ดรีมเวิร์คส์เปิดชีวิต มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ดรีมเวิร์คส์ คว้าลิขสิทธิ์เรื่องราวชีวิตของ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ และวางแผนที่จะพัฒนาภาพยนตร์อัตชีวประวัติเกี่ยวกับผู้นำการเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมกันของพลเมือง ที่จะได้ สตีเว่น สปีลเบิร์ก, ซูซานน์ เด พาสเซ่ และ เมดิสัน โจนส์ มาช่วยกันอำนวยการสร้าง จากการรายงานของ Variety
คิงที่ถูกลอบสังหารที่เมมฟิส ด้วยวัย 39 ปี เมื่อปี 1968 ได้จดลิขสิทธิ์สุนทรพจน์ หนังสือ และผลงานสร้างชื่อในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่เอาไว้ โดยโปรเจกต์นี้ของดรีมเวิร์คส์ นับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้รับอนุญาตจากคิง เอสเตท ที่มอบสิทธิ์ให้โปรดิวเซอร์ใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ทางปัญญาของคิงได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสุนทรพจน์ I Have a Dream อันโด่งดังที่เขาเคยพูดไว้ในการเดินขบวนที่วอชิงตัน เมื่อปี 1963 เพื่อสร้างภาพชีวิตของเขาให้ครอบคลุมชัดเจน
สปีลเบิร์กกล่าวว่า ''เราต่างรู้สึกเป็นเกียรติที่คิง เอสเตท ให้โอกาสเราเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ให้สำคัญเหล่านี้ เรามีความหวังว่าพลังความคิดสร้างสรรค์ของภาพยนตร์ และผลกระทบของชีวิต ดร.คิง จะรวมกัน เพื่อเสนอเรื่องราวของพลังที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ซึ่งเราทุกคนภูมิใจ''
สปีลเบิร์กและ สเตซี่ย์ สไนเดอร์ ซีอีโอ และประธานร่วมของดรีมเวิร์คส์ มีความฝันที่จะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับคิงมานานแล้ว โดยฝ่ายหลังเป็นผู้ทำงานอย่างขะมักเขม้นเพื่อซื้อลิขสิทธิ์มา นับตั้งแต่ที่ออกจากพาราเม้าท์ พิคเจอร์ส และมาตั้งค่ายหนังของตัวเอง
คิงซึ่งเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลโนเบลเพื่อสันติภาพ จากผลงานของเขาเพื่อยุติการแบ่งแยก และเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ได้รับรางวัลเหรียญรางวัลเสรีภาพจากประธานาธิบดี เมื่อปี 1977 และเหรียญทองคำของสภาคองเกรส เมื่อปี 2004 หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว
สไนเดอร์แสดงความเห็นว่า ''ในความพยายามที่จะปะทะกับโปรเจกต์ที่ทะเยอทะยานแบบนี้ คำถามที่เราต้องถามตัวเราเอง คือ ''ทำไมต้องเป็นตอนนี้'' คำตอบนั้นอยู่ในคำพูดของเอ็มแอลเคเอง ''ความก้าวหน้าทุกอย่างนั้นน่ากลัวอันตราย'' ทุกย่างก้าวที่ไปข้างหน้า อุปสรรคใหม่ปรากฏขึ้นมา และเราก็ต้องไม่ลืมว่าชีวิตและคำสอนของเขายังคงท้าทายให้เรายืนขึ้นต่อต้านความเกลียดชัง และความไม่เท่าเทียมกันอยู่ทุกวัน''
เนื้อหาข่าวจาก