Hangover เมากลิ้งสอย Up ครองแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศ

หนังตลกเรต R ของผู้กำกับฯ ท็อด ฟิลลิปส์ (Road Trip,Starsky & Hutch) สร้างเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ออกสตาร์ตในวันศุกร์ ด้วยตัวเลข $16.73 ล้านขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทน Up ก่อนจะเสียตำแหน่งกลับคืนไปในวันเสาร์ แต่การจบวันอาทิตย์ด้วยตัวเลข $13.18 ล้านมากเพียงพอที่จะขึ้นมาสู่อันดับ 1 แทนผลงานอนิเมชั่นของค่ายดิสนีย์ และพิกซาร์

"เราเป็นที่รู้จักในเรื่องโปรดักชั่นอลังการ แต่หนังเรื่องนี้ทำให้เรากลับไปสู่จุดที่เราต้องการมาเป็นเวลาหลายปี การสร้างหนังที่เรียกเสียงหัวเราะ" แดน เฟลล์แมน ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายของวอร์เนอร์ พูดถึง Hangover ที่มี 2 นักแสดงตลก แบรดลี่ย์ คูเปอร์ และ เอ็ด เฮล์มส์ มาเป็นตัวขายที่ทำให้ 53% ของกลุ่มผู้ชมอายุต่ำกว่า 25 ปี "หนังสามารถทำได้อย่างน่าพอใจ และกระแสแบบปากต่อปากจะยิ่งทำให้ประสบความสำเร็จสูงขึ้น" Hangover ยังส่งผลกระทบกับหนังแนวตลกที่เปิดตัวพร้อมกันเต็มแรง Land of the Lost ของดาวตลก วิลล์ เฟอร์เรลล์ หนังตลกผจญภัยที่รีเมกซีรีส์ยุค 70 โดยเปิดตัวทำรายรับเป็นอันดับ 3 $18.83 ล้านจากจำนวนโรงฉายที่มากถึง 3,521 แห่ง ถือว่าย่ำแย่กว่า Journey to the Center of the Earth หนังแนวเดียวกันที่เปิดตัวเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว เช่นเดียวกับ Bewitched ผลงานของเฟอร์เรลล์ ที่สร้างจากซีรีส์ทีวีเรื่องล่าสุด เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Land of the Lost ซึ่งใช้ทุนสร้างไป $100 ล้าน เรียกผู้ชมได้น้อย น่าจะเกิดจากความสับสนของโฆษณาที่หนังถูกวางอยู่ระหว่างแนวตลกผจญภัยแบบครอบครัว กับหนังตลกเอาใจผู้ใหญ่ และการถูกตั้งเรต PG-13 ทำให้รายรับในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ถือว่าเป็นวันครอบครัวน้อยกว่าวันแรกโดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่ตกลงไปถึง 32% สำหรับ Up ตัวเลขรายรับตกลงมาเพียง 35% ในสุดสัปดาห์ที่ 2 ส่งผลให้รายรับรวมลอยละลิ่วไป $137.2 ล้าน ถือว่าดีเกือบเท่า Finding Nemo ผลงานที่ทำเงินสูงสุดของพิกซาร์ หากนับตามระยะเวลาฉาย 10 วันเท่ากัน และเหนือกว่า WALL-E และ Cars ผลงานในช่วง 2 ซัมเมอร์ที่ผ่านมาของพวกเขา โดย ชัค เวียน ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายของดิสนีย์ ร่วมแสดงความยินดีว่า ''มันถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม มันเป็นหนังที่มีระยะเวลาทำเงินยาวนานกว่าผลงานของดิสนีย์เรื่องอื่นๆ'' โดยจากแนวโน้มในตอนนี้คาดว่า Up จะแทรกตัวเข้าสู่ท็อปทรีอันดับรายรับสูงสุดของค่ายพิกซาร์ ที่มี Finding Nemo ครองอันดับ 1 $339.7 ล้าน, อันดับ 2 The Incredibles $261.4 ล้าน และ Monsters, Inc. $255.8 ล้าน ได้อย่างแน่นอน อีก 1 ผลงานที่เปิดตัวในวงกว้างช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา My Life in Ruins หนังโรแมนติกคอมเมดี้บรรยากาศกรีซ ที่ได้ทีมผู้สร้าง My Big Fat Greek Wedding และนางเอกของเรื่อง นีอา วาร์ดาลอส นำแสดง ทำรายรับได้ไม่มากไม่น้อย $3.22 ล้านใน 1,164 โรง ในบรรดาผลงานที่ยืนโรงฉายอยู่ Star Trek ถือว่ามีตัวเลขรายรับตกลงน้อยที่สุด 34% ทำให้รายรับรวมจากการเข้าฉาย 31 วันขึ้นไปที่ $222.7 ล้าน กลายเป็นภาคที่ทำเงินสูงสุดอันดับ 2 ของเฟรนไชส์แทน Star Trek II : The Wrath of Khan หากคำนวณเป็นค่าตั๋วปัจจุบัน และมีสิทธิ์จะขึ้นไปเป็นอันดับ 1 แทน Star Trek : The Motion Picture อยู่มากทีเดียว ส่วนตลาดต่างประเทศ Terminator Salvation ที่ทำรายรับระดับธรรมดาในสหรัฐฯ หากมองถึงการเป็นช่วงเวลาฉายซัมเมอร์ แต่โกยเงินตลาดต่างประเทศได้ต่อเนื่อง โดยการเปิดฉายในแถบยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้โกยรายรับไปถึง $67.5 ล้าน จากการได้อันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร, รัสเซีย, ฝรั่งเศส,เ ยอรมัน และสเปน และทำให้รายรับตลาดต่างประเทศตอนนี้สูงใกล้ทะลุ $100 ล้านเต็มที โดยอันดับรองลงมาของบ็อกซ์ออฟฟิศต่างประเทศ Night at the Museum : Battle of the Smithsonian แชมป์เก่าหล่นมาอยู่อันดับ 2 ทำเพิ่ม $26.7 ล้านใน 66 ประเทศ, อันดับ 3 Angels & Demons $22.3 ล้านใน 100 ประเทศ, อันดับ 4 Up $7.8 ล้านใน 4 ประเทศ และอันดับ 5 Star Trek $6 ล้านใน 62 ประเทศ ทิ้งท้ายด้วยตัวเลขรายรับรวมของบ็อกซ์ออฟฟิศสุดสัปดาห์นี้อยู่ที่ $166 ล้านต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% แต่รายรับรวมตลอดปี 2009 ยังถือว่านำห่างอยู่ถึง 7% หรือเป็นตัวเลข $4.16 พันล้าน โดยคาดว่ารายรับจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ยาวไปถึงกรกฎาคมที่จะมี 3 ผลงานภาคต่อฟอร์มยักษ์ Transformers: Revenge of the Fallen, Ice Age: Dawn of the Dinosaurs และ Harry Potter and the Half-Blood Prince

เนื้อหาข่าวจาก