Benjamin Button เข้าชิงออสการ์สูงสุด แต่อาจไม่คุ้มทุน
กลายเป็นหนังที่เข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดของปีนี้ไปแล้ว สำหรับ The Curious Case of Benjamin Button ที่ได้เข้าชิงถึง 13 สาขา ทั้งสาขาหลักๆ และสาขาทางด้านเทคนิคมากกว่าคู่แข่งอย่าง Slumdog Millionaire ที่ตามมาติดๆ 10 สาขา แต่สิ่งที่หนังทั้งสองเรื่องนี้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ทุนสร้าง
Benjamin Button ถือเป็นหนังตัวเต็งออสการ์ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดเรื่องหนึ่งในระยะหลังๆโดยเป็นการร่วม ทุนกันระหว่างพาราเมาท์และวอร์เนอร์ ซึ่งใช้ทุนสร้างไปมากกว่า 150 ล้านเหรียญ ส่วนใหญ่หมดไปกับค่าเทคนิคพิเศษที่แต่งให้ แบรด พิตต์ กลายสภาพเป็นโหดหน้าเหี่ยวได้อย่างสมจริง และยังไม่หมดแค่นั้น สตูดิโอยังลงทุนทุ่มค่าโฆษณาไปทั่วโลกอีก 135 ล้านเหรียญ ตบท้ายด้วยค่าโปรโมทออสการ์อีก 10 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ที่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกสีอง ถือว่าเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างไม่มากทั้งสิ้น
โดยเฉพาะ Slumdog Millionaire ที่ใช้ทุนสร้างไปเพียง 15 ล้านเหรียญ และไม่มีดาราดังจากฮอลลีวูดเลยแม้แต่คนเดียว แต่หนังทำเงินเฉพาะในอเมริกาเกิน 60 ล้านเหรียญไปแล้ว ส่วน Benjamin Button เพิ่งผ่านหลัก 120 ล้านเหรียญ ยังไม่ใกล้เคียงกับเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดเลยแต่ทางวอร์เนอร์ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายหนังเรื่องนี้ในตลาดนอกอเมริกา ก็ยังหวังว่าหนังจะได้อานิสงส์จากการเข้าชิงออสการ์สูงสุด เป็นตัวกระตุ้นรายได้ในตลาดต่างประเทศ
คำวิจารณ์และกระแสปากต่อปากเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซูร์ โครลล์ หัวหน้าการตลาดต่างประเทศของวอร์เนอร์กล่าว มันมีค่ามากกว่าตัวเงินเสียอีก
แบรด เกรย์ ประธานของพาราเมาท์ ออกมาบอกว่า Benjamin Button ถือเป็นหนังที่เขาประคบประหงมมากที่สุดตลอดสามปีตั้งต่เข้ามารับตำแหน่ง และตั้งแต่มีโปรเจกต์ที่จะนำเรื่องสั้นของ เอฟ.สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ เล่มนี้มาสร้างเป็นหนัง ก็ไม่เคยกังวลเรื่องทุนสร้างเลยว่ามันจะมากสักแค่ไหน "ผมภูมิใจกับหนังเรื่องนี้มาก และถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ที่หนังเข้าชิงออสการ์สูงสุด แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่หนังสามารถครองใจคนดูได้
เนื้อหาสนับสนุนโดย
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