Bryce Dallas Howard ขอบคุณ Chris Pratt ที่ช่วยเจรจาค่าตัวจาก Jurassic World ให้ได้เท่ากัน

ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าตกใจ ที่ Bryce Dallas Howard นักแสดงนำจาก Jurassic World ออกมาเปิดเผยค่าตัวที่ไม่ระบุแน่ชัด แต่ทำให้เรารับรู้ว่าเธอได้ค่าตัวที่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับความสำเร็จของรายได้หนัง

ในปี 2018 มีรายงานว่า Chris Pratt จะได้รับค่าตัวราว 10 ล้านเหรียญ และราว 8 ล้านเหรียญ สำหรับ Bryce Dallas Howard จากการเซ็นสัญญาเล่นภาคต่อ Jurassic World: Fallen Kingdom แต่นักแสดงสาวได้ออกมาเผยว่า

“ รายงานน่าสนใจมาก เพราะว่าฉันได้รับค่าจ้างน้อยกว่าที่รายงานไว้มาก น้อยกว่านั้นมาก เมื่อฉันเริ่มเจรจาแสดงใน Jurassic World (ภาคแรก) ก็คือปี 2014 ... และฉันก็เสียเปรียบอย่างมาก และน่าเสียดายที่คุณต้องเซ็นสัญญาสำหรับหนังสามภาค ดังนั้นข้อตกลงของคุณจึงได้รับการกำหนด "

ภาคต่อ Fallen Kingdom ทำเงินไป 1.3 พันล้านดอลลาร์ และภาคสาม Dominion ทำรายได้ไป 974 ล้านดอลลาร์ เทียบกับงบประมาณ 170 ล้านดอลลาร์ และ 165 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ช่องโหว่การจ่ายเงินค่าตัวในวงการนั้นเป็นปัญหามานานแล้ว โดยกรณีของ Kirsten Dunst ก็ได้ออกมาพูดโจมตีแฟรนไชส์​​ Spider-Man และ Disney กับปัญหาจ่ายเงินในภาคต่อ ที่เธอได้ค่าตัวน้อยกว่า Tobey Maguire จนน่าเกลียด

แต่สำหรับปัญหาของ Jurassic World นั้น Bryce Dallas Howard ได้กล่าวขอบคุณดารานำร่วมจออย่าง Chris Pratt ที่ออกมาปกป้องและช่วยเจรจาให้เธอได้รับค่าตัวจากการต่อยอดแฟรนไชส์นี้ในรูปแบบ เกม , เครื่องเล่นในสวนสนุก และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ Jurassic World เธอบอกกับ Insider ว่า

“ สิ่งที่ฉันจะพูดคือ ฉันกับ Chris Pratt ได้คุยกันแล้ว และเมื่อใดก็ตามที่ฉันมีแนวโน้มที่จะไปอยู่ในการต่อยอดในทางธุรกิจที่ยังไม่ได้เจรจา เช่น เกม หรืออื่นๆใดๆ เขาบอกฉันว่า 'คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ผมจะทำการเจรจาเองทั้งหมด เราจะได้รับค่าตอบแทนที่เท่าๆกัน และเธอไม่ต้องคิดเรื่องนี้หรอก Bryce' ฉันรักเขามากที่เขาทำแบบนี้ ฉันได้รับค่าตอบแทนสำหรับเรื่องพวกนี้มากกว่าที่เคยได้จากการเล่นหนังเรื่องนี้เสียอีก "

โปรเจ็กต์เหล่านี้ บางส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับสัญญาใหม่ อาจรวมถึงเกมอย่าง LEGO Jurassic World , Jurassic World: The Game และ Jurassic World Evolution นอกจากนี้สวนสนุก Universal ยังมีเครื่องเล่นจากหนังอย่าง Jurassic World VelociCoaster ที่ Universal's Island of Adventure ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะมีการปรับโครงสร้างสัญญาที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอเกมและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในอนาคต แต่ Bryce Dallas Howard และ Chris Pratt ก็หวังว่าพวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนเท่าๆกันสำหรับหนังหรือสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาในอนาคต