Carter หนังแอคชั่นเกาหลีแนวบุกเดี่ยวที่โหด มัน และลุ้นทุกนาที

Carter หนังแอคชั่นเกาหลีแนวบุกเดี่ยวที่โหด มัน และลุ้นทุกนาที

Carter หนังแอคชั่นเกาหลีแนวบุกเดี่ยวที่โหด มัน และลุ้นทุกนาที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Carter (คาร์เตอร์) ภาพยนตร์เรียลไทม์แอคชั่นโดย Netflix ซึ่งกำลังจะพรีเมียร์ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ จัดงานแถลงข่าวเผยเบื้องลึกเบื้องหลังของภาพยนตร์สุดเดือดที่เตรียมสูบฉีดอะดรีนาลีนผู้ชมทั่วโลก โดยมีจูวอนและผู้กำกับจองบยองกิลมาร่วมพูดคุยถึงฉากแอคชั่นที่บู๊ระห่ำแบบ Non-Stop จนลืมหายใจ

จองบยองกิล ผู้กำกับ เล่าในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังเรื่องนี้ว่า “คาร์เตอร์” เป็นชื่อตัวละครเอกของเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกไล่ล่าทันทีหลังจากที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมา และต้องปฏิบัติภารกิจตามที่เสียงปริศนาสั่งการ

แค่พล็อตเรื่องก็ล้ำเหมือนหนังฮอลลีวูดแล้ว ด้านนักแสดงนำอย่าง จูวอน ตอกย้ำความอินเตอร์ด้วยบทบาทการแสดงที่ยอมรับว่าเป็นหนังแอคชั่นเต็มสูบ ตลอดระยะเวลาในการถ่ายทำ ไม่มีวันไหนที่เขาไม่ได้แสดงฉากแอคชั่นเลย

“นี่เป็นภาพยนตร์ที่ผมตั้งตารอมานานครับ ผมห่างหายจากวงการภาพยนตร์มานาน ตอนได้อ่านบทครั้ง ผมก็คิดว่าต้องรับบทในเรื่องนี้ให้ได้ ถึงแม้ตอนแรกผมเองก็คิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็อยากจะลองดู ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาดี มันต้องเป็นผลงานที่สุดยอดและน่าจดจำในประวัติการแสดงภาพยนตร์ของผมแน่นอนครับ”

Carter (คาร์เตอร์)

เหตุผลที่ผู้กำกับเลือก จูวอน มารับบทนำในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่บทบู๊ที่เขาแสดงได้อย่างเจนสนาม แต่เป็นคาแรกเตอร์ของตัวละครที่เหมาะกับหนุ่มจูวอนอย่างกับเขียนขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

“ผมเคยเกือบได้ร่วมงานกับจูวอนมาแล้วในผลงานเดบิวต์ของผม ดวงตาของจูวอนมีความเศร้าหมองแฝงอยู่ ถ้าได้นักแสดงที่มีสายตาแบบนั้นมารับบทนี้ น่าจะสื่อสารอารมณ์ความสับสนของคาร์เตอร์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผมจึงได้เลือกเขามาร่วมงานด้วยกันครับ”

จูวอน รับบท คาร์เตอร์ ชายไร้ความทรงจำ การปฏิบัติภารกิจที่ซับซ้อนและตามหาตัวตนของตัวเองในสภาพไร้ความทรงจำ จูวอนกล่าวเสริมว่าบทของคาร์เตอร์ “จำเป็นต้องใช้การแสดงออกทางสายตาเพื่อสื่ออารมณ์ตรงจุดนั้น นั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่ผู้กำกับมองว่านั่นคือจุดเด่นที่เด่นที่สุดในตัวผมครับ”

ภารกิจที่คาร์เตอร์ได้รับมอบหมาย คือการช่วยพาเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นมนุษย์วัคซีนที่ใช้เพื่อการรักษาโรคหนีไป ในตอนแรกคาร์เตอร์ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นถูกต้องหรือเปล่า แต่ตอนนั้นสิ่งเดียวที่คาร์เตอร์เชื่อได้มีเพียงเสียงพูดปริศนาที่มีแต่เขาเท่านั้นที่ได้ยิน เขาจึงจำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจตามที่เสียงนั้นสั่งการ

Carter (คาร์เตอร์)

แม้ว่า จูวอน จะเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่รับบทมาแล้วทุกแนว แต่ด้วยภาพลักษณ์หนุ่มหล่อเนี้ยบ จูวอนและผู้กกับจึงมีการเตรียมตัวในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างดี เพื่อให้สมกับบทบาททีไ่ด้รับอย่างเต็มที่

จูวอนกล่าวว่า “เพื่อรับบทคาร์เตอร์อย่างแรกเลยที่ต้องเตรียมตัวคือรูปลักษณ์ภายนอกครับ ช่วงเริ่มแรกมีฉากที่ต้องถอดเสื้อ ซึ่งเป็นภาพที่บ่งบอกถึงตัวคาร์เตอร์ ผมต้องเตรียมฟิตร่างกายและเปลี่ยนทรงผม ทรงผมในเรื่องนี้น่าจะสั้นที่สุดในบรรดาผลงานที่ผ่านมาเลยครับ 

