คุยกับ แมตตี้ โด ผู้กำกับหนังไซไฟลาวเรื่อง บ่มีวันจาก โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
ภาพยนตร์ใหม่ใน Netflix ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงนี้ ได้แก่หนังลาวเรื่อง บ่มีวันจาก หรือ The Long Walk โดยผู้กำกับแมตตี้ โด สาวลาวที่เติบโตในอเมริกาแต่กลับมาปักหลักในเวียงจันทน์ได้หลายปี และทำหนังยาวสัญชาติลาวออกมาหลายเรื่อง แต่ บ่มีวันจาก เป็นหนังล่าสุดของแมตตี้ที่ได้รับเสียงตอบรับดีมากจากทั้งนักวิจารณ์และคนดูทั่วเอเชียและในยุโรป ด้วยสไตล์หนังที่ผสมทั้งหนังไซไฟโลกอนาคต เข้ากับหนังผีและหนังเดินทางข้ามเวลา ทั้งยอกย้อนและน่ากลัว ผสมผสานสภาพแวดล้อมของชนบทลาวเข้ากับเรื่องวิทยาศาสตร์และเรื่องเหนือธรรมชาติได้อย่างลงตัว จริง ๆ แล้ว บ่มีวันจาก ออกฉายตามเทศกาลหนังมาตั้งแต่ปี 2562 และเคยเข้าฉายโรงในไทย สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมที่หลงคิดไป (อย่างผิดๆ) ว่าหนังลาวต้องไม่มีคุณภาพเท่าหนังไทย แต่ที่ไหนได้ แมตตี้ทำให้เห็นว่าหนังลาวมีคุณภาพสูงมาก ดีขนาดหนังไทยอายม้วนไปไม่รู้กี่ตลบ
ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนมีโอกาสในสนทนากับแมตตี้ โด ผู้กำกับสาวชาวลาว จึงขออนุญาตนำบางส่วนจากการพูดคุยมาแบ่งปันในตรงนี้
-
บางคนอธิบาย บ่มีวันจาก (The Long Walk) ของคุณว่าเป็นหนังไซไฟลาวเรื่องแรก แต่หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ไซไฟ แต่เป็นหนังสยองขวัญและหนังตำนานพื้นบ้านด้วย
ไม่นะ บ่มีวันจาก ไม่ใช่หนังไซไฟลาวเรื่องแรก สี่ห้าปีก่อนมีหนังลาวชื่อ Moon City เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่โลกอนาคต นั่นต่างหากน่าจะเป็นเรื่องแรก ส่วนที่ว่า บ่มีวันจาก เป็นหนังประเภทไหน ฉันว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ เราไม่ต้องเอาตัวไปอยู่ในกล่องใดกล่องหนึ่งก็ได้ ฉันและคนเขียนบทอยากทำอะไรที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน ตัวฉันเองไม่ได้เรียนหนัง ไม่ได้มีประสบการณ์มาก ฉันจึงทำหนังที่สุดท้ายแล้วอาจจะไม่ได้เจาะจงลงไปตามตระกูลหนังที่คนคุ้นเคย
-
มันยากหรือง่ายแค่ไหน ในการนำองค์ประกอบของโลกอนาคตเข้าไปอยู่ในฉากหลังของประเทศลาว
