เมื่อดารา Wild Wild West เวอร์ชั่นเก่า ตบหน้าทีมงานฉบับรีเมค ขึ้นรับรางวัลยอดแย่แทน (ตั๋วร้อนฯ)

เมื่อดารา Wild Wild West เวอร์ชั่นเก่า ตบหน้าทีมงานฉบับรีเมค ขึ้นรับรางวัลยอดแย่แทน (ตั๋วร้อนฯ)

เมื่อดารา Wild Wild West เวอร์ชั่นเก่า ตบหน้าทีมงานฉบับรีเมค ขึ้นรับรางวัลยอดแย่แทน (ตั๋วร้อนฯ)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในยุคที่ Will Smith กำลังไปโลดกับแนวทางความเป็นแอ็คชั่นสตาร์ ผลงานต่างๆถูกการันตีว่าจะต้องทำรายได้ถล่มทลายเมื่อมีเขาแสดงนำ แต่กับหนังอย่าง Wild Wild West (1999) ทำให้เขาสะดุดล้มหัวคะมำ มันกลายเป็นภาพยนตร์รายจ่ายถล่มทลาย พร้อมเสียงก่นด่าอื้ออึง ถ้ามีใครเอาไมโครโฟนไปจ่อปากถามเหล่าดารานำเรื่องนี้ คำตอบที่ได้อาจเป็นนิ้วกลาง

  • Will Smith ปฏิเสธบทใน The Matrix (1999) แล้วมาทุ่มเทกับเรื่องนี้ เพราะคิดว่านี่คือทีมที่แน่นปึ้กมากทั้งดาราและผู้กำกับ Barry Sonnenfeld แห่งหนังทำเงินอย่าง The Addams Family และ Men in black ที่ตัวเขานำแสดง
  • Barry Sonnenfeld คือผู้กำกับ Men in black ที่ Will Smith ไว้ใจมาก พวกเขาทำเงินจาก MIB ไป 600 ล้านเหรียญสหรัฐ และการกลับมาร่วมงานกันครั้งนี้ต้องมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอน
  • Robert Conrad ผู้รับบทเป็น James "Jim" T. West ในเวอร์ชั่นต้นฉบับที่เป็นซีรีส์ยุค 60 ได้รับการติดต่อให้มารับเชิญในบทประธานาธิบดี แต่หลังจากที่อ่านบทแล้ว Robert Conrad ปฏิเสธทันทีแล้วบอกว่า อนาคตหนังเรื่องนี้จะความน่าอับอายของทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง
  • บทหนัง Wild Wild West ถูกแก้ไขตลอดเวลาทั้งช่วงที่มีการพัฒนา รวมไปจนถึงช่วงของการเริ่มต้นถ่ายทำ แม้แต่ตอนที่หนังถ่ายทำไปแล้วก็ยังมีการแก้ไขบทหนังแทบจะทุกช่วงเวลา
  • ทีมงานท้อถอยกับมันมาก เปิดฉากอย่างเร้าใจ แต่ทำไปทำมามันก็ถ่ายไม่จบเสียที มีการถ่ายซ่อมมากมายเพื่อเพิ่มความตลกขบขันเข้าไปในหนังที่จืดชืด

  • Will Smith บอกว่านี่คือหนังที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขา เช่นเดียวกับ Kevin Kline และ Salma Hayek ส่วน Kenneth Branagh บอกว่า เขารู้ว่าหนังจะห่วย ตั้งแต่ตอนที่เขาเข้าฉากด้วยการพูดสำเนียงอเมริกันห่วยๆในหนังแล้วผู้กำกับ Barry Sonnenfeld บอกว่าพอใจและให้ผ่านในทุกๆซีนแล้ว
  • หนังทุนสร้างบานปลาย 241 ล้านเหรียญเรื่องนี้ทำเงินไป 222 ล้านเหรียญทั่วโลก ล้มละลายเสียรังวัดไปตามๆกัน มีนักวิจารณ์แซวว่า รายได้ที่หนังเรื่องนี้ทำไป 113 ล้านในอเมริกา นั่นเพราะเด็กๆซื้อตั๋วเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้แอบเปลี่ยนโรงย่องเข้าไปดูสองหนังสัปดนที่พวกเขาไม่สามารถซื้อตั๋วเข้าไปชมได้อย่าง South Park: Bigger, Longer & Uncut (1999) และ American Pie (1999)
  • นักวิจารณ์ชื่อดังอย่าง Roger Ebert จาก The Chicago Sun-Times ให้คะแนนหนังเรื่องนี้เพียงหนึ่งดาวจากสี่ดาว โดยท่อนหนึ่งของบทความของเขาได้กล่าวว่า " Wild Wild West เป็นเขตแดน Dead zone ที่ตลกขบขัน เป็นอาณาจักรที่ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือ เต็มไปด้วยความล้มเหลวและความฉิบหาย หนังกลวงโบ๋ไม่มีอะไรซับซ้อน สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่หนังสาดใส่คนดู เหมือนเรากำลังนั่งดูคนเผาเงินเล่นบนจอหนัง ”

  • เพลงประกอบก็เป็นอีกส่วนที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะหนังเลือกใช้เพลงแนว Hip Hop และ R&B เป็นเพลงประกอบหนังแนวคาวบอยตะวันตก เพื่อให้เข้ากับดาราผิวดำอย่าง Will Smith มันเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ค่อนข้างยัดเยียด ทำลายความคลาสสิค ถึงแม้ว่าเพลงประกอบที่ทำโดย Interscope Records และ Overbrook Music จะขึ้นถึงอันดับที่ 4 ของ Billboard 200 แต่หนังเรื่องนี้ก็ได้รางวัลยอดแย่ Razzie Award สาขาเพลงประกอบอยู่ดี
  • Will Smith ออกมาขอโทษทุกๆฝ่าย รวมถึงผู้สร้างและนักแสดงในเวอร์ชั่นต้นฉบับด้วย
  • ในปีนั้น แน่นอนว่า Wild Wild West ชนะรางวัลหนังยอดแย่ Razzie Award ประจำปีไปถึง 5 สาขา คือ หนังยอดแย่ , คู่หูในหนังยอดแย่ (Will Smith กับ Kevin Kline ) , บทหนังยอดแย่ , ผู้กำกับยอดแย่ และ เพลงประกอบยอดแย่
  • Robert Conrad ผู้ซึ่งเล่นเป็น James "Jim" T. West ในต้นฉบับ ที่เดิมทีได้ปฏิเสธการมาแสดงบทรับเชิญ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้เลย แต่เขารับอาสาเป็นตัวแทนทุกคนจาก Wild Wild West ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีรางวัลหนังยอดแย่ Razzie Award พร้อมสวดส่งหนังไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ นี่คือการตอกย้ำความน่าอับอายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฮอลลีวู้ด

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ เมื่อดารา Wild Wild West เวอร์ชั่นเก่า ตบหน้าทีมงานฉบับรีเมค ขึ้นรับรางวัลยอดแย่แทน (ตั๋วร้อนฯ)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook