Friday the 13th หนังสยองขวัญไม่ยอมตาย
รายได้เปิดตัว 43.6 ล้านเหรียญในสัปดาห์แรกของ Friday the 13th งานรีเมกหนังสยองขวัญคลาสสิคเรื่องล่าสุด เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า ยุคนี้เป็นยุคทองของหนังสยองขวัญรีเมกทั้งหลาย ที่ไม่ว่าจะสร้างกันออกมาอีกกี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ก็ยังคงมีแฟนหนังคอซาดิสม์คอยอุดหนุนอยู่วันยังค่ำ
เอาแค่สองเดือนแรกของปีนี้ก็ออกมาโกยเงินนำร่องไปก่อนแล้วสองเรื่อง นอกจากศุกร์ 13 ฝันหวานแล้ว เมื่อเดือนมกราคมก็มีหนังสยองขวัญ 3 มิติ My Bloody Valentine 3D ที่รีเมกมาจากหนังฉบับเก่าปี 1981 กวาดเงินไปกว่า 50 ล้าน โดยใช้ทุนสร้างเพียง 15 ล้าน
ถ้าย้อนกลับไปดูงานรีเมกหนังสยองขวัญก่อนหน้านั้นก็มี The Texas Chainsaw Massacre สิงหาสับ ทั้งฉบับรีเมกที่ทำเงินไป 80 ล้าน (ทุนสร้าง 9 ล้าน) และฉบับ The Beginning ทำไป 40 ล้าน (ทุนสร้าง 16 ล้าน) หรือ The Amityville Horror ก็ทำไป 65 ล้าน (ทุนสร้าง 19 ล้าน) ล้วนแล้วแต่โกยเงินให้กับผู้สร้างทั้งสิ้น (และมีชื่อของ ไมเคิล เบย์ ทุกเรื่อง)
ที่ตามหลัง เจสัน วอร์ฮีส์ จากศุกร์ 13 และ ไอ้หน้าหนัง จากสิงหาสับมาติดๆ ก็คือ มนุษย์หมาป่า จากเรื่อง The Wolf Man ซึ่งมี เบนิซิโอ เดลโทโร่ รับบท จ่อคิวฉายในช่วงปลายปีนี้ และ ไอ้นิ้วเขมือบ จาก A Nightmare on Elm Street ที่ยังตามล่าหาผู้มารับบท ่ อันที่จริงมันอาจจะดูไม่ต่างอะไรจากการที่ฮอลลีวูดโกยเงินจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้เป็นกอบเป็นกำ จนมีการสร้างตามออกมากันเป็นพรวนอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน คุณดูอย่างท่าน เคาท์แดรกคูล่า สิ นี่เป็นตัวละครที่ถูกเอามาสร้างซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ แพคทริก ลุซซิเออร์ ผู้กำกับของ My Bloody Valentine 3D กล่าว มันมีอะไรบางอย่างในคาแรคเตอร์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหนังสยองขวัญพวกนี้ เหมือนกับมันฝังอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเรา
กลุ่มเป้าหมายของหนังประเภทนี้ก็คงหนีไม่พ้นกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมหนังเลือดสาดท่วมจอ
พวกคนดูวัยรุ่นยุคใหม่รู้จักตัวละครอย่างเจสันและเฟรดดี้เป็นอย่างดี แม้ว่าพวกเขาและเธอจะไม่เคยดูหนังพวกนี้ในโรงเลยก็ตาม แอนดรูว์ ฟอร์ม ผู้อำนวยการสร้างของหนัง Friday the 13th เวอร์ชั่นใหม่กล่าว ผมและเพื่อนก็เหมือนกับคนอื่นๆ คือมักจะจับกลุ่มกันที่บ้านของคนใดคนหนึ่ง แล้วก็เปิดวิดีโอหนังสยองขวัญคลาสสิคดูกัน มันกลายเป็นวัฒนธรรมป็อปของวัยรุ่นไปแล้ว
ในขณะที่หนังสยองขวัญอีกประเภท คือประเภทเน้นการทรมาณเหยื่ออย่าง Saw หรือ Hostel ซึ่งเคยมาแรงอยู่พักหนึ่ง กลับเริ่มซาความนิยมลงไป้ว แม้ว่าตำนาน จิ๊กซอว์ ยังไม่ยอมจบง่ายๆ ก็ตาม เป็นเพราะว่าคนดูกลุ่มวัยรุ่นนั้นขี้เบื่อเร็วมาก แต่ตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของหนังสยองขวัญยังไม่หมดพลังง่ายๆ พอล เดอการาบีเดี้ยน นักวิเคราะห์ชื่อดังให้ความเห็น แต่ใช่ว่าทุกคนจะอยากเห็นตัวละครคลาสสิคเหล่านี้ถูกนำมารีเมกอยู่บ่อยๆ มีแฟนๆ หลายคนอีเมล์มาด่าเหมือนกัน ฟอร์มกล่าว เพราะบางคนก็ไม่ชอบให้ไปยุ่งกับตัวละครที่พวกเขารัก เราจึงต้องรีเมกกันแบบระมัดระวังหน่อย
แบบนี้เราคงได้เห็นหนังสยองขวัญรีเมกตามออกมาอีกหลายเรื่องเลยล่ะ เพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการไปรีเมกหนังประเภทอื่นกันเห็นๆ
เนื้อหาสนับสนุนจาก