เมื่อดารา Wild Wild West เวอร์ชั่นเก่า ตบหน้าทีมงานฉบับรีเมค ขึ้นรับรางวัลยอดแย่แทน (ตั๋วร้อนฯ)
ในยุคที่ Will Smith กำลังไปโลดกับแนวทางความเป็นแอ็คชั่นสตาร์ ผลงานต่างๆถูกการันตีว่าจะต้องทำรายได้ถล่มทลายเมื่อมีเขาแสดงนำ แต่กับหนังอย่าง Wild Wild West (1999) ทำให้เขาสะดุดล้มหัวคะมำ มันกลายเป็นภาพยนตร์รายจ่ายถล่มทลาย พร้อมเสียงก่นด่าอื้ออึง ถ้ามีใครเอาไมโครโฟนไปจ่อปากถามเหล่าดารานำเรื่องนี้ คำตอบที่ได้อาจเป็นนิ้วกลาง
- Will Smith ปฏิเสธบทใน The Matrix (1999) แล้วมาทุ่มเทกับเรื่องนี้ เพราะคิดว่านี่คือทีมที่แน่นปึ้กมากทั้งดาราและผู้กำกับ Barry Sonnenfeld แห่งหนังทำเงินอย่าง The Addams Family และ Men in black ที่ตัวเขานำแสดง
- Barry Sonnenfeld คือผู้กำกับ Men in black ที่ Will Smith ไว้ใจมาก พวกเขาทำเงินจาก MIB ไป 600 ล้านเหรียญสหรัฐ และการกลับมาร่วมงานกันครั้งนี้ต้องมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอน
- Robert Conrad ผู้รับบทเป็น James "Jim" T. West ในเวอร์ชั่นต้นฉบับที่เป็นซีรีส์ยุค 60 ได้รับการติดต่อให้มารับเชิญในบทประธานาธิบดี แต่หลังจากที่อ่านบทแล้ว Robert Conrad ปฏิเสธทันทีแล้วบอกว่า อนาคตหนังเรื่องนี้จะความน่าอับอายของทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง
- บทหนัง Wild Wild West ถูกแก้ไขตลอดเวลาทั้งช่วงที่มีการพัฒนา รวมไปจนถึงช่วงของการเริ่มต้นถ่ายทำ แม้แต่ตอนที่หนังถ่ายทำไปแล้วก็ยังมีการแก้ไขบทหนังแทบจะทุกช่วงเวลา
- ทีมงานท้อถอยกับมันมาก เปิดฉากอย่างเร้าใจ แต่ทำไปทำมามันก็ถ่ายไม่จบเสียที มีการถ่ายซ่อมมากมายเพื่อเพิ่มความตลกขบขันเข้าไปในหนังที่จืดชืด
- Will Smith บอกว่านี่คือหนังที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขา เช่นเดียวกับ Kevin Kline และ Salma Hayek ส่วน Kenneth Branagh บอกว่า เขารู้ว่าหนังจะห่วย ตั้งแต่ตอนที่เขาเข้าฉากด้วยการพูดสำเนียงอเมริกันห่วยๆในหนังแล้วผู้กำกับ Barry Sonnenfeld บอกว่าพอใจและให้ผ่านในทุกๆซีนแล้ว
- หนังทุนสร้างบานปลาย 241 ล้านเหรียญเรื่องนี้ทำเงินไป 222 ล้านเหรียญทั่วโลก ล้มละลายเสียรังวัดไปตามๆกัน มีนักวิจารณ์แซวว่า รายได้ที่หนังเรื่องนี้ทำไป 113 ล้านในอเมริกา นั่นเพราะเด็กๆซื้อตั๋วเรื่องนี้ เพื่อที่จะได้แอบเปลี่ยนโรงย่องเข้าไปดูสองหนังสัปดนที่พวกเขาไม่สามารถซื้อตั๋วเข้าไปชมได้อย่าง South Park: Bigger, Longer & Uncut (1999) และ American Pie (1999)
- นักวิจารณ์ชื่อดังอย่าง Roger Ebert จาก The Chicago Sun-Times ให้คะแนนหนังเรื่องนี้เพียงหนึ่งดาวจากสี่ดาว โดยท่อนหนึ่งของบทความของเขาได้กล่าวว่า " Wild Wild West เป็นเขตแดน Dead zone ที่ตลกขบขัน เป็นอาณาจักรที่ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือ เต็มไปด้วยความล้มเหลวและความฉิบหาย หนังกลวงโบ๋ไม่มีอะไรซับซ้อน สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่หนังสาดใส่คนดู เหมือนเรากำลังนั่งดูคนเผาเงินเล่นบนจอหนัง ”
- เพลงประกอบก็เป็นอีกส่วนที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะหนังเลือกใช้เพลงแนว Hip Hop และ R&B เป็นเพลงประกอบหนังแนวคาวบอยตะวันตก เพื่อให้เข้ากับดาราผิวดำอย่าง Will Smith มันเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ค่อนข้างยัดเยียด ทำลายความคลาสสิค ถึงแม้ว่าเพลงประกอบที่ทำโดย Interscope Records และ Overbrook Music จะขึ้นถึงอันดับที่ 4 ของ Billboard 200 แต่หนังเรื่องนี้ก็ได้รางวัลยอดแย่ Razzie Award สาขาเพลงประกอบอยู่ดี
- Will Smith ออกมาขอโทษทุกๆฝ่าย รวมถึงผู้สร้างและนักแสดงในเวอร์ชั่นต้นฉบับด้วย
- ในปีนั้น แน่นอนว่า Wild Wild West ชนะรางวัลหนังยอดแย่ Razzie Award ประจำปีไปถึง 5 สาขา คือ หนังยอดแย่ , คู่หูในหนังยอดแย่ (Will Smith กับ Kevin Kline ) , บทหนังยอดแย่ , ผู้กำกับยอดแย่ และ เพลงประกอบยอดแย่
- Robert Conrad ผู้ซึ่งเล่นเป็น James "Jim" T. West ในต้นฉบับ ที่เดิมทีได้ปฏิเสธการมาแสดงบทรับเชิญ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้เลย แต่เขารับอาสาเป็นตัวแทนทุกคนจาก Wild Wild West ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีรางวัลหนังยอดแย่ Razzie Award พร้อมสวดส่งหนังไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ นี่คือการตอกย้ำความน่าอับอายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฮอลลีวู้ด
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