เอาจริง ๆ มันไม่ยากเลยที่ฉันจะใส่ภาพของโลกไซไฟ โลกอนาคต ผสมเข้าไปในชนบทของลาวในเรื่อง ก็เพราะฉันมีทีมอาร์ตที่เก่งมากไงล่ะ สิ่งที่ยากคืองบประมาณที่เรามีจำกัด ทำให้เอฟเฟคท์ของเราเลยดู “บ้าน ๆ” (earthly) ไปบ้าง ฝ่ายศิลป์กับตัวฉันเอง เรามีภาพในหัวที่ชัดเจนมากว่าจะสร้างโลกอนาคตให้กับประเทศลาวอย่างไร ฉันปฏิเสธการสร้างภาพอนาคตที่ดูล้ำมาก ๆ ดูอวกาศมาก ๆ อย่าง Blade Runner เพราะฉันคิดว่าภาพโลกอนาคตอย่างที่เห็นในหนังของฉัน มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงในชั่วชีวิตของพวกเรามากกว่าภาพเว่อร์วังในหนังเหล่านั้น มันไม่แปลกเลยที่ประเทศเล็ก ๆ อย่างลาวจะเริ่มต้นเดินหน้าสู่การพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคต และมันต้องเริ่มจากการจินตนาการภาพง่าย ๆ อย่างเครื่องบินเหนือเสียงที่บินข้ามฟ้า ผ่านหัวควายที่กำลังไถนาอยู่ข้างล่าง
-
จริง ๆ แล้วคำว่า หนังไซไฟ หรือหนังวิทยาศาสตร์ อาจะไม่ต่างจากคำว่า หนังลี้ลับ หรือหนังเหนือธรรมชาติ คุณเห็นด้วยหรือเปล่า
ฉันดีใจมาก ๆ ที่สามารถเอาองค์ประกอบหนังไซไฟไปผูกกับเรื่องเหนือธรรมชาติแบบบ้าน ๆ ได้ เราสามารถทำให้เส้นที่แบ่งระหว่างสองสิ่งนี้มันบางลง สำหรับฉัน สิ่งเหนือธรรมชาติคือสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้ – ในตอนนี้ แต่ต่อไปก็ไม่แน่
-
คุณเบื่อมั้ยเวลาคนให้นิยามหนังของคุณว่า exotic (มีเสน่ห์แบบลึกลับ) หรือ magic realism (สัจจนิยมมหัศจรรย์) ส่วนใหญ่มักจะเป็นฝรั่งที่เรียกหนังของคุณแบบนี้
ถ้าฉันไม่ได้ยินสองคำที่คุณว่ามาอีกทั้งชีวิต ฉันจะมีความสุขมาก บอกหน่อยซิว่ากินลาบกับข้าวเหนียวมัน exotic ยังไง! มันมีความคาดหวังที่ไม่สร้างสรรค์บางอย่าง (จากฝั่งโลกตะวันตก) เกี่ยวกับประเทศลาวหรือประเทศของพวกเราในเอเชียอาคเนย์ เรายังไม่คิดว่าหนังญี่ปุ่นทุกเรื่องต้องมีซามูไรเลย พวกเราในฐานะคนทำหนังเอเชีย และในฐานะคนเอเชีย มีสิทธิ์ที่จะกุมบังเหียนเรื่องราวของพวกเราเอง มีหลายคนเปรียบเทียบฉันกับผู้กำกับคนอื่น หรือมาบอกว่าทำไมฉันไม่ทำหนังในแบบของตัวเองบ้าง ฉันเลยคิดว่า บ่มีวันจาก นี่ล่ะ ที่เป็นการแดกดันคำวิจารณ์เหล่านั้น หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความเศร้าและความมืดหม่น แต่ในแง่หนึ่งมันเป็นการล้อเลียนความคาดหวังว่าหนังเอเชียต้องมี ผี มีความลึกลับ มีฆาตกร มีเรื่องเหนือธรรมชาติ – นี่ไงล่ะ ฉันทำให้ครบทุกอย่างเลย!
-
วงการหนังลาวเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้
มันมีหลายปัจจัยที่จะทำให้หนังลาวพัฒนาไปข้างหน้า มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินทุนนะ คนทำหนังลาวรุ่นใหม่ต้องเข้าใจว่าโลกของการเล่าเรื่องมันกว้างใหญ่ และพวกเขาต้องหาทางเล่าเรื่องของตัวเองท่ามกลางเสียงดังกึกก้องข้างนอก ต้องรู้ว่าจะทำหนังให้คนท้องถิ่นดูหรือคนอื่นดูด้วย ต้องมีแรงผลักดัน ต้องกล้าลงมือทำไม่ว่าโอกาสจะมีมากหรือน้อยแค่ไหน
บ่มีวันจาก (The Long Walk) ฉายทาง Netflix