หนักที่สุดของเราตอนที่หนังใหญ่เจ้าอื่นๆเลื่อนโปรแกรมหนีไปแล้ว เราได้ส่ง Spider-Man ไปเป็นเรื่องที่สาม ซึ่งเป็นผลงานที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของเรา "

ทางด้าน Sanford Panitch ก็ได้กล่าวว่า

" ตอนนี้มีข่าวเกี่ยวกับ Top Gun เยอะมาก แบบว่าธุรกิจหนังกลับมาแล้ว! มันอาจฟังดูทะแม่งๆ แต่ผมจะบอกว่า Top Gun ได้ประโยชน์จากการที่เราเสี่ยงให้ Venom เป็นจุดเริ่มต้นของอะไรก็ตามที่ทำให้ Top Gun สามารถทำเงินได้อย่างที่เห็น สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันคือการปูทาง "

อัลบั้มภาพ มั่นใจแล้วหนึ่ง ผู้บริหาร Sony บอก Top Gun 2 ควรขอบคุณ Venom 2 ที่ปูทางให้ ภาพที่ 3 / 9

มั่นใจแล้วหนึ่ง ผู้บริหาร Sony บอก Top Gun 2 ควรขอบคุณ Venom 2 ที่ปูทางให้

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

ไขคำถามที่หลายคนสงสัยหลังดู Spider-Man: No Way Home