“นอกจากนั้นก็มีรอยแผลผ่าตัดที่ท้ายทอยและน้ำเสียงที่ผมใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อสวมบทบาทคาร์เตอร์ได้อย่างสมจริงมากที่สุดครับ ส่วนตัวผมๆรู้สึกว่าผมกลายเป็นคาร์เตอร์จริงๆนะครับ เพราะฉะนั้นมันค่อนข้างยากสำหรับผมทีเดียวที่จะต้องปรับตัวจากตัวละครคาร์เตอร์กลับมาสู่จูวอนในชีวิตจริงหลังจากถ่ายทำเสร็จแล้ว”

ผู้กำกับเสริมว่า “จูวอนเป็นนักแสดงหนุ่มที่มีภาพลักษณ์ของหนุ่มดอกไม้ (flower boy) ก็เลยต้องคุยกันว่าจะเปลี่ยนโฉมเขาอย่างไรดีเพื่อให้ดูแข็งแกร่งและโหดเหี้ยม แต่จริงๆ แล้วจูวอนเองก็มีมุมมาดแมนอยู่พอสมควร ยิ่งพอเปลี่ยนทรงผมแล้วก็กลายมาเป็นคาร์เตอร์อย่างที่ผมคิดไว้ครับ 

“ตอนแรกที่ตัวอย่างอย่างเป็นทางการถูกเผยแพร่ คนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาส่งข้อความมาถามผมว่านั่นนักแสดงหน้าใหม่หรือเปล่า คนที่ถามเป็นคนในแวดวงภาพยนตร์ที่คุ้นเคยกับภาพยนตร์เกาหลีและรู้จักนักแสดงจูวอนดี แต่ด้วยความที่ภาพลักษณ์ของเขาในเรื่องนี้เปลี่ยนไปมาก ถึงขนาดทำให้คนจำไม่ได้และเข้าใจผิดว่าเขาเป็นนักแสดงหน้าใหม่ครับ นั่นเป็นข้อความที่ผมได้รับแล้วรู้สึกดีมากเลยละครับ”

Carter (คาร์เตอร์)

นอกจากเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว คิวบู๊สุดจริงจังทุกนาทีของเรื่องนี้ ทำเอาจูวอนเตรียมตัวและฝึกซ้อมอย่างหนัก เพราะการถ่ายทำแต่ละฉากให้ออกมาสมจริง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“ผมฝึกซ้อมเกือบ 4 เดือนครับ” จูวอนยอมรับพลางยิ้ม “ความพิเศษของฉากแอคชั่นใน Carter คือเป็นแอคชั่นแบบone-take ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาว 2 ชั่วโมงนิดๆ แต่มีฉากแอคชั่นในเรื่องเกือบตลอดสองชั่วโมง ผมต้องจำจังหวะทั้งหมดให้ได้ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ ถึงแม้ว่าพอไปถึงหน้างานแล้วอาจจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ยังไงผมก็ต้องจำท่าทั้งหมดที่มีแอคชั่นความยาวเกือบสองชั่วโมง เพราะฉะนั้นผมเลยใช้เวลาไปกับการฝึกซ้อมเสียส่วนใหญ่ครับ” และแน่นอนว่าจูวอนแสดงฉากแอคชั่นในหนังเรื่องนี้เกือบจะ 100% ฉากแอคชั่นที่สำคัญๆ หลายฉากเป็นการแสดงจริง ทั้งฉากกระโดดร่ม ฉากที่มีเฮลิคอปเตอร์ที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ต่อสู้กับคนนับร้อยในฉากเดียว ขับรถ ปีนเขา ขี่มอเตอร์ไซค์ รวมถึงการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ทุกฉากทุกตอนถ่ายทำอย่างละเมียดละไมในรายละเอียด แม้จะเป็นฉากที่ออกสั้นๆ เพียงไม่กี่วินาที อย่างฉากกระโดดร่ม ก็ต้องถ่ายทำกันมากกว่า 10 เทคเลยทีเดียว

ผู้กำกับ จองบยองกิล ให้คำนิยามภาพยนตร์เรื่อง Carter ว่า เป็นเหมือนกับ “ภาพวาดพู่กันที่หยาบกระด้างครับ หลายท่านอาจจะทราบดีว่าผมฝันอยากจะเป็นจิตรกรที่ใช้หมึกวาดภาพมาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าได้ชมภาพยนตร์ก็จะได้เห็นว่ารอยสักที่ตัวคาร์เตอร์เป็นรอยสักที่คล้ายกับวาดด้วยหมึกสีดำ เป็นดีไซน์ที่ผมตั้งใจให้มันออกมาดูดิบเถื่อนครับ”

นอกจากนี้เขายังยอมรับว่า ตั้งแต่ตัวเขาเริ่มทำอาชีพผู้กำกับตั้งแต่อายุ 25 ปี ที่ผ่านมาได้สร้างผลงานภาพยนตร์มาแล้ว 3 เรื่อง ภาพยนตร์แอคชั่นเรื่อง Carter คือเรื่องที่ถ่ายทำยากที่สุด แต่ก็เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เขามีความสุขมากที่สุด หวังว่าผู้ชมทุกคนจะได้ประสบการณ์ความสนุกที่เขาและทีมงานตั้งใจสรรค์สร้างกันขึ้นมาอย่างดีเรื่องนี้อย่างเต็มที่

รับชม ภาพยนตร์เรียลไทม์แอคชั่นเรื่อง Carter (คาร์เตอร์) ได้แล้ววันนี้ ที่ Netflix

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ Carter หนังแอคชั่นเกาหลีแนวบุกเดี่ยวที่โหด มัน และลุ้นทุกนาที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook